เฟิ่งชิงเฉินรู้มาโดยตลอดว่าภูมิหลังของครอบครัวมีความสำคัญเพียงใด หากต้องการลากลั่วอ๋องลงมาจากตำแหน่ง วิธีที่ดีที่สุดก็คือลงมือกับฮองเฮาใน ตอนที่ฮองเฮาไม่ใช่ฮองเฮาอีกต่อไป สถานะของลั่วอ๋องและองค์หญิงอันผิงก็จะลดลงเป็นอย่างมาก
เมื่อเทียบกับโจวอ๋อง ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลั่วอ๋องก็คือ เขาเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุผลที่องค์รัชทายาทองค์ก่อนถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทก็เพราะเขาเป็นลูกของฮองเฮาคนก่อน สถานะของเขานั้นเหนือกว่าองค์ชายคนอื่นเป็นอย่างมาก
รองจากองค์รัชทายาทองค์ก่อน พระราชโอรสที่โดดเด่นที่สุดก็คือลั่วอ๋อง หากจักรพรรดิสิ้นพระชนม์โดยไม่ทิ้งราชโองการสืบราชบัลลังก์ ก็มีโอกาสสูงที่ลั่วอ๋องจะได้สอบทอดราชบัลลังก์ต่อไป
“ปล่อยให้ลั่วอ๋องได้ครองบัลลังก์ไม่ได้เป็นอันขาด” หลังจากผ่านช่วงยุ่งงาน หวังจิ่นหลิงก็กลับมายังจวนเฟิ่งอีกครั้ง และได้พบกับซูเหวินชิงที่มาหาเฟิ่งชิงเฉินเช่นกัน
ซูเหวินชิงพยักหน้า “คุณชายใหญ่พูดถูก ปล่อยให้ลั่วอ๋องขึ้นครองบัลลังก์ไม่ได้เป็นอันขาด หากเขาได้ครองบัลลังก์ขึ้นมาจะต้องเกิดปัญหาเป็นแน่ เขาไม่มีทางปล่อยเสด็จอาเก้ากับเจ้าไปเป็นแน่”
ด้วยนิสัยของลั่วอ๋อง เขาจะต้องดึงตัวเฟิ่งชิงเฉินกลับไปอยู่ในกำมือของเขาเพื่อเป็นการดูหมิ่นและเย้ยหยันเสด็จอาเก้า ลั่วอ๋องเป็นองค์ชายนิสัยเสีย เวลานี้เขายังอดทนเอาไว้ได้ แต่หากได้ครองบัลลังก์ขึ้นมา เขาไม่มีทางทนต่อไปอีกเป็นแน่
“เช่นนั้นเจ้าอยากให้โจวอ๋องขึ้นครองบัลลังก์งั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินถามซูเหวินชิงกลับไป
“แน่นอนว่าไม่” ซูเหวินชิงปฏิเสธออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กล่าวอย่างเคร่งขรึม “สองคนนี้ ไม่ว่าใครได้ขึ้นครองบัลลังก์ก็ล้วนไม่เป็นประโยชน์ต่อเสด็จอาเก้า ไม่ว่าจะเป็นลั่วอ๋องหรือโจวอ๋อง ทั้งคู่ต่างเป็นคนที่เฉียบแหลมและแข็งแกร่ง พวกเขาได้เปิดศึกกับเสด็จอาเก้าอย่างเปิดเผยไปแล้ว หากพวกเขาได้กุมอำนาจ จะต้องหันดาบมาทางเสด็จอาเก้าเป็นแน่
เวลานี้พวกเขาไม่ใช่เทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้รับความยิ่งใหญ่จากพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีความเข้าใจ สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำคือขึ้นรับตำแหน่งและจัดการกับเสด็จอาเก้า ด้วยนิสัยและอารมณ์ของพวกเขา พวกเขาสามารถเขย่ารากฐานของประเทศได้อย่างไม่ลังเล
แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะไม่กลัวพวกเขา แต่สถานการณ์ของประเทศทั้งสี่และหัวเมืองทั้งเก้าในตอนนี้กำลังอยู่ในความตึงเครียด เสด็จอาเก้าไม่มีเวลามากพอที่จะเอามาทิ้งไว้กับตงหลิง ตอนนั้นเพื่อให้จักรพรรดิยอมถอย เสด็จอาเก้าต้องเสียเวลาไปนานหลายปี เขาไม่อาจเสียเวลาต่อไปได้อีกแล้ว แม้แค่ปีเดียวก็ตาม หากทุกอย่างล่องลอยไปตามสายลมและสายฝน พวกเราก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย”
ไม่มีจักรพรรดิองค์ใดยอมปล่อยให้อำนาจของตนเองตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น ที่จักรพรรดิปฏิบัติกับเสด็จอาเก้าเช่นนี้ก็เพราะเขาทำอะไรไม่ได้ หากจักรพรรดิต้องการครองโลก ขอแค่เสด็จอาเก้าไม่ต้องการครอบครองบัลลังก์ เขาก็ต้องยอมเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ปล่อยให้เสด็จอาเก้าได้มีอิสระในขอบเขต ส่วนเรื่องจักรพรรดิองค์ใหม่ เรื่องนี้มันก็พูดยาก
ตอนแรกนางก็แค่อยากจะดึงฮองเฮาลงมา แต่เวลานี้ดูเหมือนว่านางคงต้องยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องของราชสำนักด้วย เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “จักรพรรดิยังไม่ตาย การที่พวกเราพูดคุยถึงเรื่องพวกนี้มันไม่เร็วไปหน่อยหรือ?”
