นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1410

สรุปบท บทที่ 1410 สรรเสริญ, การมีภรรยาที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน บทที่ 1410 สรรเสริญ, การมีภรรยาที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

ตอน บทที่ 1410 สรรเสริญ, การมีภรรยาที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ไม่มีการตะโกนอย่างรุนแรง ไม่มีการบูชาอย่างบ้าคลั่ง มีเพียงดวงตาที่สำนึกคุณและหัวใจที่เต้นรัว พวกเขามองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยแววตาแห่งความจริงใจ และตอบแทนเฟิ่งชิงเฉินด้วยความภักดีที่บริสุทธิ์ที่สุด

พวกเขาเป็นกลุ่มคนพิเศษ พวกเขาถูกญาติทอดทิ้งและถูกขับไล่โดยผู้มีอำนาจ ในช่วงครึ่งแรกของชีวิตพวกเขาไม่เคยได้ใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ พวกเขาจมปลักอยู่ในความสับสน แต่เป็นเพราะการปรากฏตัวของเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขาถึงสามารถลืมตาขึ้นมาเห็นเดือนเห็นตะวัน และทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปได้

คนทั้งหมื่นคนนี้ไม่ได้ยกย่องเฟิ่งชิงเฉินว่าเป็นเทพเจ้าจากสวรรค์ชั้นฟ้า เนื่องจากพระเจ้าไม่เคยช่วยเหลือพวกเขา ไม่เคยทำให้พวกเขารอดพ้นจากความหิว ความทุกข์ทรมาน และความหนาวเย็น

มีเสียงร้องสะอื้นดังขึ้นมาจากคนกลุ่มนี้ แม้พวกเขาจะพยายามระงับมันไว้ แต่ก็ไม่อาจปิดกั้นไว้ได้หมด พวกเขาเห็นเฟิ่งชิงเฉินเป็นเจ้านาย เป็นผู้มีพระคุณ และเป็นคนเดียวที่พวกเขาจะยอมติดตามไปทั้งชีวิต และในตอนที่หลี่เจ๋อก็พูดออกมาว่า “ข้าสาบานว่าจะติดตามแม่นางเฟิ่งไปจนตาย” ไม่มีผู้ใดออกคำสั่ง คนหมื่นคนที่อยู่ด้านล่างคุกเข่ามาทางเฟิ่งชิงเฉินโดยพร้อมเพรียงกัน จากนั้นก็ตะโกนออกมาว่า “ข้าสาบานว่าจะติดตามแม่นางเฟิ่งไปจนตาย”

“ข้าสาบานว่าจะติดตามแม่นางเฟิ่งไปจนตาย!”

......

เสียงตะโกนทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะเทือน หากไม่ใช่ว่าที่แห่งนี้คือดินแดนของเผ่าเสวียนเซียวกง มันคงดึงดูดความสนใจของทหารอย่างเป็นแน่ เฟิ่งชิงเฉินคิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะพอใจยอมจำนนง่ายดายถึงเพียงนี้ เมื่อเห็นฉากดังกล่าวก็ทำให้นางดีใจและเจ็บปวดไปพร้อมกัน

หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินเต้นแรง แต่นางไม่ได้แสดงออกมาทางใบหน้า นางยืนอยู่บนที่สูงด้วยใบหน้าอันแสนสงบ ปล่อยให้คนพวกนี้ตะโกนออกมา จนกระทั่งเสียงของพวกเขาหยุดลง เฟิ่งชิงเฉินก็พูดขึ้นมาว่า “ลุกขึ้น!”

เสียงเด็กไปด้วยพลัง ผู้ที่ได้ยินรีบลุกขึ้นมาโดยไม่อาจหายใจ คนอื่น ๆ ที่เห็นเช่นนั้นก็ลุกขึ้นตาม จ้องมองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยแววตาที่กลายเป็นสีแดง

ในความเป็นจริง ระยะห่างค่อนข้างไกล พวกเขามองไม่เห็นรูปร่างหน้าตาของเฟิ่งชิงเฉินเลย แต่พวกเขารู้ว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่บนแท่นสูงคือผู้มีพระคุณของพวกเขา และเป็นคนเดียวที่พวกเขาจะภักดีไปตลอดชีวิต

