นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1381

สรุปบท บทที่ 1381 ขอความช่วยเหลือ, ต้องมีทัศนคติของผู้ร้องขอความช่วยเหลือ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

อ่านสรุป บทที่ 1381 ขอความช่วยเหลือ, ต้องมีทัศนคติของผู้ร้องขอความช่วยเหลือ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บทที่ บทที่ 1381 ขอความช่วยเหลือ, ต้องมีทัศนคติของผู้ร้องขอความช่วยเหลือ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

สามวัน ใช้ระยะเวลาเพียงแค่สามวันเท่านั้น หลานจิ่วชิงสามารถนำแผนที่จิ่วโจวมาไว้ในครอบครอง ในขณะเดียวกันก็ได้เปลี่ยนตำแหน่งเจ้าศาลาเสวียนชิงคนใหม่

ระยะเวลาเพียงแค่สามวัน แน่นอนว่าไม่มีทางทำลายศาลาเสวียนชิงให้สิ้นซาก แต่ระยะเวลาสามวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปลี่ยนผู้นำคนใหม่ของศาลาเสวียนชิง

บนโลกใบนี้ไม่เคยขาดคนที่ต้องการอำนาจ และในหมู่ของผู้หญิงเองก็เช่นเดียวกัน และศาลาเสวียนชิงก็ไม่ได้มีเสวียนชิงเพียงผู้เดียว มีคนมากมายจับตามองตำแหน่งนี้อยู่ และหลานจิ่วชิงก็เลือกผู้หญิงที่ฉลาดคนหนึ่งที่มาร่วมงาน

ด้วยความร่วมมือดังกล่าว การที่จะจัดการกับศาลาเสวียนชิงจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ของศาลาเสวียนชิง หลานจิ่วชิงขี้เกียจที่จะสนใจ ดังนั้นจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้นำคนใหม่ของศาลาเสวียนชิง จากนั้นเขาก็ไปบอกกับปู้จิงหยุน ว่าขอตัวกลับก่อน

“ศิษย์พี่ ข้าไม่สามารถเดินทางไปกับท่านได้อย่างนั้นหรือ?” ก่อนออกเดินทาง ฉินเป่าเอ๋อมาหาหลานจิ่วชิง น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาที่งดงามของนาง

หลานจิ่วชิงไม่ได้ปฏิเสธออกไปโดยตรง แต่ถามกลับไปว่า “เจ้าขี่ม้าเป็นหรือไม่? เจ้าสามารถเดินทางข้ามวันข้ามคืนได้หรือไม่? เจ้าสามารถพักผ่อนในที่แคบและอยู่อย่างหลบซ่อนได้หรือไม่? เจ้าทำอะไรไม่ได้เลย เช่นนั้นแล้ว......เจ้าจะไปกับข้าได้อย่างไร”

“ศิษย์พี่ ข้า......” นางทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะกลับไปเมืองหลวงด้วยกันไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้ทิ้งนางไว้เช่นนี้

“จิงหยุนไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าข้าต้องรีบกลับเมืองหลวง?” หลานจิ่วชิงพบว่าสมาธิและความอดทนของเขาลดลงเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้เขาสามารถอดทนพูดคุยกับเป่าเอ๋อได้ดีกว่านี้ แต่เวลานี้เขากลับทำไม่ได้......

หากซูเหวินชิงไม่ได้โกหกเขา เวลานี้เฟิ่งชิงเฉินจะต้องหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ในใจคงมีแต่ความสิ้นหวัง ถึงกับปิดกั้นหัวใจของเขา เขาต้องรีบกลับไปเมืองหลวงให้เร็วที่สุด เฟิ่งชิงเฉินกำลังต้องการเขา

“บอก” ฉินเป่าเอ๋อพยักหน้า รู้ว่าหลานจิ่วชิงกำลังทำเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ นางทำได้เพียงระงับความต้องการในหัวใจของตนเองเท่านั้น นางพูดออกมาว่า “ศิษย์พี่ ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย บาดแผลของท่าน......ท่านต้องดูแลมันให้ดี”