“ไม่เร็ว จักรพรรดิจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ข้าได้ยินมาจากหมอหลวงในพระราชวังแล้ว ร่างกายของจักรพรรดินั้นว่างเปล่า ภายนอกจากจะดูเหมือนคนปกติทั่วไป แต่อวัยวะภายในเสียหาย ต่อให้พักฟื้นดีแค่ไหนก็มีชีวิตได้อีกไม่เกิดสองปี แต่หากถูกกระตุ้นด้วยเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าจะอยู่ได้อีกเพียงไม่กี่เดือน แน่นอนว่าจักรพรรดินั้นไม่รู้เรื่องนี้” ในตอนที่หวังจิ่นหลิงพูดออกมา เขาจงใจมองไปที่เฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ได้หลบตา พยักหน้าตอบรับเบา ๆ ยืดอกยอมรับว่าเป็นฝีมือของนาง
นางวางแผนมาเป็นปี มอบยาให้กับนางสนมเหล่านั้น สิ่งที่นางรออยู่ก็คือวันนี้
“สามารถหลบหลีกการตรวจสอบของหมอหลวงได้ ทักษะทางการแพทย์ของชิงเฉินก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว” หวังจิ่นหลิงชื่นชมจากใจจริง ตอนแรกซูเหวินชิงไม่เข้าใจว่าทั้งสองคนกำลังพูดอะไรกัน แต่เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของหวังจิ่นหลิงเขาก็เข้าใจในทันที “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก”
ถึงขั้นกล้าลงมือกับจักรพรรดิอย่างลับ ๆ ขนาดเสด็จอาเก้ายังไม่กล้าทำ ข้างกายของจักรพรรดิมีคนสนิทอยู่มากมาย หากจักรพรรดิรู้สึกตัว ทำการโต้กลับทุกวิถีทาง ผลที่ตามมา ต่อให้เป็นเสด็จอาเก้าก็ไม่อาจแบกรับเอาไว้ได้
แม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตนเองทำอะไรลงไป แต่จะให้พูดออกมาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่มีทางยอมรับ นางกล่าวออกไปอย่างตำหนิ “เจ้าพูดอะไรของเจ้า ข้าไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ข้าเป็นหมอ ก็แค่จ่ายยาในสิ่งที่ผู้ป่วยหรือคนไข้ต้องการเท่านั้น”
แต่ในยาดังกล่าวมียาพิษอยู่สามส่วน จักรพรรดิใช้ยาดังกล่าวเกินขนาดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาง นางได้เตือนพวกนางสนมไปแล้ว บอกให้พวกนางใช้ยาตามจำนวน แต่พวกนางแค่ไม่ยอมฟังเท่านั้น
“หมอหลวงบอกว่าจักรพรรดิมีกิจกรรมทางเพศมากเกินไป” หวังจิ่นหลิงกล่าวออกมาเพื่อเป็นพยานให้เฟิ่งชิงเฉิน เห็นได้ชัดว่าซูเหวินชิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสองคน จึงยอมเงียบปากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...