อ่านสรุป บทที่ 1342 จักรพรรดิ, ตระกูลฝู่ก็แค่นี้ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บทที่ บทที่ 1342 จักรพรรดิ, ตระกูลฝู่ก็แค่นี้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เพื่อสมบัติของตระกูลลู่ อย่าว่าแต่ทำให้เขาขุ่นเคือง ต่อให้ต้องทำให้จักรพรรดิขุ่นเคือง ลั่วอ๋องและฮองเฮาก็เลือกที่จะลงมือโดยไม่ลังเล เพราะสมบัติชิ้นนี้มันสามารถทำให้หัวใจของจักรพรรดิหวั่นไหวได้
ในตอนนั้น ซีหลิงบุกเข้าไปยังเกาะของตระกูลลู่ สร้างเหตุการณ์นองเลือด ยึดทรัพย์สมบัติของตระกูลลู่กลับมา พวกเขาถึงได้มีวันนี้
ว่ากันว่าสมบัติที่ราชวงศ์ซีหลิงนำไปนั้นเป็นเพียงความมั่งคั่งเพียงหนึ่งในสามของตระกูลลู่ สมบัติอันล้ำค่าส่วนใหญ่ของตระกูลลู่ยังคงถูกซ่อนอยู่ในที่ลับ มีเพียงคนของตระกูลลู่เท่านั้นที่รับรู้เรื่องนี้
ฮูหยินแห่งผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกง ลู่อีหราน สามารถนำทองคำออกมาได้ถึงสองแสนตำลึง ลองคิดดูว่าเงินจำนวนนั้นมันมากมายแค่ไหน
สมบัติที่อยู่ในมือขององค์หญิงหมิงเว่ย อย่าว่าแต่จะขึ้นครองบัลลังก์ของตงหลิงเลย ต่อให้ครอบครองทั่วทั้งใต้หล้ายังไม่เกินความเป็นจริง
“จับตาดูองค์หญิงหมิงเว่ยเอาไว้ ข้าต้องการรู้ที่อยู่ของสมบัติจำนวนนั้น” เสด็จอาเก้าไม่ได้ปกปิดนิสัยของโจรที่ปรากฏขึ้นมาจากดวงตาของเขาเลย
สมบัติของตระกูลลู่จะตกไปอยู่ในมือของผู้ใดก็ได้ แต่ไม่อาจปล่อยให้มันตกไปอยู่ในมือของตงหลิงจื่อลั่วได้ และเขาก็เชื่อว่าลู่อี่โม่เองก็ไม่อยากให้สมบัติของตระกูลลู่นั้นตกมาอยู่ในมือของตงหลิงจื่อลั่ว
หลังจากรายงานเรื่องใหญ่ทั้งสองเรื่องเสร็จ เรื่องที่เหลือก็เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ เสด็จอาเก้าจึงออกคำสั่งไปทันใด ลูกน้องของเขาก็ทำได้เพียงปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
หลังจากจัดการเรื่องทุกอย่าง คนรับใช้ก็เข้ามารายงานว่าแม่นางเฟิ่งตื่นแล้ว
เสด็จอาเก้าพยักหน้า บอกให้สายลับถอยออกไป ในตอนที่ก้าวออกมาจากประตูห้อง เขาเห็นพ่อบ้านวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน “ท่านอ๋อง มีพระราชโองการ ขอเชิญท่านอ๋องรับพระราชโองการด้วย”
“พระราชโองการ? ร่างกายของข้าไม่ค่อยดี เจ้าสามารถรับพระราชโองการแทนข้าก็ได้” เสด็จอาเก้าไม่ได้ถามเกี่ยวกับเนื้อหาของพระราชโองการ เดินตรงไปยังลานของเฟิ่งชิงเฉิน
ในขณะที่พ่อบ้านกำลังเตรียมตัวไปรับพระราชโองการ เสด็จอาเก้าก็เข้าไปทานอาหารค่ำพร้อมกับเฟิ่งชิงเฉิน หลังจากทานอาหารเสร็จ พ่อบ้านก็เข้ามาเพื่อรายงานเกี่ยวกับเนื้อหาของพระราชโองการ
