สรุปตอน บทที่ 1372 ถูกตี, คุณชายใหญ่ตามมาแล้ว – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 1372 ถูกตี, คุณชายใหญ่ตามมาแล้ว ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เฟิ่งชิงเฉินทำอะไรจริงจังมาโดยตลอด เมื่อลองชั่งน้ำหนักความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย รู้ว่าตนเองไม่มีโอกาสชนะ เฟิ่งชิงเฉินก็เลือกที่จะยอมจำนน
อีกฝ่ายเป็นนักรบที่แข็งแกร่งจำนวนห้าคน นางเป็นแค่คนป่วย เป็นเพียงผู้หญิงที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บ นางจะเอาอะไรไปสู้กับคนพวกนั้น
นางคิดว่าจะใช้อาวุธลับที่ซ่อนอยู่ที่ข้อมือในการสังหารอีกฝ่าย เพียงแต่ ยังไม่ต้องพูดว่าสามารถโจมตีทั้งห้าคนได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวหรือไม่ ต่อให้นางทำได้ นางก็ไม่กล้ารับประกันว่าอีกฝ่ายจะตายเพราะการโจมตีครั้งนี้
และหากอีกฝ่ายไม่ตาย นางก็ไม่มีทางหนีพ้น เนื่องจากร่างกายของนางในตอนนี้นั้นอ่อนแอมาก!
เพื่อหลีกเลี่ยงความทุกข์ยากเกินไปในวันต่อ ๆ ไป และเพื่อให้ยังมีกำลังที่จะหลบหนีในวันต่อ ๆ ไป เฟิ่งชิงเฉินเลือกที่จะไม่วิ่งหนี ยืนอยู่ที่เดิมเพื่อรอการมาถึงของอีกฝ่าย
เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ คนที่ไม่รู้คิดว่านางอาจจะมีแผนตุกติกอะไรบางอย่างไร องครักษ์ของลั่วอ๋องไม่กล้าเคลื่อนไหว เว้นระยะห่างและเผชิญหน้ากับเฟิ่งชิงเฉินในระยะสิบเมตร
ฮะ? สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์เมืองที่ว่างเปล่าหรือไม่?
เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของนางสงบลง ความคิดที่ว่าตนเองยังมีโอกาสชนะอยู่หรือไม่เริ่มปรากฏขึ้นมา แต่หลังจากที่มันปรากฏขึ้นมาได้ไม่นาน มันก็ถูกเฟิ่งชิงเฉินลบล้างไปทันที
หากมือซ้ายของนางไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้มีไข้แต่อย่างใด อย่าว่าแต่ห้าคนเลย ต่อให้เป็นสิบคนนางก็กล้าเดิมพัน แต่เวลานี้?
เฟิ่งชิงเฉินเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆ
ช่างจะเถอะ นางไม่อยากที่จะถูกคนอื่นทุบตี ในตอนนี้ร่างกายของนางอ่อนแอเกินไป หากสู้ก็เป็นได้เพียงฝ่ายที่ถูกกระทำเท่านั้น
เฮ้อ......ป่วยตอนไหนไม่ป่วย ดันมาป่วยเอาตอนนี้ ช่างโชคร้ายยิ่งนัก!
องครักษ์ของลั่วอ๋องเผชิญหน้ากับเฟิ่งชิงเฉินอย่างสงบมาเป็นเวลานาน กำลังลังเลอยู่ว่าจะลงมือดีหรือไม่ แต่ในตอนที่องครักษ์ของลั่วอ๋องได้ยินเสียงที่ดังขึ้นในระยะไกล พวกเขาก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ทั้งห้าคนมองหน้ากัน พุ่งเข้าไปด้านหน้า นำดาบขึ้นมาจี้ไปที่คอของเฟิ่งชิงเฉิน
ฮะ? ราบรื่นถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเขาจะลังเลไปเพื่ออะไร ทั้งห้าคนมองหน้ากัน พบว่าตนเองหลงกลแล้ว
“แม่นางเฟิ่ง ล่วงเกินแล้ว” คนที่ถือดาบออกแรงเล็กน้อย ทำให้ลำคอของเฟิ่งชิงเฉินเกิดบาดแผลและมีเลือดไหลออกมา
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร นางกล่าวออกมาว่า “ไม่ต้องรุนแรงถึงเพียงนี้ ข้าไม่หนี ลั่วอ๋องส่งคนมาเชื้อเชิญข้ามากมายขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องไว้หน้าเขาบ้าง”
“ฮึฮึ แม่นางเฟิ่งรู้เช่นนี้ก็ดีแล้ว ในเมื่อแม่นางเฟิ่งให้ความร่วมมือถึงเพียงนี้ เช่นนั้นพวกเราก็จะไม่ทำให้แม่นางเฟิ่งต้องลำบากใจ” แม้ว่าองครักษ์จะพูดเช่นนี้ แต่พวกเขาก็ยังนำเชือกออกมาเพื่อมัดเฟิ่งชิงเฉินไว้
“แม่นางเฟิ่ง ต้องเสียมารยาทอีกครั้ง”
“นี่คือหน้าที่ของพวกเจ้า” ตอนแรกแขนซ้ายของเฟิ่งชิงเฉินกลับมาต่อกันเหมือนเดิมแล้ว แต่เมื่อองครักษ์มัดมือนางเข้าด้วยกัน เสียงกระดูกหักก็ดังขึ้นมา และแขนซ้ายของนางก็หันอีกครั้ง
ความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของเฟิ่งชิงเฉิน น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของนาง
