นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1355

ข่าวที่ว่าเฟิ่งชิงเฉินต้องเดินทางไปยังเป่ยหลิงในฐานะสินสอดติดตัวขององค์หญิงอันผิงแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้การเคลื่อนไหวของผู้จงใจ ไม่นานก็ถูกแพร่ไปทั่วเมืองจักรพรรดิ

บางคนก็รู้สึกเห็นใจเฟิ่งชิงเฉิน บอกว่าจวนเฟิ่งมีนายหญิงเพียงคนเดียว หากเฟิ่งชิงเฉินต้องเดินทางไปยังเป่ยหลิง เช่นนั้นก็เท่ากับการตัดอนาคตของตระกูลเฟิ่ง

การที่ตระกูลเฟิ่งยังมีเฟิ่งชิงเฉินอยู่ นางก็ยังสามารถหาเขยแต่งเข้า แต่เวลานี้เฟิ่งชิงเฉินต้องเดินทางไปยังเป่ยหลิง ทำให้ความหวังที่มีอยู่ไม่หลงเหลืออยู่เลย

ไม่ต้องรอให้จักรพรรดิเคลื่อนไหว องค์หญิงอันผิงก็ถ่ายทอดคำพูดของตนเองออกไป ทำให้เหล่าคนที่พูดและแสดงท่าทีเห็นอกเห็นใจเฟิ่งชิงเฉินถึงกับต้องกลืนน้ำลาย

องค์หญิงอันผิงเดินไปทางไปยังงานเยี่ยมชมดอกไม้ ในระหว่างอาหารค่ำ คุณหนูของตระกูลขุนนางผู้หนึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้ ทำให้องค์หญิงอันผิงหลั่งน้ำตาออกมา แสดงใบหน้าเหมือนกับผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในฐานะที่นางเป็นองค์หญิงผู้สูงส่ง แต่ต้องแต่งงานไปเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตงหลิงกับเป่ยหลิง แต่สิ่งที่นางก็ขอแค่ประชาชนคนหนึ่ง ที่อยากให้ติดตามไปพร้อมกับนาง เฟิ่งชิงเฉินไปกับนางในฐานะสินสอดไม่ได้อย่างนั้นหรือ?

เป่ยหลิงนั้นหนาวเหน็บ สภาพอากาศเลวร้าย นางสามารถมีชีวิตอยู่ในเป่ยหลิงได้นานแค่ไหนก็คือปัญหา ทักษะทางการแพทย์ของเฟิ่งชิงเฉินนั้นยอดเยี่ยม มีเฟิ่งชิงเฉินอยู่ข้างกาย นางไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความเจ็บป่วยหรือความเป็นตาย และไม่เป็นผลกระทบต่อการแต่งงานของนาง

เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ คนที่รู้สึกสงสารเฟิ่งชิงเฉินก็ถึงกับพูดไม่ออก ส่วนคนอื่น ๆ ก็เอาแต่ชื่นชมในความสูงส่งขององค์หญิงอันผิง

คำพูดเกี่ยวกับเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินถูกแต่งตั้งให้เป็นสินสอดติดตัว จึงทำให้ต้องเดินทางไปยังเป่ยหลิงแพร่กระจายไปตั้งแต่ขุนนางชั้นสูงจนถึงทาสใต้ดิน ทุกคนรู้เรื่องนี้กันเกือบหมด ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกชื่นชมในเรื่องความสามารถในการกระจายข่าวลือของฮองเฮากับลั่วอ๋อง

“คุณหนู ตอนนี้เรื่องราวได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยใบหน้าของตระกูลราชวงศ์ จักรพรรดิไม่มีทางเปลี่ยนตัวท่านง่าย ๆ เป็นแน่” ทงจือและทงเหยากังวลเป็นอย่างมาก พวกนางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหยุดข่าวเอาไว้ แต่มันก็ส่งผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“หลังจากฮองเฮาได้ถ่ายทอดคำสั่ง เจ้าคิดว่าหากไม่มีข่าวนี้ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเป่ยหลิงแล้วงั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินมองไปที่ทงจือและทงเหยาด้วยรอยยิ้ม นางตั้งใจที่จะไปเป่ยหลิงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“แต่ว่า......”

