นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1357

ฮองเฮาจัดงานเลี้ยงในพระราชวัง แน่นอนว่าด้วยสถานะของเฟิ่งชิงเฉินแล้ว นางไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่เมื่อถูกเชิญ นางก็ไม่จำเป็นต้องมาก่อนเวลา ไม่จำเป็นต้องเอาใจฮองเฮา นางแค่ต้องปรากฏตัวให้ตรงเวลาเท่านั้น

ลงจากรถม้า เฟิ่งชิงเฉินก็เดินเข้าไปในพระราชวังภายใต้การนำทางของสาวใช้ ตรงเข้าไปยังห้องจัดงานเลี้ยง แต่เพิ่งจะเดินไปได้สองก้าวก็มีเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลัง

“เร็ว รีบหลบไป ระวัง ระวัง”

“ม้ากำลังบ้าคลั่ง รีบหลีกไป”

......

เฟิ่งชิงเฉินมองย้อนกลับไป เห็นม้าสีน้ำตาลแดงตัวใหญ่วิ่งมาทางนางด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก เพียงชั่วพริบตา ระยะห่างระหว่างม้ากับนางก็เหลือเพียงแค่ร้อยเมตรเท่านั้น

ด้วยความเร็ว หากถูกมันพุ่งชน สิ่งที่รออยู่ก็มีแค่ความตายเท่านั้น

“เร็ว รีบหลบเร็ว ยังจะยืนงงอะไรอยู่ อยากตายหรือไง” คนที่อยู่ด้านข้างตะโกนออกมา น้ำเสียงนั้นก็ไม่ได้ดูเร่งร้อนแต่อย่างใด เห็นได้ชัดว่ากำลังคุยกับคนอื่นอยู่

ความเบื่อหน่ายปรากฏออกมาจากแววตาของเฟิ่งชิงเฉิน ด้านซ้ายและด้านขวาของนางไม่มีใครอยู่ มีนางเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ท่ามกลางถนนอันกว้างใหญ่ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแผนการที่ต้องการกำจัดนาง และคนที่รับรู้ก็มีอยู่มากมาย ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็กำลังจ้องมองอย่างมีความสุข

คนพวกนี้คิดว่า เมื่อไม่มีเสด็จอาเก้ายื่นมือเข้ามาช่วย แล้วนางจะน่ารังแกขนาดนั้นเลยงั้นหรือ? แถมยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจเช่นนี้

เห็นว่าม้ากำลังพุ่งเข้ามา เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด นางเบี่ยงตัวหลบ คิดจะกระโดดขึ้นไปบนหลังม้าเมื่อม้าพุ่งผ่าน ในตอนที่นางกำลังจะกระโดด แม้มันจะไม่ได้ผล อย่างน้อยนางก็สามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้ชั่วคราว

แต่ในตอนนั้นเอง ร่างเงาของใครคนหนึ่งก็เข้ามาดึงแขนของเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นนางก็หมุนตัว ตกเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่แข็งแรง

ในพระราชวัง ยังมีคนที่คอยให้ความช่วยเหลือนางอยู่อีกอย่างนั้นหรือ?

เฟิ่งชิงเฉินตะลึงงัน เสียงปรบมือดังกึกก้องอยู่ข้างหนู คนที่อยู่ด้านข้างต่างตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “ท่านลั่วอ๋องช่างกล้าหาญยิ่งนัก”

“ท่านลั่วอ๋องกล้าหาญและทรงพลังมาก”

มีเสียงของขุนนาง สาวรับใช้ และคนที่เข้ามาร่วมงานตะโกนออกมาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินแข็งทื่อ ผลักลั่วอ๋องออกไป ถอยหลังออกมาสามก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง กล่าวออกมาอย่างสุภาพ “ขอบคุณท่านลั่วอ๋องเป็นอย่างมาก”

ส่วนเรื่องบุญคุณนั้น เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้เอ่ยถึงเลยแม้แต่น้อย ต่อให้ไม่มีลั่วอ๋องนางก็ไม่ตาย มากที่สุดก็แค่อับอายเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ชุดที่นางสวมใส่อยู่นั้นไม่เหมาะกับการขี่ม้า ไม่เหมาะกับการวิ่งหรือเคลื่อนไหว เมื่อถึงเวลานางจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด และดูเหมือนว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้จะไม่ได้วางแผนที่จะเอาชีวิตของนาง

ความอบอุ่นในอ้อมแขนหายไปทันใด ความผิดหวังปรากฏขึ้นในแววตาของตงหลิงจื่อลั่ว เห็นว่ารอบ ๆ มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก ตงหลิงจื่อลั่วรีบปกปิดความผิดหวังอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กล่าวออกมาอย่างสง่างาม “แม่นางเฟิ่งไม่จำเป็นต้องเกรงใจ นี่ก็เป็นแค่การช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

ไม่รอให้เฟิ่งชิงเฉินพูดอะไรมาก องครักษ์ก็วิ่งเข้ามารายงานว่า มาตัวที่บ้าคลั่งเมื่อครู่นั้นได้ตายลงไปแล้ว

ดาบขององครักษ์เต็มไปด้วยเลือด กลิ่นเลือดที่รุนแรงทำให้ใบหน้าของลูกสาวตระกูลขุนนางใหญ่ต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แต่ละคนเบือนหน้าหนี เฟิ่งชิงเฉินจ้องมองอย่างเฉยเมย ไม่ได้คิดอะไรมาก ทำความเคารพและเดินจากไป ลั่วอ๋องยื่นมือมารั้งเฟิ่งชิงเฉินไว้ แต่มันก็สายไปก้าวหนึ่ง มีเพียงปลายของแขนเสื้อเท่านั้นที่สัมผัสกับมือของเขา

ลั่วอ๋องกำหมัดเบา ๆ จากนั้นก็ปล่อยออก......มองดูมืออันว่างเปล่า เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย หันหลังและเดินไปอีกทางหนึ่ง และทางนั้นก็เป็นตำหนักที่องค์หญิงอันผิงอาศัยอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