รูปลักษณ์ที่ดูตกใจของเฟิ่งชิงเฉินทำให้องค์หญิงอันผิงพึงพอใจเป็นอย่างมาก รอยยิ้มบนใบหน้าขององค์หญิงอันผิงชัดเจนขึ้นกว่าเดิม
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าคุกเข่าตอนนี้ยังทัน ข้าเป็นคนมีจิตใจเมตตา เห็นแก่หน้าของเสด็จอาเก้า บางทีข้าอาจจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นอีกสักสองสามวัน” เมื่อนึกถึงตอนที่อยู่เป่ยหลิง ต้องการจะทำอะไรกับเฟิ่งชิงเฉิน นางก็สามารถทำได้ตามที่ใจนางต้องการ องค์หญิงอันผิงอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก และตั้งหน้าตั้งตารอคอยช่วงเวลานั้น
ชีวิตนี้ นางประสบปัญหามากมายด้วยเนื้อมือของเฟิ่งชิงเฉิน
หลังจากตกใจในช่วงแรก เฟิ่งชิงเฉินก็นิ่งสงบลง มองเห็นรอยยิ้มอันภาคภูมิใจขององค์หญิงอันผิง เฟิ่งชิงเฉินริมฝีปากของเฟิ่งชิงเฉินก็ยกขึ้น “องค์หญิง ต่อให้ข้าต้องเดินทางไปยังเป่ยหลิงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสินสอดให้ท่าน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องอยู่ในเป่ยหลิงตลอดไป”
ดูเหมือนว่านางจะมีวาสนากับเป่ยหลิงเป็นอย่างมาก ตอนแรกเสด็จอาเก้าคิดที่จะเดินทางไปยังเป่ยหลิงในนามของการแต่งงานอย่างเปิดเผยขององค์หญิงอันผิง แต่เวลานี้ดูเหมือนว่าปลายทางเดียวกัน จะสามารถใช้เส้นทางได้หลายเส้น นางกลายเป็นหนึ่งในสินสอดติดตัว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเดินทางไปยังเป่ยหลิง
เพียงแต่นางรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมากที่ถูกผู้อื่นเห็นว่าตนเองเป็นเพียงแค่สิ่งของ ความรู้สึกนี้มันช่างเป็นความรู้สึกที่แย่มากจริง ๆ
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าคิดว่าเป่ยหลิงนั้นเหมือนกับตงหลิงอย่างนั้นหรือ? ไม่มีเสด็จอาเก้าคอยปกป้อง ในเป่ยหลิง เจ้าจะไปทำอะไรได้ คิดจะหนีออกมาจากเป่ยหลิง? เจ้าฝันไปเถอะ หากข้ายังอยู่ในเป่ยหลิง เจ้าเองก็ต้องอยู่ในเป่ยหลิงเช่นกัน และหากข้ากลับมายังตงหลิง เจ้าก็ทำได้เพียงอยู่ที่เป่ยหลิงต่อไป” องค์หญิงอันผิงนึกถึงภาพอันงดงาม นางก็ไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มของนางเอาไว้ได้เลย “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าว่า เมื่อถึงเป่ยหลิง ไม่มีเสด็จอาเก้าคอยปกป้องเจ้า เจ้าจะยังโอหังได้อยู่อย่างนั้นหรือ?”
องค์หญิงหมิงเว่ยแสดงรอยยิ้มจาง ๆ ในเวลาที่เหมาะสม “ชิงเฉิน การที่ได้ออกเรือนไปพร้อมกับองค์หญิงถือเป็นโชคในชีวิต อันผิงเลือกเจ้า ถือว่าเป็นพรในชีวิตของเจ้า เจ้าจะต้องรู้จักรักษาน้ำใจไว้”
นางไม่ได้เกลียดชังเฟิ่งชิงเฉิน แต่นางอิจฉาเฟิ่งชิงเฉิน และตำหนิเฟิ่งชิงเฉินในใจ
หากไม่ใช่เพราะเฟิ่งชิงเฉิน นางก็สามารถแต่งงานกับเสด็จอาเก้าได้ นางคงไม่ทำให้ตัวเองต้องน่ารังเกียจถึงเพียงนี้ ไม่จำเป็นต้องสังหารอาจารย์ แต่......
