นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1365

สรุปบท บทที่ 1365 อย่าไป, ให้ข้าแทงคืน: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน บทที่ 1365 อย่าไป, ให้ข้าแทงคืน – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

ตอน บทที่ 1365 อย่าไป, ให้ข้าแทงคืน ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ความพร้อมถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ขาดเพียงโอกาส ในตอนที่รถม้าหักเลี้ยวด้วยความเร็ว เฟิ่งชิงเฉินก็รู้ว่าโอกาสที่นางรอคอยมาถึงแล้ว

คนขับรถอวดทักษะของเขาออกมา ประกอบกับบนถนนไม่มีรถม้าคันอื่น จึงไม่มีการลดความเร็ว ทำให้เขาเลี้ยวไปเช่นนั้นโดยตรง รถม้าเอียงไปทางขวา ลั่วอ๋องจึงใช้แรงในการกอดร่างของเฟิ่งชิงเฉินมากกว่าเดิม

และนี่ก็คือโอกาส!

เมื่อเทียบกับผู้ชายแล้ว เรี่ยวแรงของผู้หญิงนั้นอ่อนแอกว่ามาก แต่การระเบิดพลังของพวกนางนั้นไม่ได้ด้อยกว่าของผู้ชายเสมอไป เฟิ่งชิงเฉินระเบิดพลังออกมา เมื่อเทียบกับผู้ชายทั่วไปแล้ว มันแข็งแกร่งกว่ามาก

ในตอนที่รถม้าเลี้ยงอยากรวดเร็ว ล้อด้านซ้ายของมันยกขึ้น เฟิ่งชิงเฉินเองก็ลุกขึ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี บิดข้อมือ ดิ้นหลุดออกมาจากการควบคุมของลั่วอ๋อง จากนั้นก็ยกมีดขึ้นแทงเข้าไปที่หัวใจของลั่วอ๋อง

มีดผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก ประกอบกับนางนั้นอยู่ในการควบคุมของลั่วอ๋อง การเครื่องไหวครั้งนี้ไม่อาจเอาชีวิตของลั่วอ๋องไปได้ นางเพียงแค่อยากใช้โอกาสนี้เพื่อหลุดจากเนื้อมือของลั่วอ๋อง

เฟิ่งชิงเฉินคิดคำนวณในใจเป็นเวลานาน สุดท้ายก็ได้จุดที่เหมาะสมที่สุด เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยคิดว่ามีดผ่าตัดเล่มเล็กแค่นี้จะสังหารชีวิตของลั่วอ๋องไปได้ นางเพียงแค่อยากให้ลั่วอ๋องได้รับความเจ็บปวด ปล่อยมือจากตัวนาง หลังจากนั้น......

เสียง “ปัง” ดังขึ้น ในตอนที่ลั่วอ๋องปล่อยมือเพราะความเจ็บปวด เฟิ่งชิงเฉินก็ม้วนตัวเป็นวงกลม กระแทกเข้ากับผนังของรถม้า เนื่องจากแรงที่ใช้นั้นมากเกินไป ทำให้รถม้าพลิกคว่ำลงกับพื้น

“เฟิ่งชิงเฉิน” ลั่วอ๋องตะโกนออกมา ในตอนที่รถม้าพลิกคว่ำ ลั่วอ๋องไม่สนใจบาดแผลที่หัวใจของเขา พุ่งไปด้านหน้าเพื่อจับเท้าของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้

“ปล่อยข้า” เฟิ่งชิงเฉินหันกลับมา กดที่ไปข้อมือของลั่วอ๋อง ลั่วอ๋องรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและปล่อยมือไปโดยไม่รู้ตัว

“จับนางไว้ อย่างให้นางหนีไปได้” ลั่วอ๋องตะโกนออกมา องครักษ์ที่ขี่ม้าอยู่ด้านหน้าก็หยุดม้าและเตรียมตัวกระโดดลงมา ส่วนองครักษ์ด้านหลังเองก็ไล่ตามมาทันแล้ว เพียงแต่......

มันสายเกินไปแล้ว

ก่อนที่ม้าซึ่งอยู่ด้านหน้าจะหยุดลง มันจำเป็นต้องใช้เวลา ไม่ต้องพูดถึงทางโค้งเช่นนี้ หากจะหยุดม้า มันก็ถือเป็นเรื่องอันตราย และเวลาดังกล่าวก็เพียงพอที่จะทำให้เฟิ่งชิงเฉินสามารถกระโดดหนีจากรถม้าเพื่อหลบเข้าไปในความมืด

“อย่าให้นางหนีไปได้” ลั่วอ๋องกัดฟันด้วยความโกรธ ไม่สนใจรถม้าที่กำลังทับอยู่บนร่างกาย ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินพุ่งออกไป เขาก็พุ่งตามเฟิ่งชิงเฉินออกไปทันที

เฟิ่งชิงเฉินสัมผัสได้ถึงพลังที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง นางหันกลับมาพร้อมกับสาปแช่งด้วยความโกรธ “บัดซบ เจ้าอยากตายหรือไง”

นางจนปัญญาถึงเลือกจะกระโดดลงมาจากรถม้า แต่ลั่วอ๋องทำไปเพื่ออะไร

“เจ้ายังกระโดดลงไปได้ เหตุใดข้าจะทำไม่ได้” ในตอนที่ลั่วอ๋องกระโดดลงมาถึงจะรู้สึกว่าสถานการณ์นั้นผิดปกติ แต่ในเมื่อกระโดดลงมาแล้ว เขาจะทำอะไรได้

“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นหรือตาย” เฟิ่งชิงเฉินนำมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมศีรษะ ข้อศอกของนางกระแทกกับพื้น เสียงคล้ายกระดูกหักดังขึ้นมา เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเจ็บที่ข้อศอกซ้าย

คงไม่ได้หักใช่ไหม?

