ตอน บทที่ 1375 ชิงคน, ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่ออยู่ในมือ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1375 ชิงคน, ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่ออยู่ในมือ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หมอของตระกูลหวังมารอที่จวนเฟิ่งตั้งนานแล้ว คนรับใช้ในจวนก็ได้เตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมแล้ว ประตูใหญ่ถูกเปิดเอาไว้เพื่อรอให้หวังจิ่นหลิงพาเฟิ่งชิงเฉินกลับมา
ทันทีที่รถม้าของหวังจิ่นหลิงมาถึง พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคนรับใช้ของจวนเฟิ่ง คนรับใช้ของจวนเฟิ่งพากันออกมายืนหน้าประตูเพื่อต้อนรับเฟิ่งชิงเฉินและหวังจิ่นหลิงกลับจวน
ไม่มีใครส่งเสียงที่แสดงความดีใจออกมา แต่สายตาของพวกเขาต่างจับจ้องไปที่หวังจิ่นหลิง มันเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณและเคารพ น่าเสียดายที่หวังจิ่นหลิงไม่ได้สังเกตเห็นสายตาเหล่านี้
“นำทาง” หวังจิ่นหลิงอุ้มเฟิ่งชิงเฉินลงจากรถม้า เดินเข้าไปด้านในของจวนเฟิ่ง ประตูและเส้นทางที่คุ้นเคย ไม่นานเขาก็พาเฟิ่งชิงเฉินไปยังห้องผ่าตัดของนาง
“คุณชาย เชิญ......” ทงจือและทงเหยารวมตัวกันที่ห้องผ่าตัดแล้ว แม้ว่าพวกนางจะกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เวลานี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมามาก
“หมอ เร็วเข้า” หวังจิ่นหลิงวางเฟิ่งชิงเฉินลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็หันไปตะโกนใส่กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลัง
น้อยมากที่จะได้เห็นคุณชายใหญ่อยู่ในสภาพเช่นนี้ และทุกครั้งล้วนเกิดขึ้นตอนที่เฟิ่งชิงเฉินได้รับบาดเจ็บ แต่เวลานี้ก็ไม่ได้รู้สึกว่าคุณชายใหญ่สูญเสียภาพลักษณ์ไปแต่อย่างใด
“มาแล้ว มาแล้ว” หมอเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องยา เหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากราวกับสายน้ำ จากนั้นก็จับไปที่ตรงข้อมือของเฟิ่งชิงเฉินเพื่อตรวจชีพจรและเริ่มทำการรักษา
“แขนหักไปแล้ว”
“ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรักษา” แววตาของหวังจิ่นหลิงยังคงนิ่งสงบ แต่เมื่อถูกสายตาเช่นนี้จ้องมอง หมอก็รู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังถูกมีดแทง เย็นเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง
หมอคิดว่าตนเองอายุมากแล้ว จึงไม่สนใจเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เขายกแขนเสื้อของเฟิ่งชิงเฉินขึ้นโดยตรงเพื่อทำการตรวจสอบและรักษาต่อไป
หวังจิ่นหลิงรู้ดีกว่าตนเองกังวลจนมากเกินไป เกรงว่าอยู่ที่นี่อาจจะส่งผลกระทบต่อการรักษา เขาถึงถอยออกไปด้านนอก ให้ทงจือและทงเหยาคอยเฝ้าดูการรักษา หากมีอะไรเกิดขึ้นให้รีบแจ้งเขาเป็นอันดับแรก
หวังจิ่นหลิงเดินออกมาจากประตู เขาก็ได้พบกับคนที่แม่ทัพใหญ่ซื่อส่งมา “คุณชายใหญ่ แม่ทัพใหญ่อยากคุยกับท่าน”
“ข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อน” หวังจิ่นหลิงผงะอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่ได้สติกลับคืนมา เขาไม่รู้เลยว่าเขาได้รับผลกระทบจากเรื่องของเฟิ่งชิงเฉินมากเพียงใด