ทงจือและทงเหยายังอยากจะพูดอะไรออกมา แต่ในตอนนั้นเอง เซี่ยหว่านก็เดินเข้ามา หยุดการสนทนาของทั้งสามคน “ คุณหนู แม่ทัพหนุ่มซื่ออยากพบท่าน”

เฟิ่งชิงเฉินทำการผ่าตัดให้แม่ทัพใหญ่ซื่อ ตั้งแต่ที่เฟิ่งชิงเฉินนำมีดขาดเท่ากับนิ้วหัวแม่มือออกจากด้านหลังของแม่ทัพใหญ่ซื่อ แม่ทัพใหญ่ซื่อก็พักฟื้นอยู่ในจวนเฟิ่ง แม่ทัพหนุ่มซื่อมาเยี่ยมแม่ทัพใหญ่ซื่อทุกวัน เป็นลูกกตัญญูยิ่งนัก

“เข้าใจแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินกังวลว่าอาจจะมีปัญหาในเรื่องการฟื้นตัวของแม่ทัพใหญ่ซื่อ ไม่กล้ารอรี เดินไปยังลานที่แม่ทัพใหญ่ซื่อพักอาศัยอยู่ชั่วคราว

เห็นองครักษ์ที่เต็มไปด้วยจิตสังหารทั้งสิบแปดคนยืนอยู่หน้าประตู หากไม่ใช่เพราะเฟิ่งชิงเฉินคุ้นเคยกับรัศมีเช่นนี้ นางคงตกใจไม่น้อย

เมื่อเข้าไป นางก็เห็นแม่ทัพหนุ่มซื่อนั่งอยู่บนม้านั่งนอกลาน เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินเข้ามา เขาพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับกล่าวว่า “เชิญนั่ง”

“แม่ทัพหนุ่มซื่อ เรียกข้ามามีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ? หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นกับแม่ทัพใหญ่?” แม้เสด็จอาเก้าจะเน้นย้ำอยู่หลายครั้งว่าซื่อเฉิงผู้นี้นั้นสามารถคบหาได้ แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ชอบที่จะคบหากับซื่อเฉิงผู้นี้เอาเสียเลย

สามารถฝึกทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อออกมาได้ องครักษ์ที่เย่อหยิ่งขนาดนั้น ความเย่อหยิ่งของซื่อเฉิงก็คงไม่อาจเปรียบ ตอนนั้นนางต้องทนทุกข์ทรมานกับทหารม้าสิบแปดของตระกูลซื่อมากเพียงใด เวลานี้นางก็ไม่ชอบซื่อเฉิงมากเท่านั้น

ซื่อเฉิงสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ เขากล่าวออกมาว่า “ไม่ใช่ ข้าแค่มีเรื่องจะคุยกับเจ้า”

“แม่ทัพหนุ่มซื่อมีเรื่องอันใด เชิญพูดมาได้เลย” เห็นแก่หน้าของแม่ทัพใหญ่ซื่อ เฟิ่งชิงเฉินพยายามสุภาพให้มากที่สุด ใบหน้าของนางมีรอยยิ้มเผยออกมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้

“ข้าได้ยินมาว่าอีกไม่นานเจ้าจะต้องเดินทางไปยังเป่ยหลิงพร้อมกับองค์หญิงอันผิง และไม่มีทางกลับมาอีกตลอดไป” ซื่อเฉิงเน้นคำว่า “ตลอดไป” เป็นพิเศษ

เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้า “ตามคำสั่งของฮองเฮาก็เป็นเช่นนั้น” ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร มันไม่ใช่สิ่งที่กระดาษแผ่นนั้นจะมาตัดสิน

ซื่อเฉิงไม่สนใจว่าเฟิ่งชิงเฉินจะไปไหน เขาเพียงสนใจแค่ “เช่นนั้นอาการป่วยของข้า?”

“อาการป่วยของเจ้า? มันเกี่ยวอะไรกับข้า?” เฟิ่งชิงเฉินเอนหลังเล็กน้อยด้วยสีหน้าติดตลก

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าอย่าให้มันมากเกินไป เจ้ารู้ว่าข้ากำลังหมายถึงอะไร” ใบหน้าของซื่อเฉิงเน่าบูด หากไม่ใช่ว่ามาเพื่อขอร้อง เขาไม่มีทางพูดคำพูดเช่นนี้กับผู้หญิงเป็นแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