สรุปตอน บทที่ 1340 ท่าทีเป็นมิตร, ร่างกายของข้าไม่ค่อยดี – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 1340 ท่าทีเป็นมิตร, ร่างกายของข้าไม่ค่อยดี ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ความวุ่นวายเกิดขึ้นในทันใด นอกจากวิ่งหนี บัณฑิตที่สร้างปัญหาขึ้นมาเหล่านั้นก็ทำอะไรไม่เป็น
แม่ทัพที่เฝ้าประตูอยู่ตกใจ เสด็จอาเก้าใช้กำลังเพื่อสร้างความสะดวกให้กับตนเองโดยการทุบตีบัณฑิตเหล่านี้ เสด็จอาเก้าไม่ต้องการชื่อเสียงแล้วอย่างนั้นหรือ? ไม่กลัวการกล่าวหาหรือการกล่าวโทษจากองค์จักรพรรดิเลยอย่างนั้นหรือ?
พูดตามความจริง เสด็จอาเก้าไม่ได้กลัวการกล่าวหาและการกล่าวโทษจากจักรพรรดิเลย ส่วนเรื่องชื่อเสียง?
แม้แต่ตระกูลจ้านกับสำนักศึกษาจี้เซี่ยยังไม่กล้าถามหาความรักผิดชอบจากการตายของผู้อาวุโสเหวินหยวนกับเสด็จอาเก้า แล้วบัณฑิตจะมีค่าอะไร?
ต่อให้ความเขาออกมาสร้างความวุ่นวายมากแต่ไหน เมื่อถึงเวลา ขอแค่มีบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่ออกมาพูดสักสองสามคำ การต่อต้านเขาก็จะสงบลงทันที
เสด็จอาเก้ายืนอยู่ตรงนั้นราวกับราชาผู้โดดเดี่ยว จ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยดวงตาอันเยือกเย็น ภายใต้เสียงอ้อนวอนของบัณฑิต เสด็จอาเก้าไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด บัณฑิตที่หวาดกลัวสองสามคนคิดหลบหนี แต่เส้นทางหนีของพวกเขาก็ถูกองครักษ์ปิดกั้นไว้หมดแล้ว
ความคิดของแม่ทัพผู้นั้นแสนง่ายดาย ขอแค่เสด็จอาเก้าออกคำสั่งให้องครักษ์ลงมือ ความวุ่นวายก็ยิ่งทวีความรุนแรง หากมีคนเสียชีวิตก็ยิ่งเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้ความไม่พอใจของบัณฑิตและประชาชนที่มีต่อเสด็จอาเก้าเพิ่มมากขึ้น เมื่อถึงเวลา เพื่อระงับความโกรธของประชาชน สุดท้ายเสด็จอาเก้าก็ต้องออกมารับโทษ
น่าเสียดายที่เขาคิดว่าเสด็จอาเก้าเป็นคนเรียบง่ายเกิดคน เขาสั่งให้องครักษ์ของเขานำผ้ามาพันดาบ ไม่ต้องการเห็นเลือดเห็นเนื้อ องครักษ์เหล่านี้ก็ไม่ใช่คนโง่ แต่ละคนลงมืออย่างรู้ผิดชอบชั่วดี ไม่ได้ต้องการเอาชีวิตของบัณฑิตที่อ่อนแอพวกนี้ มากที่สุดก็คือจัดการกับพวกเขาจนหมดสติ
กลุ่มบัณฑิตผู้อ่อนแอไม่สามารถยืนหยัดต่อหน้าองครักษ์ที่แข็งแกร่งได้ ภายในระยะเวลาสิบห้านาที บัณฑิตที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายหลายร้อนคนล้มลงอยู่บนพื้น แต่ละคนร้องโอดครวญออกมา มองมาที่เสด็จอาเก้าด้วยใบหน้าอันเคียดแค้น น้ำตาไหลออกมา ไม่พอใจกับความจริงที่เกิดขึ้น และเกลียดชังความจริงเช่นนี้เป็นที่สุด
“ให้หมอที่ร่วมเดินทางออกไปตรวจสอบอาการของพวกเขา ทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ตาย” เฟิ่งชิงเฉินลงมาจากรถม้า เฝ้ามองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และออกคำสั่ง