บุญคุณและอำนาจ เมื่อแสดงบุญคุณออกไปแล้ว ต่อมาก็ต้องแสดงความยิ่งใหญ่ของตนเอง เฟิ่งชิงเฉินพยายามใช้เสียงให้ดังที่สุด “ข้ารู้ว่าระยะเวลาครึ่งเดือนนั้นเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก แต่ข้าก็มีความต้องการกับพวกเจ้าเป็นอย่างมากเช่นกัน เวลานี้ข้ามอบโอกาสให้กับพวกเจ้า ให้โอกาสพวกเจ้าได้บอกกับข้าว่า พวกเจ้าจะสามารถทำมันได้หรือไม่? พวกเจ้าจะทำให้ข้าผิดหวังหรือเปล่า?”

“ทำได้ พวกข้าทำได้!”

“ไม่มีทาง พวกข้าไม่มีทางทำให้แม่นางเฟิ่งต้องผิดหวัง!”

......

ทหารพวกนี้ไม่ได้เชี่ยวชาญในการรบ พวกเขาไม่ได้เป็นคนเลือดร้อน พวกเขาเองก็อยากจะมีชีวิตอยู่เหมือนกับคนทั่วไป และอยากจะมีชีวิตอยู่ให้ดีกว่าที่ผ่านมา

คำพูดของเฟิ่งชิงเฉินนั้นไม่ได้เป็นการยั่วยุแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะมันออกมาจากปากของเฟิ่งชิงเฉินจึงทำให้พวกเขาตื่นเต้นได้ถึงเพียงนี้ ความภาคภูมิใจในใจพวกเขาเดือดพล่านเพราะคำพูดของเฟิ่งชิงเฉิน

พวกเขาต้องการพิสูจน์ให้เฟิ่งชิงเฉินได้เห็นว่าพวกเขาไม่มีทางทำให้เฟิ่งชิงเฉินผิดหวัง พวกเขาจะทำในสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินต้องการ ขอแค่เฟิ่งชิงเฉินไม่ทอดทิ้งพวกเขาก็เพียงพอ

“ดี ตอนนี้ข้าจะให้พวกเจ้าได้แสดงความแข็งแกร่งของพวกเจ้าออกมา!” หลังจากตะโกนออกไปหลายครั้ง เสียงของเฟิ่งชิงเฉินเริ่มแหบแห้ง แต่นางก็ไม่ได้ลดระดับเสียงลง

ตอนนี้นางมีความสุขและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก หากไม่มีอะไรผิดพลาด ชายหนุ่มที่ยังมีร่างกายที่ผอมบางหมื่นคนนี้ จะต้องเป็นทหารที่นางไว้วางใจมากที่สุดในฐานะลูกสาวโดยชอบธรรม

แม้ว่าความสามารถของพวกเขาอาจจะเทียบกับทหารม้าทมิฬของเสด็จอาเก้าไม่ได้ แต่เรื่องความภักดีของพวกเขานั้นคงไม่จำเป็นต้องสงสัย

“ตั้งกระบวน!” ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด หลี่เจ๋อลงไปจากแท่นแล้ว เขาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนบนหลังม้า

ควับ ควับ ควับ......เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกัน แม้ว่าบางคนอาจจะยังไม่ได้มาตรฐาน แต่ด้วยความตั้งใจและความแข็งแรงของพวกเขาก็ทำให้คนยอมที่จะมองข้าข้อบกพร่องเล็ก ๆ

คนพวกนี้คือทหารที่มีแรงบันดาลใจ พวกเขาคือกองทัพที่มีอนาคต!

การฝึกครึ่งเดือนนั้นไม่ได้ช่วยอะไรมาก เฟิ่งชิงเฉินแค่ต้องการวางรากฐานให้กับพวกเขา เป็นการฟังคำแนะนำ การฝึกร่างกายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งเท่านั้น วันนี้สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือการแสดงศักยภาพทางร่างกายที่พวกเขาฝึกฝนมาเป็นเวลาครึ่งเดือนออกมาให้เฟิ่งชิงเฉินได้เห็น

หนึ่งหมื่นคนนั้นไม่ได้มากมายอะไร แต่เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรก หลี่เจ๋อจึงเตรียมการได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร การทดสอบจึงยืดเยื้อไปจนพระอาทิตย์ตก

“ข้ารู้สึกคาดหวังกับมันยิ่งนัก อยากรู้ว่าเจ้าจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์อะไรออกมาอีก” เฟิ่งหลีหยูสามารถจินตนาการได้ว่า หากเขานำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานรายงานให้กับท่านพ่อของเขาได้รับรู้ ท่านพ่อของเขาคงมีความสุขยิ่งนัก

ในที่สุดตระกูลเฟิ่งหลีก็มีผู้สืบทอดโดยชอบธรรม!

