นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1363

สรุปบท บทที่ 1363 เลือดเย็น, เสด็จอาเก้ามีอะไรดี: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1363 เลือดเย็น, เสด็จอาเก้ามีอะไรดี – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 1363 เลือดเย็น, เสด็จอาเก้ามีอะไรดี ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ลั่วอ๋องปรากฏตัวออกมา แม้ว่าจะเกินความคาดหมายของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด ต่อให้สายลับและจั่วอั้นไม่อยู่ นางก็ยังมีแม่ทัพหนุ่มซื่อ

ตราบใดที่ลั่วอ๋องไม่ลงมืออย่างป่าเถื่อน สังหารนางทันทีโดยไม่พูดอะไร แค่นั้นนางก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

เฟิ่งชิงเฉินเพิกเฉยต่อจิตสังหารที่พลุ่งพล่านของตงหลิงจื่อลั่ว ยกถ้วยขึ้นมาวางบนโต๊ะ จากนั้นก็รินน้ำใส่ถ้วยทั้งสอง จากนั้นก็ยื่นถ้วยหนึ่งมาด้านหน้าของลั่วอ๋อง “ลั่วอ๋อง เชิญนั่ง”

นางดูสงบราวกับว่าได้พบกับเพื่อนที่มาจากแดนไกล

ตงหลิงจื่อลั่วกะพริบตาเล็กน้อย เขาชื่นชมใจความเยือกเย็นของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เวลานี้สิ่งที่เขาอยากได้คือคำตอบนั้นมากกว่า “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ายังไม่บอกข้าเลยว่าเพราะเหตุใด?”

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย ชำเลืองมองลั่วอ๋อง กล่าวออกมาอย่างไม่เร่งรีบ “เจ้าอยากให้ข้าพูดอะไร? เจ้าถามข้าว่าเหตุใดจึงต้องสังหารฮองเฮา เช่นนั้นเจ้าก็ไปถามฮองเฮาก่อนว่าเหตุใดนางต้องการชีวิตข้า เหตุใดนางสาวของเจ้าจึงเอาแต่กลั่นแกล้งข้า? เหตุผลของข้าก็เหมือนกับพวกนาง”

ความแค้นของพวกนางไม่ได้เกิดขึ้นมาเพียงวันสองวัน ไม่ได้โต้ตอบหรือลอบสังหาร มันไม่ได้หมายความว่าพวกนางจะอยู่อย่างเป็นสุข พวกนางแค่กับลำจับตามองอีกฝ่าย หาโอกาสที่จะลงมือเพื่อปลิดชีวิต

ไม่ใช่ครั้งสองครั้งที่ฮองเฮาและองค์หญิงอันผิงลงมือกับนาง ทำไมงั้นหรือ? มีแค่ฮองเฮาเท่านั้นถึงเอาชีวิตของนางไปได้ แต่นางเฟิ่งชิงเฉิน ไม่สามารถตอบโต้ได้เลยงั้นหรือ?

ลั่วอ๋องตะลึงงัน จากนั้นก็พยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง “เฟิ่งชิงเฉิน แม้ว่าเสด็จแม่ของข้าจะชอบกลั่นแกล้งเจ้า แต่ก็ไม่ได้เอาชีวิตของเจ้าไป อันผิงเองก็ไม่ได้ลงมืออะไรกับเจ้า เหตุใดเจ้าจะต้องลงมือถึงชีวิตด้วย”

“ไม่ได้ต้องการชีวิตของข้า? ลั่วอ๋อง ท่านพูดผิดแล้ว ไม่ใช่ว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงไม่อยากเอาชีวิตของข้า แต่นางเอาไปไม่ได้ ทำไมงั้นหรือ? หรือว่าต้องรอให้ฮองเฮาสังหารข้าก่อนถึงจะพอใจ?” คนก็แปลกประหลาดเช่นนี้ เนื่องจากนางยังมีชีวิตอยู่ ฮองเฮาจากไปแล้ว ดังนั้นความผิดจึงตกมาอยู่ที่นาง และทุกสิ่งที่ฮองเฮาเคยทำมาก็ถูกให้อภัยไปโดยปริยาย

“ลั่วอ๋อง สองปีที่ผ่านมานี้ ฮองเฮาพยายามทำร้ายข้ามากี่ครั้ง เจ้าน่าจะรู้ดีเสียยิ่งกว่าใคร เจ้าจะลบล้างความผิดทั้งหมดที่นางทำมาด้วยเหตุผลที่ว่านางตายไปแล้ว แต่ข้ายังมีชีวิตอยู่เช่นนี้ไม่ได้”

ด้วยอำนาจคุกคามอันเปี่ยมล้นของเฟิ่งชิงเฉิน ดวงตาที่ดำสนิทประกอบกับสายตาอันเยือกเย็นที่แน่วแน่ ทำให้ตงหลิงจื่อลั่วนึกขึ้นมาได้ถึงเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินเคยข่มขู่เขาตอนที่อยู่หน้าพระราชวัง

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่ยอมให้ผู้อื่นกลั่นแกล้งได้ง่าย ๆ เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่า เฟิ่งชิงเฉินจะตอบโต้ได้รุนแรงถึงเพียงนี้ นึกถึงการตายอันน่าอนาถของเสด็จแม่ นึกถึงดวงตาที่แดงก่ำของน้องสาว ดวงตาของลั่วอ๋องเองก็กลายเป็นสีแดง

