นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1387

เป็นอย่างที่องค์หญิงอันผิงกล่าวไว้ แม้ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินจะเยือกเย็น แต่นางก็มีจิตใจที่อ่อนโยน หากโจมตีถูกจุดอ่อนของนาง เฟิ่งชิงเฉินก็จะพูดคุยง่ายเป็นพิเศษ

เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจมือที่กำลังบาดเจ็บอยู่ของตนเอง แม้ว่าคนไข้ที่นางต้องมารักษานั้นจะมีความแค้นกับนางอยู่บาง แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องส่วนตัวเหล่านั้น นางจะทำในสิ่งที่หมอคนหนึ่งควรทำอย่างเต็มที่ ความแค้นที่เหลืออยู่ รอหลังจากรักษาเสร็จแล้วค่อยคิดบัญชีในภายหลัง

หากเป็นอดีต กลยุทธ์ทุกข์กายของเสด็จอาเก้าถูกเปิดเผย หลังจากเสด็จอาเก้าหัวเราะเยาะ นางจะต้องรีบทำการรักษาให้เสด็จอาเก้า ให้เสด็จอาเก้าพักผ่อนอยู่ในจวนเฟิ่ง เนื่องจากเสด็จอาเก้านั้นได้รับบาดเจ็บมากจริง ๆ ต่อให้ใช้กลยุทธ์ทุกข์กาย มันก็ต้องแลกมากับความทุกข์ทรมานไม่น้อย

แต่วันนี้?

เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ในหัวของนางเอาแต่คิดว่าเสด็จอาเก้ากำลังวางแผนต่อนาง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ครั้งนี้มันทำให้เฟิ่งชิงเฉินโกรธที่สุด นางไม่ใช่ผู้หญิงที่ไร้เหตุผล แม้ว่านางจะโกรธที่เสด็จอาเก้าปรากฏตัวออกมาทันทันเวลา แต่นางก็ไม่มีทางโวยวายหรือร้องไห้ออกมาเพราะเรื่องพวกนี้ โยนความผิดทั้งหมดให้กับเสด็จอาเก้า แต่......

เสด็จอาเก้ากับแผนใส่นาง วางแผนกับนางระหว่างทาง รู้ว่านางโกรธ รู้ว่านางเจ็บใจ แต่ก็ไม่คิดที่จะเกลี้ยกล่อมนาง แต่ยังใช้อาการบาดเจ็บของตนเองทำให้นางรู้สึกละอายใจ มันทำให้นางเจ็บปวดใจยิ่งนัก......

ผู้ชายคนนี้ แม้แต่ความรู้สึกยังนำมาใช้ร่วมกับการวางแผน แล้วจะมีอะไรที่เขาทำไม่ได้

“เสด็จอาเก้า มือของข้าได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถทำความสะอาดบาดแผลให้เจ้าได้ ในเมืองจักรพรรดิไม่ได้มีข้าเป็นหมอเพียงคนเดียว เชิญตามสบาย” เฟิ่งชิงเฉินหันหลังไปปิดกล่องยา ไม่อยากที่จะมองไปที่เสด็จอาเก้าอีกแล้ว

“ชิงเฉิน......” เสด็จอาเก้าเรียกออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา จากนั้นก็กล่าวออกมาด้วยความคับข้องใจ “ชิงเฉิน ข้าเป็นห่วงเจ้า กลัวว่าเจ้า......”

“พอได้แล้ว” ทุกคำที่เสด็จอาเก้ากล่าวออกมา เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าเป็นเพียงคำหลอกลวง หันหลังและชี้ไปที่ประตู “เสด็จอาเก้า ประตูอยู่ทางนั้น ขอโทษด้วยที่ข้าไม่ไปส่งเจ้า”

“ชิงเฉิน ข้ากำลังบาดเจ็บ” เสด็จอาเก้ารู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำลงไปนั้นทำให้เรื่องมันวุ่นวาย และรู้สึกเสียใจอยู่ลับ ๆ

“แล้วมันอย่างไร ท่านอ๋องบอกว่ามันเป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อยไม่ใช่หรือ อย่างไรมันก็คงไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิต” ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเต็มไปด้วยความเยือกเย็น ดวงตาที่จ้องมองไปยังเสด็จอาเก้าของนางไม่สงบอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยความเฉยเมย ทำให้เสด็จอาเก้าอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา เฟิ่งชิงเฉินยกเท้าก้าวเดินออกไป “หากท่านอ๋องไม่ไป ข้าจะไปเอง”

