นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1371

เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาจากผู้อาวุโสของตระกูลตระกูลหวัง สีหน้าของหวังจิ่นหลิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คิ้วของเขาขมวดขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาของเขาเริ่มมีสีแดง คนที่รู้จักเขาดีจะรู้ได้ทันทีว่า ตอนนี้เขาเริ่มจะไม่มีความสุขแล้ว

พ่อของเขาเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจ รีบกล่าวแนะนำออกมาอย่างอ่อนโยน “จิ่นหลิง พวกเรารู้ว่าสำหรับเจ้าแล้ว เฟิ่งชิงเฉินนั้นแตกต่างออกไป ตระกูลหวังของพวกเราเองก็ต้องขอบคุณนางที่ช่วยรักษาดวงตาคู่นี้ของเจ้า เพียงแต่......เจ้าทำเพื่อนางมากมายขนาดนี้ สิ่งที่ต้องจ่ายมันมากเกินไป ตระกูลหวังของพวกเราไม่อาจแบกรับความเสียหายครั้งนี้ได้”

ผู้อาวุโสหลายคนนึกถึงวิธีการอันเลือดเย็นของหวังจิ่นหลิง สีหน้าของแต่ละคนดูไม่ได้ ลดน้ำเสียงและอารมณ์ลง แต่ก็ยังต้องปกป้องและยืนในตำแหน่งของตัวเอง

เพื่อตระกูลหวังแล้ว จะปล่อยให้หวังจิ่นหลิงออกไปจากเมืองไม่ได้ การกระทำทั้งหมดจะต้องหยุดลง!

จากมุมมองของตระกูลหวัง ความต้องการของพ่อหวังจิ่นหลิงและผู้อาวุโสตระกูลหวังนั้นไม่ได้มากเกินไป แต่เขาคือหวังจิ่นหลิง เขาไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตระกูลหวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองด้วย

“ท่านพ่อ ท่านผู้อาวุโส ข้าขอโทษ ข้าจำเป็นต้องออกจากเมือง หากพวกท่านคิดว่าข้าใช้กำลังของตระกูลหวังในการทำเรื่องส่วนตัว เช่นนั้นข้าจะให้พวกเขาหยุดการเคลื่อนไหวทันที” ใบหน้าของหวังจิ่นหลิงดูอ่อนโยน แต่มันก็แน่วแน่จนไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ “ข้าจะออกไปกับองครักษ์ของข้าเท่านั้น จะไม่ยุ่งกับลูกน้องของตระกูลหวังแม้แต่คนเดียว หากจักรพรรดิเกิดข้อสงสัย ข้าหวังจิ่นหลิงจะเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”

หวังจิ่นหลิงยอมหลีกทางให้โดยง่าย ไม่โต้เถียงกับคนตระกูลหวัง แต่การหลีกทางครั้งนี้ของเขากลับทำให้คนตระกูลหวังไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรต่อไป

“นี่เจ้ากำลังขู่พวกเราอย่างนั้นหรือ?” ผู้อาวุโสตระกูลหวังรู้ หวังจิ่นหลิงไม่ได้พูดออกมาสุ่มสี่สุ่มห้า เขาสามารถทำในสิ่งที่เขาพูดออกมาได้

“ไม่ ข้าแค่อยากบอกกับผู้อาวุโสทุกคนว่าข้าได้ตัดสินใจไปแล้ว ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง ผู้อาวุโสทั้งหลายจะไม่อนุญาตให้ข้าทำเรื่องส่วนตัวอย่างนั้นหรือ? ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าจะแบกรับมันไว้ด้วยตัวเอง ข้าขอสาบานด้วยชีวิตของข้า เรื่องที่ข้าทำลงไปในวันนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันมายุ่งเกี่ยวกับตระกูลหวังเลยแม้แต่น้อย” จนถึงตอนนี้ หวังจิ่นหลิงยังคงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนตอนแรก และยอมหลีกทางให้ครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่การหลีกทางของหวังจิ่นหลิง กลับทำให้คนของตระกูลหวังรู้สึกหนักใจ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ๆ พวกเขายินดีที่จะเสียผลประโยชน์ของตระกูลหวัง มากกว่าที่จะยอมเสียหวังจิ่นหลิงไป

ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาชื่นชอบในตัวหวังจิ่นหลิง แต่เป็นเพราะว่ามีหวังจิ่นหลิงอยู่ ตระกูลหวังถึงได้มีเกียรติเช่นนี้ หากหวังจิ่นหลิงตายไป ไม่นานตระกูลหวังก็คงจะดับสลาย ต่อให้ไม่ดับสลายก็คงไม่ต่างอะไรกับตระกูลเซี่ย เป็นได้เพียงแค่สุนัขรับใช้ของจักรพรรดิ

นี่คือสิ่งที่คนตระกูลหวังไม่อาจยอมรับได้ เมื่อเผชิญหน้ากับความมุ่งมั่นของหวังจิ่นหลิง คนของตระกูลหวังตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และรู้สึกเกลียดชังเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในใจ

ในเวลานี้ ชายชราผมขาวผู้หนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังของฝูงชน พ่อของหวังจิ่นหลิงและเหล่าผู้อาวุโสต่างหลีกทางให้ กล่าวทักทายออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ชายชราก็เพิกเฉยต่อพวกเขา เดินตรงไปด้านหน้าของหวังจิ่นหลิง

“ท่านปู่ทวด” หวังจิ่นหลิงทำความเคารพอีกฝ่าย ชายชราผู้นั้นพยักหน้า ดวงตาสีเข้มของเขากะพริบเล็กน้อย จ้องมองมาที่หวังจิ่นหลิงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นถึงกล่าวออกมาว่า “จิ่นหลิง เจ้าตัดสินใจแล้วงั้นหรือ?”

“ข้าตัดสินใจแล้ว” หวังจิ่นหลิงตอบกลับไปโดยไม่ตื่นตระหนกหรือร้อนรนแต่อย่างใด ความสงบนี้เองที่ทำให้ทุกคนมีความสุขและรังเกียจในเวลาเดียวกัน

ใช้ความสงบในการตอบโต้กับศัตรู มันเป็นวิธีการที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามลำบากใจ แต่ในตอนที่หวังจิ่นหลิงใช้ทัศนคติที่สง่างามและความสงบในการเผชิญหน้ากับพวกเขา พวกเขารู้สึกเพียงแค่ว่า เวลานี้พวกเขากำลังจนตรอก

การเผชิญหน้ากับศัตรูที่แน่วแน่ มันช่างน่ากลัวยิ่งนัก

ชายชราผมขาวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไปเถอะ ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เจ้าก็ไปทำตามสิ่งที่เจ้าต้องการ ตระกูลหวังของข้าไม่ได้ไร้ความสามารถถึงเพียงนั้น ถึงขนาดที่ผู้นำตระกูลต้องการปกป้องผู้หญิงคนเดียวก็ยังทำไม่ได้”

เสียงของชายชราไม่ได้ดังมาก แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลหวัง เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสเริ่มเป็นสีแดง แต่ละคนก้มหน้า ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

จากสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาพูดออกมา ทั้งหมดเป็นเพราะความหวาดกลัวของพวกเขา มันไม่มีความภาคภูมิใจในฐานะคนของตระกูลหวังอยู่เลย

“ฮึ......” ชายชราผมขาวพ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจ หวังจิ่นหลิงยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น เดินออกไปอย่างไร้ซึ่งความเย่อหยิ่ง เขาขอโทษทุกคนและจากไปอย่างสง่างามโดยไม่ลังเลเลย

“พวกเจ้าเห็นหรือไม่ นี่แหละคืออัตลักษณ์ที่แท้จริงของคนตระกูลหวัง” ชายชราผมขาวชี้ไปที่แผ่นหลังของหวังจิ่นหลิง สั่งสอนผู้อาวุโสทุกคนของตระกูลหวัง เห็นทุกคนเอาแต่ก้มหน้า เขาก็พูดออกมาอีกว่า “หลังจากนี้ หากไม่มีความมั่นใจว่าสามารถหยุดการกระทำของจิ่นหลิงได้ ก็อย่าได้มาขวางทางเขา มันมีแต่ทำให้จิ่นหลิงเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ จิ่นหลิงฉลาดกว่าพวกเจ้ารวมหัวกันเสียอีก มีเขาอยู่ ตระกูลหวังของพวกเราก็จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น”

“ขอรับ” ผู้อาวุโสทุกคนฟังคำสอนอย่างเชื่อฟัง แม้ว่าบางคนจะไม่เห็นด้วยและคิดว่าสิ่งที่หวังจิ่นหลิงทำอยู่นั้นกำลังทำให้ตระกูลหวังตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ไม่มีใครกล้าโต้เถียง ทำได้เพียงอดทนไว้เท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