แขนซ้ายของนาง เกรงว่าคงจะแย่แล้ว
“ขอโทษแม่นางเฟิ่ง แขนของเจ้าอ่อนแอเกินไป” องครักษ์พูดออกมาด้วยความชั่วร้าย
เฟิ่งชิงเฉินกัดริมฝีปากของนางด้วยความเจ็บปวด ปากของนางเต็มไปด้วยเลือด แต่นางก็ยังคงยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร ข้าเป็นหมอ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกข้าก็โล่งใจ” เมื่อเผชิญหน้ากับความร่วมมือเช่นนี้ องครักษ์ของลั่วอ๋องก็ไม่ใช้ความรุนแรงอีกต่อไป แบกเฟิ่งชิงเฉินไว้บนหัวไหล่ จากนั้นก็เดินไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกล
เมื่อถึงหมู่บ้าน องครักษ์บอกให้เฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมือนกับผู้หญิงในหมู่บ้าน จากนั้นก็ใช้ฝุ่นในการโปะหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเพื่อบดบังรูปลักษณ์ที่แท้จริง เมื่อมั่นใจแล้วว่ามองไม่ออกว่านางคือเฟิ่งชิงเฉิน ทั้งห้าคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
พวกเขาเองก็ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคุณชายใหญ่
“เจ้าว่าพวกเราควรปิดปากนางเพื่อป้องกันไม่ให้นางส่งเสียงระหว่างทางหรือไม่” องครักษ์ชำเลืองมองเฟิ่งชิงเฉิน เห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาจึงแอบสงสัยว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนโง่หรือเปล่า
กรุบ กรุบ กรุบ......เสียงเกือกม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เฟิ่งชิงเฉินได้ยินเสียงดังกล่าว นางแอบคำนวณอยู่ในใจ อีกไม่ถึงร้อยเมตร พวกเขาจะถูกตามทันเป็นแน่
“เป็นม้าของคุณชายใหญ่ ไม่เกินร้อยเมตร พวกเราจะถูกตามทันเป็นแน่ ทำอย่างไรดี?” องครักษ์ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก โชคดีที่องครักษ์ผู้นี้ไม่ได้มีนิสัยชอบทำร้ายคนอื่นตอนที่ตนเองตื่นตระหนกเหมือนกับคนเมื่อครู่ ไม่อย่างนั้นชีวิตของเฟิ่งชิงเฉินคงจบลงอย่างน่าอนาถ
“จะตามมาทันแล้ว” คนขับรถม้าตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก แต่ความตื่นตระหนกก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงได้ เหมือนกับที่พวกเขาตามหาเฟิ่งชิงเฉินจนเจอ
ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินเห็นพวกเขา นางเองก็รู้สึกตื่นตระหนก แต่ตื่นตระหนกแล้วมันยังไง สุดท้ายนางก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
กรุบ กรุบ กรุบ......เสียงเกือกม้าดังขึ้นข้างหู เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่ามีคนมาช่วยนางแล้ว
ดีจริง ๆ
เฟิ่งชิงเฉินก้มหน้า หัวเราะออกมาโดยไม่ส่งเสียง
“พวกเราถูกล้อมไว้หมดแล้ว” องครักษ์ที่ขับรถม้าทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าสะบัดเชือกแรง ๆ เพราะกลัวว่าสิ่งที่เกิดอาจจะย่ำแย่กว่าเดิม
“ไม่ต้องไปสนใจ ฝ่าออกไปเลย มีเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในมือ คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวังไม่กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า” ยังมีองครักษ์ที่มีสติอยู่ พวกเขายังมีตัวประกันอยู่ในมือ ไม่ว่าอย่างไรคุณชายใหญ่ก็ไม่กล้าลงมือกับพวกเขา
“เจ้าพูดถูก ฝ่าออกไปเลย” องครักษ์คนอื่น ๆ เองก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ องครักษ์ที่ขับรถม้าได้ยินเช่นนั้นก็สงบลงเป็นอย่างมาก “ดี งั้นพวกเจ้าจับให้แน่น พวกเราจะฝ่ามันออกไป”
ฮี้ ฮี้ ฮี้......องครักษ์สะบัดแส้อย่างแรง ม้าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด วิ่งไปด้านหน้าโดยไม่สนใจสิ่งใด
เฟิ่งชิงเฉินหลับตาและซ่อนเสียงหัวเราะ หวังจิ่นหลิงขี่ม้าออกมาด้วยตัวเอง คนพวกนี้คิดว่าจะหนีพ้นอย่างนั้นหรือ?
ฝันไปเถอะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...