เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาจากผู้อาวุโสของตระกูลตระกูลหวัง สีหน้าของหวังจิ่นหลิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คิ้วของเขาขมวดขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาของเขาเริ่มมีสีแดง คนที่รู้จักเขาดีจะรู้ได้ทันทีว่า ตอนนี้เขาเริ่มจะไม่มีความสุขแล้ว
พ่อของเขาเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจ รีบกล่าวแนะนำออกมาอย่างอ่อนโยน “จิ่นหลิง พวกเรารู้ว่าสำหรับเจ้าแล้ว เฟิ่งชิงเฉินนั้นแตกต่างออกไป ตระกูลหวังของพวกเราเองก็ต้องขอบคุณนางที่ช่วยรักษาดวงตาคู่นี้ของเจ้า เพียงแต่......เจ้าทำเพื่อนางมากมายขนาดนี้ สิ่งที่ต้องจ่ายมันมากเกินไป ตระกูลหวังของพวกเราไม่อาจแบกรับความเสียหายครั้งนี้ได้”
ผู้อาวุโสหลายคนนึกถึงวิธีการอันเลือดเย็นของหวังจิ่นหลิง สีหน้าของแต่ละคนดูไม่ได้ ลดน้ำเสียงและอารมณ์ลง แต่ก็ยังต้องปกป้องและยืนในตำแหน่งของตัวเอง
เพื่อตระกูลหวังแล้ว จะปล่อยให้หวังจิ่นหลิงออกไปจากเมืองไม่ได้ การกระทำทั้งหมดจะต้องหยุดลง!
จากมุมมองของตระกูลหวัง ความต้องการของพ่อหวังจิ่นหลิงและผู้อาวุโสตระกูลหวังนั้นไม่ได้มากเกินไป แต่เขาคือหวังจิ่นหลิง เขาไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตระกูลหวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองด้วย
“ท่านพ่อ ท่านผู้อาวุโส ข้าขอโทษ ข้าจำเป็นต้องออกจากเมือง หากพวกท่านคิดว่าข้าใช้กำลังของตระกูลหวังในการทำเรื่องส่วนตัว เช่นนั้นข้าจะให้พวกเขาหยุดการเคลื่อนไหวทันที” ใบหน้าของหวังจิ่นหลิงดูอ่อนโยน แต่มันก็แน่วแน่จนไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ “ข้าจะออกไปกับองครักษ์ของข้าเท่านั้น จะไม่ยุ่งกับลูกน้องของตระกูลหวังแม้แต่คนเดียว หากจักรพรรดิเกิดข้อสงสัย ข้าหวังจิ่นหลิงจะเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”
หวังจิ่นหลิงยอมหลีกทางให้โดยง่าย ไม่โต้เถียงกับคนตระกูลหวัง แต่การหลีกทางครั้งนี้ของเขากลับทำให้คนตระกูลหวังไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรต่อไป
“นี่เจ้ากำลังขู่พวกเราอย่างนั้นหรือ?” ผู้อาวุโสตระกูลหวังรู้ หวังจิ่นหลิงไม่ได้พูดออกมาสุ่มสี่สุ่มห้า เขาสามารถทำในสิ่งที่เขาพูดออกมาได้
“ไม่ ข้าแค่อยากบอกกับผู้อาวุโสทุกคนว่าข้าได้ตัดสินใจไปแล้ว ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง ผู้อาวุโสทั้งหลายจะไม่อนุญาตให้ข้าทำเรื่องส่วนตัวอย่างนั้นหรือ? ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าจะแบกรับมันไว้ด้วยตัวเอง ข้าขอสาบานด้วยชีวิตของข้า เรื่องที่ข้าทำลงไปในวันนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันมายุ่งเกี่ยวกับตระกูลหวังเลยแม้แต่น้อย” จนถึงตอนนี้ หวังจิ่นหลิงยังคงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนตอนแรก และยอมหลีกทางให้ครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่การหลีกทางของหวังจิ่นหลิง กลับทำให้คนของตระกูลหวังรู้สึกหนักใจ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ๆ พวกเขายินดีที่จะเสียผลประโยชน์ของตระกูลหวัง มากกว่าที่จะยอมเสียหวังจิ่นหลิงไป
ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาชื่นชอบในตัวหวังจิ่นหลิง แต่เป็นเพราะว่ามีหวังจิ่นหลิงอยู่ ตระกูลหวังถึงได้มีเกียรติเช่นนี้ หากหวังจิ่นหลิงตายไป ไม่นานตระกูลหวังก็คงจะดับสลาย ต่อให้ไม่ดับสลายก็คงไม่ต่างอะไรกับตระกูลเซี่ย เป็นได้เพียงแค่สุนัขรับใช้ของจักรพรรดิ