ทั้งหมดเป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้นางไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ อาจารย์ตายไปแล้ว นางไม่มีทางให้เดินกลับไป นางทำได้เพียงแค่อยู่ในตงหลิง แต่นางไม่อยากเห็นหน้าเฟิ่งชิงเฉิน ไม่อยากเห็นเฟิ่งชิงเฉินอยู่ร่วมกับเสด็จอาเก้า ดังนั้นนางจึงแนะนำองค์หญิงอันผิงและฮองเฮา ให้เฟิ่งชิงเฉินเป็นขุนนางหญิง ติดตามอันผิงออกเรือนไปยังเป่ยหลิง เช่นนั้น......
นางจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าของเฟิ่งชิงเฉินอีกต่อไป และเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่มีทางได้อยู่กับเสด็จอาเก้าไปตลอดกาล
สิ่งที่องค์หญิงหมิงเว่ยพูดออกมานั้นไม่ได้เป็นคำพูดไร้สาระ เมื่อเฟิ่งชิงเฉินก้าวเท้าเข้าสู่จวนเฟิ่ง คำสั่งก็มาถึงจวนเฟิ่งในทันใด ฮองเฮาต้องการให้เฟิ่งชิงเฉินเป็นขุนนางขององค์หญิงอันผิง ไปเป็นเพื่อนข้างกายองค์หญิงอันผิงที่จะเดินทางไปแต่งงานกับเป่ยหลิง
คำสั่งถ่ายทอดออกมาอย่างรวดเร็ว มันเป็นสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าไม่อาจรับมือได้ทัน แม้คำสั่งจะไม่ได้รุนแรงและเด็ดขาดเหมือนกับพระราชโองการของจักรพรรดิที่หากใครขัดคำสั่งจะต้องถูกประหาร แต่มันก็เป็นอำนาจที่ไม่อาจท้าทายได้ อย่างน้อย ๆ เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่อาจปฏิเสธหรือละเลยการปฏิบัติ
“คุณหนู คราวนี้ควรทำอย่างไรดี?” ทงจือและทงเหยาแทบจะร้องไห้ออกมา
ตระกูลเฟิ่งมีเฟิ่งชิงเฉินเพียงคนเดียว หากมีสมองก็คงไม่มีใครเลือกเฟิ่งชิงเฉินไปเป็นผู้รับใช้คนสนิท นี่มันไม่ต่างอะไรกับการตัดอนาคตของตระกูลเฟิ่ง
เนื่องจากรู้เรื่องเหล่านี้ตั้งแต่แรก ดังนั้นเฟิ่งชิงเฉินจึงไม่รู้สึกตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย จ้องมองคำสั่งด้วยใบหน้าอันนิ่งสงบ จากนั้นก็มอบรางวัลให้กับขันทีที่นำคำสั่งดังกล่าวมามอบให้กับนางอย่างงาม
ขันทีที่ส่งคำสั่งมีสีหน้างุนงง คิดว่าเฟิ่งชิงเฉินคงตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก หันหลังและวิ่งหนีไป เกรงว่าเมื่อเฟิ่งชิงเฉินได้สติกลับคืนมาแล้วจะทุบตีเขา
เฟิ่งชิงเฉินหันไปมองคนรับใช้ที่อยู่ในห้อง แต่ละคนต่างมีสีหน้าซีดขาวราวกับคนตาย นางจึงเอ่ยปากออกมาว่า “เอาล่ะ พวกเจ้าจะทำท่าทางโศกเศร้าเพื่ออะไร ก็แค่ไปเป่ยหลิงในฐานะสินสอดไม่ใช่หรือ มันไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่กลับมาเสียหน่อย”
เฟิ่งชิงเฉินมอบคำสั่งดังกล่าวให้กับชุนฮุ่ย “เอาไปที่แท่นบูชา”
“คุณหนู ผู้รับใช้ในฐานะสินสอดนั้นไม่อาจกลับมาได้” ชุนฮุ่ยคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ จึงอธิบายออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา
“ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล แค่ทำในสิ่งที่ควรทำ ก่อนที่องค์หญิงอันผิงจะออกเดินทางยังมีเวลาอีกเดือนกว่า ช่วงเวลานี้อาจมีอะไรเกิดขึ้นอีกมากมาย” ดูเหมือนว่าองค์หญิงอันผิงจะระงับอารมณ์ของตนเองไม่ได้ หากองค์หญิงอันผิงสามารถระงับอารมณ์ของตนเองไว้ได้ รอให้ถึงเวลาก่อนออกเรือนสองสามวันค่อยประกาศคำสั่งนี้ออกมา เฟิ่งชิงเฉินก็จะไม่มีเวลาเตรียมตัว และเมื่อเดินไปทางไปถึงเป่ยหลิง นางก็จะถูกควบคุมโดยองค์หญิงอันผิง
แต่เวลานี้?
