นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1373

เป็นไปตามการคาดเดาของเฟิ่งชิงเฉิน ในตอนที่องครักษ์กลุ่มนี้คิดว่าหวังจิ่นหลิงไม่กล้าลงมือกับพวกเขา และคิดว่าพวกเขาสามารถฝ่าออกไปได้ หวังจิ่นหลิงออกคำสั่งมาทันที “ล้อมพวกเขาเอาไว้ สังหารม้า”

“ขอรับ” องครักษ์ของตระกูลหวังไม่รอให้ม้าหยุดเคลื่อนที่ เขาหยิบคันธนูขึ้นมาและเล็งไปที่ม้าอย่างเยือกเย็น คำนวณทิศทางและการเคลื่อนไหวของม้า จากนั้นก็ปล่อยลูกธนูออกไป

“คุณชายใหญ่ ให้คนของท่านถอยไป ไม่อย่างนั้นข้าจะตัดมือของแม่นางเฟิ่งทิ้ง” องครักษ์ของลั่วอ๋องไม่ได้โง่ เมื่อได้ยินคำสั่งของหวังจิ่นหลิง พวกเขาก็พาตัวเฟิ่งชิงเฉินออกมาทันที

มีตัวประกันอยู่ในมือ พวกเขาจะต้องกลัวอะไร

ในฐานะตัวประกัน เฟิ่งชิงเฉินไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ แน่นอนว่านางไม่มีทางร้องตะโกนออกไป หรือบอกว่าตนเองกำลังหวาดกลัวและขอให้หวังจิ่นหลิงช่วยเหลือนางโดยเร็ว

เฟิ่งชิงเฉินจ้องมองมาที่หวังจิ่นหลิงด้วยใบหน้าอันเงียบสงบ ปากของนางเปิดขึ้นเล็กน้อย บอกกับหวังจิ่นหลิงอย่างไร้เสียงว่านางไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง

ในตอนนั้นเอง สิ่งที่นางกังวลก็มีแค่นางจะเป็นตัวปัญหาสำหรับหวังจิ่นหลิง การแสดงของนางในฐานะตัวประกันจะส่งผลร้ายแรงต่อการตัดสินของผู้ช่วยเหลือ

เป็นอย่างที่คิด ในตอนที่หวังจิ่นหลิงเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ตกใจหรือเสียสติแต่อย่างใด ไม่ได้ร้องตะโกนหรือบ่งบอกว่าตนเองเจ็บปวด เขาก็สงบลงทันใด ความกังวลในใจก็หายไปเช่นกัน

“ยิง” หวังจิ่นหลิงไม่สนใจคำขู่ ตัดสินใจออกคำสั่งทันที

ให้คนของตนเองถอยไป เฟิ่งชิงเฉินก็ยังถูกคนพวกนี้จับไปอยู่ดี เขาไม่คิดที่จะไล่ตามคนพวกนี้ไปถึงเมืองหลวงเพียงเพราะว่าพวกเขามีตัวประกันอยู่ในมือ

“คุณชายใหญ่ ท่านไม่สนใจชีวิตของแม่นางเฟิ่งเลยอย่างนั้นหรือ?” เมื่อเผชิญหน้ากับการตัดสินใจของหวังจิ่นหลิง องครักษ์ของลั่วอ๋องเองก็ร้อนรนเช่นกัน แบบนี้การที่พวกเขามีตัวประกันอยู่ในมือมันจะไปมีประโยชน์อะไร?