“ขอรับ” ไม่มีคนลังเลในคำสั่งของเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขารีบไปจัดการทันที
เหล่าหมอที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันรีบยกกล่องยาวิ่งออกไป แต่บัณฑิตเหล่านั้นกลับพูดออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าพวกคนหน้าซื่อใจคด อย่ามาตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าคิดจะมาติดสินบนพวกข้าด้วยวิธีนี้”
“พวกเจ้าคิดมากเกินไป พวกข้าไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาเสียเวลากับบัณฑิตที่ไร้ประโยชน์อย่างพวกเจ้า ที่ให้หมอเข้าไปตรวจดูพวกเจ้า ทั้งหมดก็เพื่อจะบอกกับทุกคนว่าพวกข้าไม่ได้ลงมือสังหารพวกเจ้า พวกเข้ายังมีชีวิตอยู่และสามารถเอาตัวรอดต่อไปได้ หากหลังจากนี้พวกเจ้าตายจากไป เช่นนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องของพวกข้า ทั้งหมดเป็นเพราะความปรารถนาของพวกเจ้าเอง แต่ดูจากท่าทางที่กล้าหาญของเจ้า คงไม่จำเป็นต้องให้หมอมาตรวจสอบ” ทหารคนสนิทไม่พอใจกับบัณฑิตที่สร้างความวุ่นวายเหล่านี้ตั้งนานแล้ว หลังจากเตะไปอีกครั้งก็เดินจากไป
บัณฑิตผู้นั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ น้ำตาของเขาไหลพรากออกมา
“ฉี่แตกอย่างนั้นหรือ? เจ้ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า?” เสียงร้องของเขาไม่เพียงแค่ไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากผู้คนเท่านั้น แต่ยังทำให้ทุกคนหัวเราะเยาะออกมา
เหล่าขุนนางมักจะปรากฏตัวออกมาหลังจากเรื่องคลี่คลายลง เมื่อแม่ทัพที่เฝ้าประตูเห็นว่าสถานการณ์สงบลงแล้ว เขาจึงเดินทางออกมาอย่างแข็งขันพร้อมกับทหารร้อยคน เมื่อบัณฑิตเห็นเช่นนั้นก็ต่างระบายความทุกข์ออกมา
แม่ทัพเฝ้าประตูแอบดีใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา เดินมาคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของเสด็จอาเก้าด้วยใบหน้าละอายใจ “ข้ามาช้าไป เสด็จอาเก้าโปรดลงโทษข้าด้วย”
แม่ทัพผู้นี้เพียงกล่าวออกมาตามหน้าที่ แต่คิดไม่ถึงว่าเสด็จอาเก้านั้นจะไปยอมปล่อยเขาไป ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเอ่ยปากออกมาว่า “ในฐานะที่เป็นแม่ทัพเฝ้าประตูเมือง เกิดความวุ่นวายเช่นนี้ขึ้น แต่กลับแสดงตัวออกมาอย่างล่าช้า เช่นนั้นหากเมืองหลวงตกอยู่ในอันตรายจะทำอย่างไร? นี่เป็นเพราะว่าข้ามีองครักษ์ส่วนพระองค์ หากประชาชนคนธรรมดาพบเจอกับเรื่องเช่นนี้ สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ก็คงมีแต่ความตาย เจ้าละเลยต่อหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ละเลยความปลอดภัยของเมืองหลวง คนอย่างเจ้า ข้าจะเก็บไว้เพื่อประโยชน์อันใด”