“เฟิ่งชิงเฉิน ต่อให้เสด็จแม่ของข้ามีความผิด แต่เวลานี้เสด็จแม่ก็ตายไปแล้ว ส่วนเจ้ายังมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ชื่อเสียงที่เสด็จแม่สร้างขึ้นมาถูกทำลาย แต่เจ้ายังได้รับเกียรติเหมือนเช่นเคย” เขาอยากแก้แค้นให้แม่ของเขา แต่เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากโดยส่วนตัวแล้ว เขาไม่อยากให้เฟิ่งชิงเฉินตาย

“ลั่วอ๋อง ท่านพูดผิดแล้ว แม้ว่าชื่อเสียงและตัวตนของฮองเฮาเหนียงเหนียงจะถูกทำลาย แต่ข้าก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา ข้ามีชื่อเสียงที่ดีตั้งแต่เมื่อไหร่? และที่ข้ามีวันนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะใครอย่างนั้นหรือ?” ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินนิ่งสงบ ยกถ้วยชาขึ้นมาและดื่มจนหมดถ้วย

นางไม่ได้กระหายน้ำ แต่นางตื่นตระหนก

ท่าทางของลั่วอ๋องในตอนนี้น่ากลัวยิ่งนัก เดี๋ยวบ้าคลั่งเดี๋ยวเยือกเย็น นางไม่รู้ว่าวินาทีต่อไปลั่วอ๋องจะทำอะไรออกมา คนที่อยู่รอบกายของนางก็ถูกคนของลั่วอ๋องดึงดูดความสนใจออกไปหมดแล้ว และเจ้าบ้าซื่อเฉิงนั่นก็ยังไม่มา ด้วยความสามารถของนาง หากต้องต่อสู้กับลั่วอ๋อง แน่นอนว่านางเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

เจ้าบ้าซื่อเฉิง ต่อลานทั้งสองอยู่ไกลกันแค่ไหน แต่เวลานี้เจ้าก็น่าจะมาถึงแล้ว

เฟิ่งชิงเฉินกัดฟันแน่น แต่ตงหลิงจื่อลั่วยังคงอยู่ในความสงบ ดาบที่อยู่ในมือก็ถูกเก็บไปแล้ว เขามองไปที่เฟิ่งชิงเฉินพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “เฟิ่งชิงเฉิน เสด็จแม่ของข้าจากไปแล้ว และข้าก็ไม่ใช่ลั่วอ๋องผู้น่าเกรงขามเหมือนเช่นเคยอีกต่อไป นี่สาแก่ใจของเจ้าแล้วหรือยัง?”

แม้แต่ความแค้นที่แม่ของตนเองตายยังสามารถปล่อยวางได้ ยังมีอะไรที่ลั่วอ๋องไม่สามารถปล่อยวางได้ เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ ยกขาซ้ายของนางขึ้นมา ดึงมีดสั้นที่ซ่อนอยู่ในรองเท้ามาไว้ด้านหลัง มองไปที่ลั่วอ๋องด้วยความระมัดระวัง

“ท่านลั่วอ๋อง ที่ท่านมาหาข้าในวันนี้ เพื่อสิ่งใดกันแน่ ท่านพูดออกมาตรง ๆ การที่ท่านทำเช่นนี้มันทำให้ข้าสับสน” เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจได้เลยว่าลั่วอ๋องไม่ได้มาเพื่อแก้แค้นให้กับแม่ของเขา ไม่อย่างนั้นลั่วอ๋องคงลงมือกับนางไปตั้งนานแล้ว

ลั่วอ๋องไม่ได้พูดออกมาโดยตรง แต่ถามกลับมาว่า “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าจื่อชุนตายเพราะเหตุใด?”

“ท่านชุนอ๋อง? เขาไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของโจรงั้นหรือ?” เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของลั่วอ๋อง เฟิ่งชิงเฉินก็ต้องซักถามเพื่อบ่ายเบี่ยงความสนใจ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินรับรู้แผนการและการเคลื่อนไหวของนาง

ใบหน้าของตงหลิงจื่อลั่วเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “โจร? จะมีโจรกลุ่มไหนที่มีความกล้าถึงเพียงนั้น กล้าถึงขั้นลงมือกับท่านอ๋อง จากความรักที่จักรพรรดิมีต่อจื่อชุน เจ้าคิดว่าองครักษ์ที่อยู่ข้างกายของจื่อชุนเป็นคนทั่วไปอย่างนั้นหรือ? หากเป็นพวกโจรจริง ๆ ต่อให้พวกเขามีพรสวรรค์มาเพียงใดก็ไม่มีทางเอาชีวิตของจื่อชุนไปได้”

“ท่านกำลังจะบอกว่า......” เฟิ่งชิงเฉินรับคำพูดของเขาอย่างเหม่อลอย ขณะที่นางกำลังคิดหาวิธีหลบหนี คำพูดของลั่วอ๋องก็ทำให้ร่างกายของนางสั่นเทา

“เป็นฝีมือของเสด็จอาเก้า เขาเป็นคนเอาชีวิตของจื่อชุนไป ยั่วยุความโกรธของเสด็จพ่อ ทำให้เสด็จพ่อเอาความโกรธมาลงที่ข้ากับโจวอ๋อง จากนั้นก็ระเบิดเรื่องที่เคยเกิดขึ้นที่หน้าประตูเมืองออกมา ใช้โอกาสนี้ในการทำลายข้ากับโจวอ๋อง” ลั่วอ๋องพูดออกมาด้วยความมั่นใจ เห็นท่าทางที่เหลือเชื่อของเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็พูดออกมาอีกว่า “เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าคิดว่าหลังจากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ใครจะเป็นคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุด?”

คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นผู้ที่น่าสงสัยที่สุด! 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