“คุณชายใหญ่ได้โปรดเร่งมือ” คนของแม่ทัพใหญ่ซื่อเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของหวังจิ่นหลิง เขาขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาคิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่เองก็จะมีช่วงเวลาที่ขาดสติและทำตัวไม่เหมาะสมเช่นนี้เหมือนกัน
หวังจิ่นหลิงเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก หันกลับไปบอกให้คนรับใช้เตรียมเสื้อผ้าสะอาดให้เขา จากนั้นก็ใช้น้ำเย็นในการล้างหน้าล้างตา เมื่อตรวจดูแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติบนร่างกายของเขา เขาถึงเดินทางไปพบกับแม่ทัพใหญ่ซื่อ
แม่ทัพใหญ่ซื่อนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย รัศมีแห่งการฆ่าของเขาอ่อนแอลงมาก เมื่อเห็นหวังจิ่นหลิงเดินเข้ามาเขาก็ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เขายกมือขึ้นมาและกล่าวทักทาย “คุณชายใหญ่”
เมื่อปฏิบัติกับผู้ที่ด้อยกว่าอย่างสุภาพ แน่นอนว่าต้องมีคำขอบางประการ
“แม่ทัพใหญ่สุภาพเกินไปแล้ว จิ่นหลิงต้องขอโทษด้วยที่เพิ่งจะมาพบแม่ทัพใหญ่ในเวลานี้” หวังจิ่นหลิงไม่รู้ว่าแม่ทัพใหญ่ซื่อต้องการอะไรจากเขา และเขากับตระกูลซื่อก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรต่อกัน ดังนั้นเขาจึงตอบรับไปอย่างผิวเผินเท่านั้น
แม่ทัพใหญ่ซื่อเป็นแม่ทัพที่เป็นผู้นำของทหาร สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือขาดทักษะในการสื่อสาร แทนที่จะถามเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของหวังจิ่นหลิงออกมาก่อน เขากลับถามถึงเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินถูกลักพาตัวออกมาโดยตรง
และประเด็นสำคัญก็คือ แม่ทัพใหญ่ซื่ออยากจะถามเกี่ยวกับเรื่องราวของวงใน
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเฟิ่งชิงเฉิน หวังจิ่นหลิงจริงจังอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในสถานการณ์ที่คนอื่นถามเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง หวังจิ่นหลิงไม่มีทางบอกไปตามตรง เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ทัพใหญ่ซื่อ หวังจิ่นหลิงก็ไม่มีทางเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซื่อถามออกมาเพราะเป็นห่วงเฟิ่งชิงเฉิน
หากเป็นห่วงเฟิ่งชิงเฉินจริง อีกฝ่ายก็คงไม่รอจนถึงตอนนี้ เมื่อวานจวนเฟิ่งวุ่นวายขนาดนั้น เป็นไปได้หรือว่าแม่ทัพใหญ่ซื่อจะไม่รู้
บนโลกนี้ คนเดียวที่สามารถทำให้แม่ทัพใหญ่ซื่อร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้เกรงว่าคงจะมีแค่แม่ทัพหนุ่มซื่อคนเดียวเท่านั้น และดูเหมือนว่าเมื่อวานนี้ แม่ทัพหนุ่มซื่อจะถูกดึงดูดความสนใจออกไปด้านนอก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว
หลังจากทำความเข้าใจกับสถานการณ์คร่าว ๆ หวังจิ่นหลิงก็ชำเลืองมองแม่ทัพใหญ่ซื่อ ทำให้แม่ทัพใหญ่ซื่อเบือนหน้าหนีด้วยความอึดอัด
ความรู้สึกที่ถูกคนอื่นอ่านออกนั้นมันแย่มากจริง ๆ ตอนแรกแม่ทัพใหญ่ซื่อได้ยินมาว่าหวังจิ่นหลิงกำลังตกอยู่ในความสับสนเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับเฟิ่งชิงเฉิน จึงคิดจะใช้โอกาสนี้ในการหาข้อมูลบางอย่างกับหวังจิ่นหลิง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า......