ในเมื่อนางคือทายาทของเฟิ่งหลีอ๋อง นางจำเป็นต้องแบกรับความผิดชอบของตระกูลเอาไว้ นางจำเป็นต้องควบคุมอำนาจของตัวเอง ลูกหลานของเฟิ่งหลีนั้นอยู่ในเป่ยหลิง เมื่อเดินทางไปถึงเป่ยหลิงแล้ว ใครจะเป็นผู้ควบคุมใคร เรื่องนี้ก็ยังไม่แน่
ความสงบของเฟิ่งชิงเฉินขจัดความกังวลของทุกคนในจวนออกไป เฟิ่งชิงเฉินคือกระดูกสันหลังของจวนเฟิ่ง ในเมื่อนางบอกว่าไม่ต้องกังวล เช่นนั้นคนรับใช้ในจวนก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
ทงจือและทงเหยายิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว “เป็นพวกข้าเองที่ระงับอารมณ์และความรู้สึกไว้ไม่ได้ คุณหนูได้โปรดให้อภัย”
“ไม่จำเป็นต้องลงโทษอะไร แต่เรื่องที่ข้าให้พวกเจ้าไปตรวจสอบ เวลานี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?” เฟิ่งชิงเฉินจ้องมองทั้งสองด้วยแววตาอันดุร้าย ช่วงนี้ทงจือและทงเหยามีเรื่องหลายเรื่องให้ต้องทำ ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีความคืบหน้ามากมายอะไร
รอยยิ้มบนใบหน้าของทงจือและทงเหยาแข็งทื่อในทันใด ตอบกลับมาด้วยความเคารพ “คุณหนู คนที่เผยแพร่ข่าวลือพวกนั้นก็คือคุณชายจั่วและคุณชายโอวหยาง”
“จั่วอั้นกับโต้วโต้ว? พวกเจ้าได้ถามเหตุผลของพวกเขาหรือไม่?” จั่วอั้นรนหาที่ตายจริง ๆ ไม่ว่าทำเรื่องอะไรก็มักจะนำความเดือดร้อนมาให้นาง สมควรได้รับการลงโทษ
“ข้ายังไม่ได้ถามเรื่องนี้กับคุณชายทั้งสอง” ทงจือและทงเหยาแทบจะร้องไห้ สองคนนั้นไม่ใช่คนที่พวกนางสามารถตามหาได้ กว่าพวกนี้จะสืบหาข่าวสารพวกนี้มาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ได้ทรมานพวกนาง บอกให้พวกนางเลิกยุ่งกับเรื่องนี้ นางจะเป็นคนไปถามด้วยตัวเอง
“ให้พวกเจ้าจับตาดูจวนเซี่ยเอาไว้ นี่มันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว? มีความคืบหน้าอะไรหรือไม่?” เฟิ่งชิงเฉินถามคำถามนี้ออกมาทุกครั้ง แต่ทงจือและทงเหยาก็ได้แต่ส่ายหน้า แต่วันนี้ทงจือไม่ส่ายหน้าอีกต่อไป แต่ตอบคำถามของนางออกมาอย่างกระตือรือร้น “คุณหนู มีข่าวมาจากสายลับที่ฝังตัวอยู่ในจวนเซี่ย นางบังเอิญได้ยินหัวหน้าตระกูลเซี่ยกล่าวถึงพวกขององค์หญิงใหญ่ ข้าสงสัยว่าตระกูลเซี่ยกับซีหลิงอาจจะมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างลับ ๆ”
“องค์หญิงใหญ่แห่งซีหลิง?” นิ้วของเฟิ่งชิงเฉินโค้งงอเล็กน้อย เคาะโต๊ะเบา ๆ ไม่ได้รับคำสั่งจาก ทงจือและทงเหยาก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา จนกระทั่งเฟิ่งชิงเฉินได้สติถึงสั่งให้ทั้งสองคนออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...