“ท่านอ๋อง ฝ่าบาทได้ประทานยาชั้นดีแก่ท่าน พระราชโองการเขียนไว้ว่า ฝ่าบาทบอกให้ท่านพักผ่อนและดูแลสุขภาพอยู่ในจวนให้ดี ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเข้าไปในพระราชวัง” ฝ่ายามใช้ข้ออ้างของเสด็จอาเก้า กล่าวว่าเสด็จอาเก้านั้น “ร่างกายไม่ดี” จึงไม่อาจปล่อยให้เสด็จอาเก้าเข้าไปในพระราชสำนักได้
“ส่งยาไปยังจวนตระกูลซู และจัดเก็บพระราชโองการ” เสด็จอาเก้าไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องที่จักรพรรดิเพิกเฉยต่อเขา
แม้ว่าเขาเข้าไปในพระราชสำนัก เขาก็ไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานของภาครัฐอยู่ดี
“ขอรับ” พ่อบ้านเห็นท่าทางอันเฉยเมยของเสด็จอาเก้า ก็รู้ทันทีว่าเสด็จอาเก้ามีแผนเตรียมรับมือตั้งแต่แรก จึงไม่จำเป็นต้องกังวล
“จักรพรรดิต้องการแย่งชิงอำนาจไปจากเจ้า เจ้าไม่กังวลเลยงั้นหรือ?” ในที่สุดจักรพรรดิก็ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป ลงมือกับเสด็จอาเก้า หากเฟิ่งชิงเฉินยังไม่ตงิดใจกับเรื่องนี้ เรื่องราวก็คงจะสายเกินไป
“กังวล? ข้าจำเป็นต้องกังวลอะไรอย่างนั้นหรือ? อำนาจที่ข้ามีอยู่ ข้าไม่เคยได้มันมาจากจักรพรรดิ จักรพรรดิคิดจะมาแย่งชิง? เขาจะแย่งชิงอะไรไปจากข้าได้” เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาอย่างเย่อหยิ่ง คิดที่ไม่รู้อาจคิดว่าเสด็จอาเก้าคือจักรพรรดิที่แท้จริง
“ดูจากท่าทางของเจ้าแล้ว ข้าคงจะกังวลมากเกินไป ในเมื่อเจ้าไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าก็ขอตัวกลับก่อน” เฟิ่งชิงเฉินนอนมาทั้งบ่าย ร่างกายของนางเต็มไปด้วยพลัง
ที่อยากกลับไปยังจวนเฟิ่งนั้นไม่ใช่เพราะความเอาแต่ใจของนาง แต่เป็นเพราะนางห่างจากจวนเฟิ่งมานาน มีเรื่องราวมากมายที่รอให้นางกลับไปจัดการ คนที่สามารถจัดการเรื่องในจวนเฟิ่งได้มีแค่นางเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ได้ ข้าจะไปส่งเจ้า” แน่นอนว่าเสด็จอาเก้ารู้ดีว่าคนเป็นเจ้าบ้านนั้นงานยุ่งแค่ไหน
“กลับไปพักผ่อนให้ดี อย่าฟืนตัวเองอีกเด็ดขาด” เสด็จอาเก้าจูงมือเฟิ่งชิงเฉิน ค่อย ๆ ก้าวเดินออกไป คนรับใช้ได้เตรียมตัวตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะออกมาตอนไหน ก็พร้อมออกเดินทางในทุกเมื่อ
แต่ในตอนที่ทั้งสองเพิ่งจะเดินออกมาจากลานได้ไม่นาน สายลับผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหัน “ท่านอ๋อง ใต้เท้าฝู่รอท่านอยู่ในห้องหนังสือ” เสียงของสายลับไม่ได้ดัง แต่ก็ได้ยินกันทั้งสองฝ่าย
เสด็จอาเก้ารับป้ายคำสั่งนั้นไว้ พลิกไปพลิกมา เอนหลังลงไปเล็กน้อย ท่าทางของเขาดูผ่อนคลายยิ่งนัก
“ข้าอยากรู้ว่า เหตุใดใต้เท้าฝู่จึงตัดสินใจทำเช่นนี้” สำหรับฝู่หลิน จริงอยู่ว่าเสด็จอาเก้าอยากจะใช้งานเขา แต่ก็รู้สึกระแวดระวังอยู่ในใจ เนื่องจากความแค้นระหว่างตระกูลหลาน ตระกูลฝู่ และตระกูลเฟิ่งหลี ไม่ใช่สิ่งที่สามารถลบล้างได้ด้วยคำพูดเพียงสามคำ