เฟิ่งชิงเฉินสาปแช่งออกมา แต่ในตอนนั้นก็ไม่ได้มีเวลาให้นางได้คิดอะไรมากมาย ตรงที่นางกระโดดลงมานั้นเป็นพื้นที่ลาดชัน นางไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้ ร่างของนางจึงกลิ้งไปตามพื้นลาด

การที่ได้พบกับลั่วอ๋อง มันช่างเป็นเรื่องโชคร้ายเสียจริง

ลั่วอ๋องก็ไม่ได้ดีไปกว่านาง แม้ว่าจะปกป้องศีรษะเอาไว้ได้ แต่ก็ล้มลงพื้นกลิ้งไปตามทางลาดเช่นเดียวกันกับเฟิ่งชิงเฉิน

ตูม......ในตอนที่ทั้งสองคนกระโดดลงมา รถม้าก็พลิกคว่ำ คนขับรถม้าคิดจะกระโดดลง แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้ถูกเชือกบังคับม้าพันเอาไว้ และถูกรถม้าทับในที่สุด

“ฝ่าบาท!” องครักษ์ลงมาจากหลังมา ไม่สนใจคนขับรถ จุดคบเพลิงในมือและวิ่งลงไปตามทางลาดชัน

เฟิ่งชิงเฉินและลั่วอ๋องกลิ้งลงไปอย่างรวดเร็ว ด้วยใจที่อยากจะจับตัวเฟิ่งชิงเฉินไว้ของลั่วอ๋อง เขาไม่เพียงแต่ไม่ลดความเร็วในการกลิ้งของเขาเท่านั้น แต่ยังจงใจเพิ่มความเร็ว และในที่สุด......

ลั่วอ๋องยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง คว้าร่างของเฟิ่งชิงเฉินมาไว้ในอ้อมแขน “อย่าคิดหนี”

“ปล่อยข้า” เฟิ่งชิงเฉินไม่มีทางยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นางจะยอมทำตามความต้องการของลั่วอ๋องได้อย่างไร

“ฝันไปเถอะ ปล่อยเจ้าไป ข้าจะเอาใครไปต่อรองกับหวังจิ่นหลิง” ลั่วอ๋องดึงร่างของเฟิ่งชิงเฉินเข้ามาในอ้อมแขน จากนั้นก็นำมือทั้งสองข้างปกป้องศีรษะของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้

คนของลั่วอ๋องตามมาแล้ว

“ถือว่าเจ้าโชคดีไป” ไม่ใช่ว่านางใจอ่อน แต่เป็นเพราะนางไม่มีเวลา หากนางสังหารลั่วอ๋อง องครักษ์ของลั่วอ๋องไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดิน พวกเขาก็ต้องตามหานางให้เจอ

แต่หากลั่วอ๋องยังมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างก็แตกต่างกันออกไป ลั่วอ๋องได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ สิ่งแรกที่คนพวกนั้นต้องทำคือช่วยชีวิตลั่วอ๋อง ส่วนเรื่องตามหานาง?

พวกเขาคงไม่มีกะจิตกะใจมาตามหานางเป็นแน่

เฟิ่งชิงเฉินหยุดความคิดที่จะสังหารลั่วอ๋องเอาไว้ ใช้มือขวาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บพยุงตัวเองขึ้นมา เพียงแต่......

“เหตุใดเจ้าถึงกอดข้าแน่นขนาดนี้” เฟิ่งชิงเฉินอยากจะร้องไห้ออกมา ตอนนี้นางเป็นเหมือนคนแขนด้วน ลั่วอ๋องกอดนางไว้แน่นถึงเพียงนี้ ทำให้นางไม่อาจลุกขึ้นมาได้

“บ้าที่สุด” เฟิ่งชิงเฉินทำได้เพียงนั่งคร่อมราชาลั่วอ๋อง จากนั้นเอื้อมมือไปกางนิ้วของลั่วอ๋องออกทีละนิ้ว

ไม่ง่ายเลยกว่าจะทำให้ลั่วอ๋องปล่อยมือออกไปได้ องครักษ์ของลั่วอ๋องใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจอะไรทั้งนั้น รีบพลิกตัวลงมาจากบนร่างกายของลั่วอ๋อง ในตอนที่กำลังลุกขึ้นยืน นางก็ได้ยินเสียงพึมพำของลั่วอ๋อง “ชิงเฉิน อย่าไป อย่าไป”

“ชิงเฉิน พวกเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้”

“อย่าไป อย่าไป......”

มือของลั่วอ๋องเต้นรำบนอากาศ ตะโกนออกมาอย่างต่อเนื่อง “ชิงเฉิน อย่าไป”

ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นมาได้ นางเกือบจะล้มลงไปอีกครั้ง เมื่อเห็นแสงไฟใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เฟิ่งชิงเฉินไม่คิดอะไรทั้งนั้น พยุงแขนซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บ เดินโซซัดโซเซแอบหนีเข้าไปในความมืด......

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่นางไม่ได้รักลั่วอ๋อง ต่อให้นางรักลั่วอ๋อง ระหว่างพวกเขาก็เป็นไปไม่ได้ เพราะมันมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