นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1358

คุณชายใหญ่มา?

นี่มันมาได้จังหวะเกินไปหรือเปล่า เป็นจังหวะที่ขัดคำพูดที่แสนหวานของฮองเฮา ทุกคนต่างมองไปที่เฟิ่งชิงเฉิน พวกนางไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องบังเอิญ

เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่นั้น มันไม่สำคัญ หวังจิ่นหลิงมาแล้ว องค์หญิงหมิงเว่ยหมดอำนาจในการคุกคาม นางจะยังต้องกังวลอะไร?

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาอย่างเมตตา เพิกเฉยต่อสายตาแห่งความสงสัยของทุกคน ทานอาหารบนโต๊ะอย่างสบายใจ ท่าทางที่ดีสบายใจของนาง ทำให้ฮองเฮา อันผิง และหมิงเว่ยรู้สึกประหม่าอย่างชัดเจน

หวังจิ่นหลิงเดินทางไปหนานหลิงไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้กลับมาเวลานี้?

ความไม่สบายใจปรากฏออกมาจากแววตาของฮองเฮา หัวใจขององค์หญิงหมิงเว่ยเองก็จมดิ่ง มีเพียงองค์หญิงอันผิงเท่านั้นที่ไม่คิดอะไร มองเห็นท่าทางที่เย่อหยิ่งของเฟิ่งชิงเฉิน นางอยากจะตำหนิอีกฝ่ายในทันใด แต่ก็ถูกองค์หญิงหมิงเว่ยห้ามเอาไว้

แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย แต่มันก็อยู่ในสายตาของเฟิ่งชิงเฉิน นางรู้สึกโชคดีเป็นอย่างมากที่นางได้ลงมือก่อนล่วงหน้า ลากตัวขององค์หญิงหมิงเว่ยออกไป ไม่อยากนั้นหากปล่อยให้คนอย่างองค์หญิงหมิงเว่ยอยู่ต่อไป นางจะต้องเป็นหายนะอันยิ่งใหญ่เป็นแน่

ผู้หญิงที่สามารถละทิ้งความรู้สึกใจหัวใจเพื่อปีนป่ายขึ้นไปยังจุดที่ตนเองต้องการนั้นน่ากลัวว่าผู้หญิงที่เอาแต่ใจและใช้ชีวิตไปโดยไม่คิดอะไรอย่างองค์หญิงอันผิงมาก องค์หญิงหมิงเว่ยมีทักษะและความคิดที่ชาญฉลาด หากนางได้รับอำนาจขึ้นมา นางจะต้องกลายเป็นศัตรูที่น่าเกรงขาม

เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยดูถูกอีกฝ่าย ดังนั้นก่อนที่องค์หญิงหมิงเว่ยจะเติบใหญ่ นางจำเป็นต้องกำจัดองค์หญิงหมิงเว่ยทิ้งไปเสียก่อน

“ข้ากำลังอยู่ในงานเลี้ยง ให้คุณชายใหญ่รอสักครู่” ฮองเฮาระงับความไม่สบายใจเอาไว้ กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม ขันทีน้อยผู้นั้นได้ยินก็ได้แต่ตัวสั่น แต่ไม่กล้าถอยออกไป และพูดออกมาว่า “เหนียงเหนียง คุณชายใหญ่บอกว่ามีเรื่องด่วนต้องการเข้าเฝ้าเหนียงเหนียงในทันที หากเหนียงเหนียงเพิกเฉยต่อเขา เช่นนั้นก็ให้องค์หญิงหมิงเว่ยออกไปแทน และบอกอีกว่า บอกอีกว่า.......”

เมื่อได้ยินชื่อของตนเอง องค์หญิงหมิงเว่ยรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์อันเลวร้าย มือทั้งสองข้างกำแน่น ถามออกมาอย่างร้อนรน “บอกว่าอะไร?”

“บอกว่าทูตแห่งหนานหลิงมาขอพบองค์หญิงหมิงเว่ย” ขันทีน้อยตกใจจนแทบทนไม่ไหว แต่เขาก็พูดทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจน ใบหน้าขององค์หญิงหมิงเว่ยซีดขาว ถามออกมาอีกว่า “ทูตแห่งหนานหลิงมาที่นี่เพื่อเหตุใด?”

คราวนี้ขันทีน้อยไม่ได้ตอบกลับไป แต่เป็นเฟิ่งชิงเฉินที่กินอิ่มและดื่มอย่างเพียงพอเป็นคนลุกขึ้นมาแทน “เหนียงเหนียง องค์หญิง ในเมื่อคุณชายใหญ่และทูตแห่งหนานหลิงมาขอเข้าเฝ้า เช่นนั้นพวกข้าก็คงไม่รบกวน ชิงเฉินขอกล่าวลา”

เฟิ่งชิงเฉินทำท่าเคารพอย่างสุภาพ จากนั้นก็หันหลังและเดินจากไป ทำให้ฮองเฮาโกรธจนแทบทนไม่ไหว

เย่อหยิ่งเกินไป คนผู้นี้ช่างเย่อหยิ่งเสียเหลือเกิน

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้” ฮองเฮาตบโต๊ะและพูดออกมาด้วยความโกรธ

“เหนียงเหนียงมีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ใจกลางของห้องโถงด้วยท่าทางสงบ แต่ดวงตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

“เจ้า เจ้าช่างกล้าดียิ่งนัก ทหาร......” ฮองเฮาตะโกนเสียงดัง ราชองครักษ์รีบวิ่งเข้ามา ฮองเฮาชี้ไปที่เฟิ่งชิงเฉินแล้วสั่งออกมาว่า “จับตัวนางไว้”

“พ่ะย่ะค่ะ” ราชองครักษ์รับคำสั่งทันที แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขาก็ลังเล มองหน้ากัน ไม่กล้าก้าวไปด้านหน้า ฮองเฮาจึงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ทำไม? พวกเจ้าไม่ฟังคำสั่งของข้าแล้วอย่างนั้นหรือ?”

“เหนียงเหนียง ได้โปรดยกโทษให้พวกข้าด้วย” เสียงคุกเข่าดังขึ้น ราชองครักษ์ยอมรับความผิด ปฏิเสธที่จะเข้าไปจับกุมเฟิ่งชิงเฉิน

ราชองครักษ์พ่ายแพ้ให้กับเฟิ่งชิงเฉินมานับครั้งไม่ถ้วน และทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับเฟิ่งชิงเฉิน ราชองครักษ์ก็จะเป็นฝ่ายที่โชคร้าย ผู้บัญชาการราชองครักษ์คนใหม่ ใต้เท้าฝู่เคยเตือนพวกเขาไว้ว่า หากได้เผชิญหน้ากับเฟิ่งชิงเฉิน ให้พวกเขาปลีกตัวออกห่าง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเขาก็ไม่อาจให้ความช่วยเหลือได้

เฟิ่งชิงเฉินพูดกับราชองครักษ์ด้วยความเมตตา “เหนียงเหนียงอย่างทำให้พวกเขาลำบากใจเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะเหนียงเหนียงไม่รู้ แต่ราชองครักษ์เหล่านี้รู้ ป้ายคำสั่งของจักรพรรดิองค์ก่อนที่มอบให้เสด็จอาเก้าอยู่ในมือของข้า ราชองครักษ์เหล่านี้จึงไม่กล้าแตะต้องข้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