เมื่อเสียงของเสด็จอาเก้าเงียบลง เขาก็ชักดาบออกมาจากฝักดาบขององครักษ์ที่อยู่ด้านหลัง แม่ทัพที่เฝ้าประตูยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา เมื่อดาบถูฟันออกไป ศีรษะของเขาก็หลุดออกจำลำคอ
“ใต้เท้าฝู่มีความผิดอันใด หรือว่าใต้เท้าฝู่รับผิดชอบประตูเมือง? ผู้บัญชาการทหารราบเก้าประตูอยู่ที่ไหน?” คำพูดประโยคนี้ของเสด็จอาเก้าคือการลากผู้บัญชาการทหารราบเก้าประตูเข้ามาเกี่ยวข้อง เฟิ่งชิงเฉินรู้ได้เลยว่า การที่เสด็จอาเก้ากลับมาครั้งนี้ เขาต้องการคุมอำนาจทางการทหารของเมืองจักรพรรดิ
ฝู่หลินเองก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง หลังจากยิ้มให้เฟิ่งชิงเฉินเพื่อเป็นการกล่าวทักทาย เขาก็กล่าวกับเสด็จอาเก้าอย่างจริงจังว่า “ผู้บัญชาการทหารราบเก้าประตูไม่สบาย เวลานี้กำลังพักผ่อนอยู่ที่จวน”
“ช่างเป็นช่วงเวลาที่บังเอิญยิ่งนัก” เสด็จอาเก้ากล่าวด้วยความดูถูก มองมาที่ฝู่หลิน จากนั้นกล่าวออกมาว่า “ในเมื่อใต้เท้าฝู่มาแล้ว เช่นนั้นก็ขอมอบให้ใต้เท้าฝู่เป็นคนจัดการ”
“เสด็จอาเก้าทรงวางใจ ข้าจะไม่ทำให้เสด็จอาเก้าผิดหวังเป็นแน่” ฝู่หลินตอบรับอย่างหนักแน่น ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายในก็คือ เขาต้องการบอกกับเสด็จอาเก้าว่า เรื่องนี้จะจบลงอย่างงดงาม และจะไม่เกี่ยวข้องกับเสด็จอาเก้าเป็นแน่
“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดจักรพรรดิถึงได้ไว้ใจใต้เท้าฝู่ถึงเพียงนี้ ใต้เท้าฝู่ช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ” เสด็จอาเก้ายกย่องอย่างไม่เห็นแก่ตัว จากนั้นเปลี่ยนหัวข้อและกล่าวว่า “ใต้เท้าฝู่มีความสามารถเช่นนี้ ข้าจึงอยากจะรบกวนอีกสักเรื่อง คิดว่าคงไม่ลำบากเกินไป เมื่อใต้เท้าฝู่กลับไปยังพระราชวัง ช่วยรายงานองค์จักรพรรดิแทนข้า ร่างกายของข้าไม่ค่อยดี วันนี้คงไม่อาจเข้าเฝ้าจักรพรรดิได้ และข้าจะเข้าไปเพื่อขอโทษในวันหลัง”
พูดจบก็หันหลังเดินไปยังรถม้า ทิ้งฝู่หลินให้ยืนอยู่ตรงนั้นตามลำพัง มองไปที่ด้านหลังของเสด็จอาเก้าด้วยใบหน้าที่ไม่อาจอธิบายได้
“นี่มันไม่ใช่การโกหกซึ่งหน้างั้นหรือ? ร่างกายไม่ค่อยดี? ข้าควรจะรายงานกับจักรพรรดิอย่างไร ข้าต้องอยู่ฝ่ายไหนกันแน่ พวกเจ้าสองพี่น้องทะเลาะกัน เหตุใดต้องลากข้าเข้าไปด้วย” ความหดหู่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของฝู่หลิน พึมพำออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ใต้เท้า ท่านพูดอะไรอย่างนั้นหรือ?” ทหารคนสนิทที่อยู่ด้านหลังได้ยินฝู่หลินพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ฟังไม่ค่อยชัด เขาจึงรวบรวมความกล้าและถามออกมา......
เอาใจใต้เท้าฝู่ มันคือเรื่องจำเป็น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...