ในขณะที่เฟิ่งชิงเฉินยุ่งอยู่กับการทำให้ทหารยอมรับในตัวเอง เสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิงที่อยู่ในเมืองหลวงเองก็ยุ่งไม่แพ้กัน

จักรพรรดิโกรธ เมืองจักรพรรดิอยู่ในความวุ่นวาย การลอบสังหารจักรพรรดิด้วยวิธีการอันแสนสกปรก สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ถูกชี้ไปที่โจวอ๋องและลั่วอ๋อง แม้ว่าโจวอ๋องและลั่วอ๋องจะปฏิเสธที่จะยอมรับ แต่จักรพรรดิก็ไม่มีวันปักใจเชื่อ

เห็นแก่ที่องค์หญิงอันผิงได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ จักรพรรดิจึงไม่ได้สังหารลั่วอ๋อง เพียงเนรเทศไปยังเจียงเป่ยเท่านั้น ส่วนโจวอ๋อง ตอนแรกจักรพรรดิเองก็อยากจะเนรเทศออกไปเช่นกัน แต่ฉู่ฉางฮว๋ากลับก้าวออกมา เสนอว่าจะแต่งงานกับโจวอ๋อง ขอพระราชโองการส่งพวกเขากลับไปยังเมืองฉู่

การแต่งงานกับโจวอ๋องครั้งนี้เป็นการแจ้งเตือนจักรพรรดิให้รู้ว่าโจวอ๋องนั้นไม่ได้เป็นเพียงองค์ชายแห่งตงหลิงเท่านั้น แต่ยังเป็นราชบุตรเขยแห่งเมืองฉู่ เห็นแก่หน้าของเมืองฉู่ จักรพรรดิจึงไม่อาจลงโทษเขารุนแรงเกินไป

แต่งงานกับภรรยาที่มีภูมิหลังเข้มแข็ง แล้วจะปลอดภัยในช่วงเวลาวิกฤติ

จักรพรรดิไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของโจวอ๋อง เขาจึงจัดให้โจวอ๋องไปอยู่ในเขตที่ดินศักดินาอันแห้งแล้งบริเวณใกล้กับเมืองฉู่ ออกคำสั่งให้โจวอ๋องและฉู่ฉางฮว๋ากลับไปอยู่บนที่ดินศักดินาหลังจากเข้าพิธีแต่งงาน

ขุนนางทุกตระกูลที่มีความเกี่ยวข้องกับลั่วอ๋องและโจวอ๋องถูกปลดจากตำแหน่ง ลดให้เป็นสามัญชนทั่วไป ผู้ที่เคยมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่รุนแรงต่างถูกเนรเทศออกไปต่างแดน

ระยะเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ครึ่งเดือน จำนวนขุนนางและองค์ชายที่อยู่ในเมืองจักรพรรดิลดลงกว่าสี่ส่วน ขุนนางจำนวนมากถูกกวาดล้าง ทำให้จวนและที่นาว่างเปล่า

ก่อนที่เฟิ่งชิงเฉินจะจากไป นางได้สั่งให้พ่อบ้านใช้โอกาสนี้ในการซื้อที่ดินและที่อยู่เอาไว้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีราคาถูกกว่าปกติ

เรื่องของลั่วอ๋องกับโจวอ๋องสิ้นสุดลงได้ไม่นาน จักรพรรดิก็คิดที่จะแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ และก่อนที่จะแต่งตั้งองค์รัชทายาทขึ้นมาใหม่ จักรพรรดิจะต้องเลือกอาจารย์ขององค์รัชทายาทเสียก่อน และคนผู้นั้นก็คือ......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