“อื้อ ปู้จิงหยุนจะพาเจ้าเดินทางไปยังเจียงหนาน ในเจียงหนานมีหมอที่สามารถรักษาโรคหัวใจของเจ้าได้ เมื่อรักษาหายแล้ว เจ้าก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้เหมือนกับคนทั่วไป และข้าก็สามารถทำตามสิ่งที่สัญญากับท่านอาจารย์ไว้ได้” หากไม่มีโรคหัวใจมารบกวน เขาก็สามารถอธิบายเรื่องราวที่ไม่อาจอธิบายออกมาในตอนนี้ได้ หลานจิ่วชิงรู้สึกว่าเวลานี้มันล่าช้าเกินไปแล้ว

หากยืดเยื้อต่อไป ทุกอย่างก็จะเป็นเหมือนที่ปู้จิงหยุนพูด มันมีแต่ทำให้ผู้หญิงทั้งสองคนเสียใจเท่านั้น

“อื้อ” ฉินเป่าเอ๋อตอบรับกลับไปเบา ๆ ใบหน้าหวานชื่น แต่น่าเสียดายที่หลานจิ่วชิงหันกลับไปแล้วจึงมองไม่เห็นมัน

หลานจิ่วชิงเน้นย้ำกับปู้จิงหยุนอีกครั้ง หลังจากบอกให้ปู้จิงหยุนไปหาปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีและซุนซือสิงที่เจียงหนาน เขาก็เริ่มออกเดินทาง แม้ว่าปู้จิงหยุนจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องบาดแผลของหลานจิ่วชิง แต่หลานจิ่วชิงได้ตัดสินใจไปแล้ว ปู้จิงหยุนเองก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้

เสด็จอาเก้าออกเดินทางพร้อมกับอาการบาดเจ็บของเขาทางด้านของเฟิ่งชิงเฉินก็พักผ่อนอยู่ในจวนเฟิ่ง ครึ่งเดือนผ่านไป แม้จะยังไม่อาจปล่อยวางได้ แต่สุดท้ายก็พอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง อารมณ์ของเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้หดหู่เหมือนกับช่วงเวลาก่อนหน้านี้ แม้ว่าไม่เห็นเนื้อหนังบนร่างกาย แต่นางก็ไม่ได้ผอมไปมากกว่าเดิม ในที่สุดสาวใช้ทั้งสี่อย่างพวกชุนฮุ่ยก็ยิ้มออก

เกิดเรื่องขึ้นมากมายตลอดระยะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา ลั่วอ๋องถูกจำคุก โจวอ๋องถูกตำหนิ ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าทั้งสองคนหมดสิทธิ์ที่จะได้สืบทอดราชบัลลังก์

หลังจากนั้น ไม่รู้ว่าจักรพรรดิเป็นบ้าอะไร เขาตั้งชื่อให้องค์ชายแปดตั้งแต่อายุยังไม่ได้หนึ่งปี โดยมีพระนามว่า รุยอ๋อง ทำให้ผู้คนสงสัยเป็นอย่างมาก หรือว่าจักรพรรดิกำลังมีความคิดที่จะแต่งตั้งองค์ชายแปดเป็นองค์รัชทายาท?

แม่ขององค์ชายแปดคือสนมเอก เป็นลำดับหนึ่งของเรือนหลัง ฐานะสูงส่ง แต่องค์ชายแปดเพิ่งจะอายุได้เพียงเท่านี้ การที่ประเทศจะสถาปนาตำแหน่งองค์รัชทายาทให้กับคนที่อายุน้อยนั้นไม่ใช่เรื่องดี แต่จักรพรรดิก็ไม่ได้เอ่ยปากออกมา คนอื่นเองก็ไม่กล้าซักถาม เนื่องจากเรื่องของลั่วอ๋อง ใครก็ตามที่พูดถึงการแย่งชิงอำนาจจะถูกจักรพรรดิลงโทษอย่างหนัก โจวอ๋องได้ส่งขุนนางของตนเองเข้ามากล่าวเรื่องนี้ในราชสำนัก ทุกคนต่างถูกจักรพรรดิสั่งประหารจนหมดสิ้น