นี่คือสิ่งที่คนตระกูลหวังไม่อาจยอมรับได้ เมื่อเผชิญหน้ากับความมุ่งมั่นของหวังจิ่นหลิง คนของตระกูลหวังตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และรู้สึกเกลียดชังเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในใจ
ในเวลานี้ ชายชราผมขาวผู้หนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังของฝูงชน พ่อของหวังจิ่นหลิงและเหล่าผู้อาวุโสต่างหลีกทางให้ กล่าวทักทายออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ชายชราก็เพิกเฉยต่อพวกเขา เดินตรงไปด้านหน้าของหวังจิ่นหลิง
“ท่านปู่ทวด” หวังจิ่นหลิงทำความเคารพอีกฝ่าย ชายชราผู้นั้นพยักหน้า ดวงตาสีเข้มของเขากะพริบเล็กน้อย จ้องมองมาที่หวังจิ่นหลิงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นถึงกล่าวออกมาว่า “จิ่นหลิง เจ้าตัดสินใจแล้วงั้นหรือ?”
“ข้าตัดสินใจแล้ว” หวังจิ่นหลิงตอบกลับไปโดยไม่ตื่นตระหนกหรือร้อนรนแต่อย่างใด ความสงบนี้เองที่ทำให้ทุกคนมีความสุขและรังเกียจในเวลาเดียวกัน
ใช้ความสงบในการตอบโต้กับศัตรู มันเป็นวิธีการที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามลำบากใจ แต่ในตอนที่หวังจิ่นหลิงใช้ทัศนคติที่สง่างามและความสงบในการเผชิญหน้ากับพวกเขา พวกเขารู้สึกเพียงแค่ว่า เวลานี้พวกเขากำลังจนตรอก
การเผชิญหน้ากับศัตรูที่แน่วแน่ มันช่างน่ากลัวยิ่งนัก
ชายชราผมขาวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไปเถอะ ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เจ้าก็ไปทำตามสิ่งที่เจ้าต้องการ ตระกูลหวังของข้าไม่ได้ไร้ความสามารถถึงเพียงนั้น ถึงขนาดที่ผู้นำตระกูลต้องการปกป้องผู้หญิงคนเดียวก็ยังทำไม่ได้”
เสียงของชายชราไม่ได้ดังมาก แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลหวัง เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสเริ่มเป็นสีแดง แต่ละคนก้มหน้า ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
จากสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาพูดออกมา ทั้งหมดเป็นเพราะความหวาดกลัวของพวกเขา มันไม่มีความภาคภูมิใจในฐานะคนของตระกูลหวังอยู่เลย
“ฮึ......” ชายชราผมขาวพ่นลมหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจ หวังจิ่นหลิงยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น เดินออกไปอย่างไร้ซึ่งความเย่อหยิ่ง เขาขอโทษทุกคนและจากไปอย่างสง่างามโดยไม่ลังเลเลย
“พวกเจ้าเห็นหรือไม่ นี่แหละคืออัตลักษณ์ที่แท้จริงของคนตระกูลหวัง” ชายชราผมขาวชี้ไปที่แผ่นหลังของหวังจิ่นหลิง สั่งสอนผู้อาวุโสทุกคนของตระกูลหวัง เห็นทุกคนเอาแต่ก้มหน้า เขาก็พูดออกมาอีกว่า “หลังจากนี้ หากไม่มีความมั่นใจว่าสามารถหยุดการกระทำของจิ่นหลิงได้ ก็อย่าได้มาขวางทางเขา มันมีแต่ทำให้จิ่นหลิงเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ จิ่นหลิงฉลาดกว่าพวกเจ้ารวมหัวกันเสียอีก มีเขาอยู่ ตระกูลหวังของพวกเราก็จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น”
“ขอรับ” ผู้อาวุโสทุกคนฟังคำสอนอย่างเชื่อฟัง แม้ว่าบางคนจะไม่เห็นด้วยและคิดว่าสิ่งที่หวังจิ่นหลิงทำอยู่นั้นกำลังทำให้ตระกูลหวังตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ไม่มีใครกล้าโต้เถียง ทำได้เพียงอดทนไว้เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...