“อ่า ยังมีใครที่คิดจะชิงทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อไปอีกงั้นหรือ?” ถึงขั้นกล้าแย่งชิงไปจากเขา สงสัยว่าคงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
มีเจตนาฆ่าแฝงอยู่ในน้ำเสียงของหวังจิ่นหลิง น่าเสียดายที่แม่ทัพใหญ่ซื่อฟังไม่ออก เขากล่าวออกมาด้วยความโกรธว่า “เฟิ่งชิงเฉิน นางเอ่ยปากขึ้นมาก่อนเจ้า แต่เฉิงเอ๋อร์ไม่ยอมรับปากนาง”
เมื่อนึกถึงเงื่อนไขที่เฟิ่งชิงเฉินเสนอขึ้นมา แม่ทัพใหญ่ซื่อก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรโกรธหรือดีใจ ตอนแรกเขาคิดว่าสามารถใช้บุญคุณของเฟิ่งจ้านเพื่อแลกกับการที่เฟิ่งชิงเฉินยอมรักษาให้กับซื่อเฉิง แต่ว่า......
เด็กคนนี้นั้นยอดเยี่ยม บอกว่ารักษาก็จะรักษาให้ตามคำสัญญา แต่ไม่อาจทำการรักษาโดยเปล่าประโยชน์ สมแล้วที่เป็นลูกสาวของเฟิ่งจ้าน ไม่ยอมเสียเปรียบเลยจริง ๆ
จิตสังหารของหวังจิ่นหลิงหายไปในพริบตา ยิ้มออกมาที่มุมปากพร้อมกับกล่าวว่า “ชิงเฉินช่างมีสายตาที่กว้างไกลยิ่งนัก สุภาพบุรุษจะไม่แย่งชิงสิ่งของที่ผู้อื่นหมายปอง ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อมอบให้เฟิ่งชิงเฉินไปเถิด ส่วนเรื่องของแม่ทัพหนุ่มซื่อข้าจะจำไว้ให้ขึ้นใจ”
แม่ทัพใหญ่ซื่อได้ยินคำพูดนี้ เขายิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
ในเมื่อสุภาพบุรุษไม่แย่งชิงสิ่งที่ผู้อื่นหมายปอง เช่นนั้นเหตุใดเขาจึงอยากได้ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อ คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวังผู้นี้สองมาตรฐานจริง ๆ เพียงแต่......
แม่ทัพใหญ่ซื่อหมดหนทางที่จะปฏิเสธออกไป มอบทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อให้กับเฟิ่งชิงเฉิน ไม่เพียงแต่สามารถช่วยซื่อเฉิงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาอาการป่วยของซื่อเฉิงได้อีกด้วย การลงทุนครั้งนี้ไม่ได้เสียเปรียบ แม้ว่าเขาจะรักและหวงแหนทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่อาจทำใจปล่อยวางเรื่องของซื่อเฉิงได้
ในพระราชวัง ชายชุดดำคนหนึ่งกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของจักรพรรดิ นำเรื่องราวทั้งหมดถวายรายงานให้จักรพรรดิได้รับรู้ “ข้าได้ดำเนินการเรื่องราวตามพระราชคำสั่งอันศักดิ์สิทธิ์ จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ซื่อเฉิงถูกจับกุม ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อถูกขังอยู่ในคุก และได้รับอำนาจทางการทหารที่อยู่นอกเมืองมาครอบครอง”
“อ่า” จักรพรรดิที่นอนอยู่บนเตียงมังกรตอบรับ “อย่าทำอะไรซื่อเฉิง จับตาดูจวนโจวอ๋องเอาไว้”
เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะสังหาร ซื่อเฉิงที่ไร้ซึ่งอำนาจไม่มีอะไรน่ากลัว
“พ่ะย่ะค่ะ” ชายชุดดำเงยหน้าขึ้น รับคำสั่งและจากไป......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...