แน่นอน เรื่องพวกนี้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเฟิ่งชิงเฉิน ช่วงเวลานี้เฟิ่งชิงเฉินเอาแต่พักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ชีวิตในแต่ละวันของนางไม่ต่างอะไรกับคนแก่ กลิ่นสาบเลือดด้านนอกดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาง ทุกวันนางเอาแต่นั่งมองท้องฟ้าอย่างสงบ ร่างกายของนางเต็มไปด้วยความเฉยเมย ทำให้คนในจวนเฟิ่งสงสัยว่าเฟิ่งชิงเฉินนั้นหลุดจากโลกของมนุษย์ไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถามออกมา

ในบรรดาเรื่องราวทั้งหมด มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับเฟิ่งชิงเฉิน นั้นก็คือเรื่องที่ซื่อเฉิงไปก่ออาชญากรรม เขาถูกปลดจากตำแหน่งและไร้ซึ่งอำนาจทางการทหาร เวลานี้ถูกปลดออกจากตำแหน่งและนั่งว่างอยู่ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้เฟิ่งชิงเฉินจึงได้ทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อมาอยู่ในครอบครอง

มีทหารม้าสิบแปดแห่งตระกูลซื่อคอยปกป้องอยู่ในจวนเฟิ่ง เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าในที่สุดนางก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ ส่วนซื่อเฉิง?

องค์หญิงอันผิงเกลียดเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความสามารถของนางในตอนนี้ นางทำได้เพียงแค่ยอมแพ้

ระงับความอับอายและความเกลียดชังในใจ องค์หญิงอันผิงกัดฟันและพูดออกมาว่า “เฟิ่งชิงเฉิน ที่ข้ามาหาเจ้าวันนี้ เพราะมีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากจะขอร้อง”

“ขอร้องข้า? องค์หญิงมาขอความช่วยเหลือด้วยทัศนคติเช่นนี้งั้นหรือ?” ไม่ใช่ว่าเฟิ่งชิงเฉินเย่อหยิ่ง แต่นางไม่ได้เป็นคนสร้างปัญหาให้กับองค์หญิงอันผิงก่อน เท่านี้องค์หญิงอันผิงก็ควรที่จะย่ามใจ

และตอนนี้องค์หญิงอันผิงก็เป็นคนเข้ามาหานางเอง หากนางไม่ทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ เช่นนั้นนางจะตอบแทน “ความรัก” ที่องค์หญิงอันผิงมีให้นางตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาได้อย่างไร

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าต้องการอะไร......อย่าคิดว่า เกิดเรื่องขึ้นกับเสด็จแม่และท่านพี่ของข้าแล้วเจ้าจะสามารถเหยียบย่ำข้าได้ ยังไงข้าก็ยังเป็นองค์หญิง” องค์หญิงอันผิงกำหมัดแน่น แม้ว่าจะอยากสังหารคนที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็ทำได้เพียงระงับอารมณ์เอาไว้

เห็นได้ชัดว่า ช่วงนี้นางได้ยินคำพูดเช่นนี้มามากมาย

“องค์หญิง ท่านพูดผิดแล้ว นางเป็นฮองเฮาที่ถูกปลด”

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้า......”

เสียงกระทบกันดังขึ้น องค์หญิงอันผิงทุบโต๊ะอย่างแรง ยืนขึ้นมา มองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยความเกลียดชัง เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย......

สิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนแปลง แล้วถ้าลูกสาวของจักรพรรดิมาขอความช่วยเหลือจากเฟิ่งชิงเฉิน แน่นอนว่าก็ต้องก้มหัวให้กับนางเช่นกัน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