“ชิงเฉิน ข้ากำลังบาดเจ็บ!” เสด็จอาเก้าลุกขึ้น คว้าแขนของเฟิ่งชิงเฉินไว้ หมุนตัวของเฟิ่งชิงเฉินเข้ามาในอ้อมกอดของเขา “ชิงเฉิน อย่าไป ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอยอมรับความผิดพลาดครั้งนี้”

“ปล่อยข้า” แน่นอนว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ยอมรับฟัง พยายามดิ้นรน แต่เสด็จอาเก้าก็กอดรัดนางไว้แน่นกว่าเดิม “ไม่ปล่อย” หากปล่อยเขาก็คงไม่สามารถเข้ามาในจวนเฟิ่งได้อีกต่อไปแล้ว

“ทำไม เสด็จอาเก้าคิดว่าทำให้แขนซ้ายของข้าบาดเจ็บยังไม่พอ ตอนนี้ยังต้องการทำลายแขนขวาของข้าอีกงั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าสูญเสียการควบคุม เขาไม่สามารถควบคุมแรงของตนเองได้ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเจ็บที่แขนขวา ถึงแม้จะไม่ได้เจ็บไปถึงกระดูก แต่มันก็ต้องบอบช้ำเป็นแน่

“ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าไป” เสด็จอาเก้าค่อย ๆ ปล่อยมือ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

เขาไม่รู้ว่าเรื่องราวมันจะกลายเป็นเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่มันก็ยังดีอยู่เลย

“คนที่ท่านอ๋องต้องการคือหมอ ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์อย่างข้า ข้าอยู่ที่นี่ต่อไปจะมีประโยชน์อันใด” เฟิ่งชิงเฉินสะบัดมือซ้ายของนางเล็กน้อยเพื่อเตือนสติของเสด็จอาเก้าถึงสถานการณ์ปัจจุบันของนาง

นางปฏิเสธที่จะยอมรับมาโดยตลอดว่าอาชีพหมอของนางจะต้องพังทลายลง แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ต้องยอมรับ หลังจากวันนี้ไป นางไม่อาจจับมีดผ่าตัดได้อีกแล้ว เช่นนั้นนางจะเป็นหมอได้อย่างไร

“ชิงเฉิน อย่าพูดกับตัวเองเช่นนี้ เป็นข้าที่ไม่ดีเอง ข้าไม่ควรออกไปจากเมืองหลวง ไม่ควรทิ้งให้เจ้าต้องอยู่เพียงลำพัง” เสด็จอาเก้าเพิกเฉยต่ออาการบาดเจ็บที่แขนซ้ายของเขา ไม่ใช่เพราะความเย่อหยิ่ง แต่มันเป็นเพราะความรู้สึกผิด

“พูดเรื่องพวกนี้ออกมาตอนนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไร เรื่องราวต่าง ๆ มันได้เกิดขึ้นไปแล้ว อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องข้า”

“ชิงเฉิน นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าจะตัดความสัมพันธ์กับข้าอย่างนั้นหรือ?” น้ำเสียงของเสด็จอาเก้าดูเย็นลงเป็นอย่างมาก ชายที่เย่อหยิ่งและภูมิใจในตัวเองเช่นเขา เหตุใดถึงได้มีน้ำเสียงเช่นนี้ออกมา

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ตอบไปโดยตรง เพียงแค่กล่าวออกมาอย่างสงบ “ตอนนี้แขนซ้ายของข้าทำอะไรไม่ได้แล้ว หลังจากนี้ก็ไม่อาจจับมีดผ่าตัดได้ เช่นนี้ข้าก็กลายเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างไม่ต้องสงสัย”

เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เฟิ่งชิงเฉินไม่คู่ควรกับลั่วอ๋อง ที่จริงนางก็ไม่คู่ควรกับเสด็จอาเก้าเช่นกัน ไม่อย่างนั้นนางคงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพที่น่าอับอายเช่นนี้

โชคชะตาช่างยุติธรรมยิ่งนัก เพราะนางไม่เคยมีโอกาสได้เลือกเส้นทางของตัวเองเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