“นกที่ดีเลือกต้นไม้ไว้อาศัยอยู่ คนรับใช้ที่ฉลาดก็เลือกเจ้านายของพวกเขาเพื่อรับใช้ ตระกูลฝู่ของข้ายินดีรับใช้กษัตริย์ผู้ชาญฉลาด” แต่ละคำที่ฝู่หลินกล่าวออกมาล้วนหนักแน่น แต่เสด็จอาเก้าก็ยิ้มออกมาโดยไม่ใส่ใจ “กษัตริย์ผู้ชาญฉลาด? จากมุมมองของข้า ใต้เท้าฝู่น่าจะเห็นดวงดาวจักรพรรดิบังเกิดขึ้น จึงเดิมพันความหวังทั้งหมดมาที่ข้า”
เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ร่างกายของฝู่หลินโดยตลอด เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของฝู่หลิน เสด็จอาเก้าก็รู้ได้ทันทีว่าการคาดเดาของตนเองนั้นถูกต้อง และมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของฝู่หลินนั้นคือความตั้งใจที่แท้จริง เห็นฝู่หลินไม่พูดอะไร เขาจึงกล่าวเสริมออกมา “ทำไม? การคาดเดาของข้าผิดไปอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ ท่านอ๋องคาดเดาได้อย่างแม่นยำ ข้าเห็นดวงดาวแห่งจักรพรรดิบังเกิดขึ้นจริง ถึงเลือกตัดสินใจออกมาเช่นนี้” ใบหน้าของฝู่หลินนิ่งสงบ แต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยคลื่นที่ซัดสาด เขาไม่อยากเชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีคนที่สามารถมองเห็นดวงดาวแห่งจักรพรรดิเหลืออยู่
ดวงความสงสัยในใจของฝู่หลิน สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะถามออกมาว่า “ท่านอ๋อง ไม่รู้ว่าข้าควรถามหรือไม่ ผู้ที่เห็นดวงดาวจักรพรรดิผู้นั้น เป็นใครอย่างนั้นหรือ?”
“ทำไมงั้นหรือ? ใต้เท้าฝู่คงไม่ได้คิดว่า บนโลกใบนี้มีแต่ตระกูลฝู่ของพวกเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำนายดวงชะตาจากดวงดาวได้? ใต้เท้าฝู่ ทั่วทั้งใต้หล้ามีสิ่งน่าอัศจรรย์อยู่มากมาย ตระกูลฝู่ของเจ้าไม่ได้โดดเด่นถึงเพียงนั้น” คำพูดดังกล่าวของเสด็จอาเก้าคือการดูหมิ่นตระกูลฝู่ ซึ่งไม่เกรงกลัวถึงความไม่พอใจของฝู่หลินเลยแม้แต่น้อย
หากเป็นก่อนหน้านี้ ฝู่หลินคงไม่มีทางยอมเป็นแน่ แต่เมื่อเสด็จอาเก้าพูดเรื่องดาวจักรพรรดิออกมา มันก็ทำให้ฝู่หลินไม่กล้าพูดจาโอหัง
หากข้างกายของเสด็จอาเก้ามีคนที่สามารถทำนายดวงชะตาได้อยู่แล้ว เช่นนั้นตระกูลฝู่ก็ไม่ได้สำคัญกับเสด็จอาเก้าขนาดนั้น เพียงแต่......
เขาได้ตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ไปแล้ว และไม่อาจย้อนกลับไปได้โดยง่าย หากเขาต้องการแสวงหาความมั่งคั่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เขาต้องแสดงความสามารถที่แท้จริงของเขา ฝู่หลินกำหมัดแน่นและกล่าวออกมาว่า “เสด็จอาเก้าโปรดวางใจ ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านได้เห็น ว่าตระกูลฝู่ของข้าคุ้มค่าแก่การไว้เนื้อเชื่อใจของท่าน”
“ข้าจะรอดู” เขาเองก็อยากรู้ ฝู่หลินจะทำอย่างไรเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...