องครักษ์ของตระกูลหวังไม่สนใจเรื่องพวกนี้ หวังจิ่นหลิงออกคำสั่งให้พวกเขายิ่ง พวกเขาก็ปล่อยลูกธนูที่อยู่ในมือออกไปโดยไม่ลังเล

“ควับ ควับ ควับ......” ลูกธนูพุ่งผ่านอากาศ เสียงดังฟังชัด มันพุ่งเข้าไปที่ท้องม้า และอีกลูกหนึ่งก็พุ่งเข้าไปที่ดวงตาของม้าพอดี

“ฮี้ ฮี้......” ม้าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง ขยับอย่างรุนแรงโดยไร้จุดหมาย รถม้าถูกดึงเป็นวงกลมทำให้ไม่สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง

ดาบที่จี้อยู่ตรงลำคอของเฟิ่งชิงเฉินหลุดออกไป แต่เลือดก็กระเซ็นไปที่หน้าออกของเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เสียงของนางถูกเสียงร้องอันบ้าคลั่งของม้าระงับเอาไว้ แต่ถึงกระนั้นหวังจิ่นหลิงก็ยังรับรู้มันอยู่ดี

หวังจิ่นหลิงหรี่ตาทั้งสองข้างลง มือซ้ายของเขากำหมัดแน่น จากนั้นก็ข่มขู่ออกไป “พวกเจ้าฟังให้ดี หากเฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายเส้นผม ข้าจะทำลายจวนลั่วอ๋องให้สิ้นซาก”

“พวกข้าไม่ได้......” องครักษ์คิดที่จะอธิบาย บอกว่าพวกเขาไม่ใช่คนของจวนลั่วอ๋อง แต่หวังจิ่นหลิงไม่มีทางเปิดโอกาสให้พวกเขาได้อธิบายออกมา เขาตะโกนออกมาว่า “ยังไม่รีบทิ้งดาบอีกอย่างนั้นหรือ พวกเจ้าเชื่อไหม ข้าจะเข้าวังเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย จากนั้นให้จักรพรรดิเรียกลั่วอ๋องเข้าไปในวัง เมื่อถึงเวลานั้นลองมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลั่วอ๋อง”

ทุกคนล้วนมีจุดอ่อน หลังจากรู้ว่าลั่วอ๋องได้รับบาดเจ็บ หวังจิ่นหลิงก็มั่นใจเป็นอย่างมากว่าคนที่ลักพาตัวเฟิ่งชิงเฉินไปครั้งนี้ก็คือคนของลั่วอ๋อง และลั่วอ๋องก็เป็นคนลงมือด้วยตัวเอง

“คุณชายใหญ่ ท่านกล้า......” แม้ว่าองครักษ์ไม่กลัว แต่พวกเขาก็กลัวสิ่งที่หวังจิ่นหลิงจะทำกับลั่วอ๋อง

ลั่วอ๋องเป็นเจ้านายของพวกเขา หากเกิดอะไรขึ้นกับลั่วอ๋อง พวกเขาก็ไม่กล้าจินตนาการว่าชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป

“เช่นนั้นเจ้าก็ลองดู ดูว่าข้ากล้าหรือไม่ ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม พวกเจ้าจงโดนดาบในมือทิ้งและกระโดดลงจากรถม้า” ปลายมีดทิ่มฝ่ามือ แต่หวังจิ่นหลิงกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด

เขากังวล กังวลเกี่ยวกับสภาพของเฟิ่งชิงเฉินในตอนนี้ แต่เขารู้ว่าเขาไม่อาจแสดงมันออกมาได้ และไม่สามารถอ่อนข้อให้อีกฝ่าย หากอ่อนข้อให้ อีกฝ่ายจะมีพลังขึ้นมาทันที

“สาม......” เสียงของหวังจิ่นหลิงไม่ได้ดังมาก แต่ฟังดูนุ่มนวลและไพเราะ แม้ว่าม้ายังคงส่งเสียงร้องอันเจ็บปวดออกมา แต่องครักษ์ของลั่วอ๋องก็ยังได้ยินเสียงของหวังจิ่นหลิง

“ทำอย่างไรดี?” องครักษ์ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก พวกเขาไม่เข้าใจจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีตัวประกันอยู่ในมือ มีอำนาจต่อรองมากกว่า แต่เหตุใดสถานการณ์ถึงได้กลายเป็นเช่นนี้

“สอง......” เสียงของหวังจิ่นหลิงดังขึ้นมาอีกครั้ง หัวใจขององครักษ์เองก็ตื่นตระหนกและร้อนรนยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