นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1411

สรุปบท บทที่ 1411แผนการณ์ , ไม่สนใจพระราชโองการ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 1411แผนการณ์ , ไม่สนใจพระราชโองการ – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1411แผนการณ์ , ไม่สนใจพระราชโองการ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หวังจิ่นหลิง!

อาจารย์ขององค์รัชทายาทที่ฮ่องเต้ทรงเลือกให้นั่นก็คือหวังจิ่นหลิงผู้นำแห่งตระกูลหวัง ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่ใคร ๆ ก็รู้จักเขานั่นเอง

ทันทีที่รู้ ผู้คนในเมืองหลวงต่างถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับคุณสมบัติของหวังจิ่นหลิงว่าไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท รวมไปถึงไม่อยากจะเชื่อว่าหวังจิ่นหลิงจะยอมเป็นอาจารย์สอนองค์รัชทายาท

เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ที่คุณชายใหญ่ที่มีความสามารถและไม่มีใครเทียบได้จะยอมรับองค์รัชทายาทเป็นลูกศิษย์ของเขา แต่องค์รัชทายาทเป็นใครนั้นยังไม่มีใครรู้ หวังจิ่นหลิงจะรับลูกศิษย์ที่ไม่รู้ว่าเขามีความสามารถแค่ไหนอย่างงั้นหรือ?

เป็นที่รู้กันนับตั้งแต่หวังจิ่นหลิงออกมาจากสำนักศึกษาจี้เซี่ย มีเด็กหนุ่มมากมายที่มีความสามารถที่อยากจะเป็นลูกศิษย์ของเขา แต่พวกเขาทั้งหมดก็ถูกคุณชายใหญ่อย่างเขาปฏิเสธ

คุณชายใหญ่ได้กล่าวไว้ว่ารอให้เขาอายุครบสี่สิบปีแล้วเท่านั้น เขาถึงจะสงบสติอารมณ์สอนลูกศิษย์ได้ ก่อนถึงเวลานั้นเขาจะไม่รับลูกศิษย์ แต่ตอนนี้เขากลับไปเป็นครูสอนให้องค์รัชทายาทซึ่งทำให้ผู้คนสับสนคิดยังไงก็คิดไม่ออก

“นี่คุณชายใหญ่มิใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรอกหรือ?” ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ก็มีผู้คนเข้ามาร่ายล้อมเขาทันที : “เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? คุณชายใหญ่นั้นเป็นผู้สูงศักดิ์ เขาจะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง”

“ถูกต้อง ถูกต้อง เจ้ารู้ไหมว่าคุณชายใหญ่เขาเป็นใคร? เจ้ากล้าพูดจาให้ร้ายคุณชายใหญ่แบบนี้ได้อย่างไร เจ้าจงใจใส่ร้ายป้ายสีคุณชายใหญ่ชัด ๆ ”

“คุณชายใหญ่ต้องมีความลำบากใจของเขาเป็นแน่ ถ้าเจ้ากล้าพูดใส่ร้ายคุณชายใหญ่อีก พวกข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายเลยคอยดู”

มีคนกล่าวว่าบุรุษนั้นใช้วาจามิใช้ใช้กำลัง เหล่าบัณทิตพวกนี้ถ้าโดนสาดโคลนใส่ก็พร้อมลุกขึ้นมาต่อยตีคนได้เช่นกัน

“ชื่อเสียงของเจ้านับวันยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ หากวันใดเจ้าฆ่าใครสักคน แม้ว่าคนเหล่านั้นจะเห็นมันด้วยตาของพวกเขาเอง พวกเขาก็จะแก้ต่างแทนเจ้า” ชุยห้าวถิงในมือถือถ้วยเหล้าพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย

หวังจิ่นหลิงแค่หนึ่งคนมีค่าเท่ากับกองกำลังทหารเป็นหมื่น ๆ พัน ๆ

“ในชีวิตนี้ ต้องเหนื่อยเพื่อมีชื่อเสียงและบารมี ” ถึงแม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะพูดแบบนี้ แต่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หลังจากที่เขามีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว เขาก็สามารถทำอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ เมื่อผู้คนเชื่อมั่นในตัวเขา ไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใดก็ย่อมมีความหมาย ถึงแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม

“ฮ่องเต้มีพระราชโองการนับครั้งไม่ถ้วน แต่เจ้ากลับทำเป็นไม่สนใจ ฮ่องเต้ก็ยังไม่คิดจะลงโทษเจ้า นับว่าชื่อเสียงของเจ้านั่นไม่ธรรมดา” หลังจากที่ชุยห้าวถิงพูดจบก็มองไปที่หวังจิ่นหลิงอย่างพินิจพิเคราะห์ : "แล้วเจ้ามีแผนการณ์อะไร? รู้ใช่ไหมวันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถ้าเจ้าไม่ไว้พระพักตร์ฮ่องเต้ มีหรือฮ่องเต้จะยอมปล่อยคนตระกูลหวังไปง่าย ๆ เช่นนี้ เจ้าอย่าลืมว่ายังมีคนของตระกูลเซี่ยเฝ้าดูอยู่”

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ไว้พระพักตร์ฮ่องเต้ แต่เป็นฮ่องเต้ต่างหากที่ไม่ไว้พระพักตร์หน้าพระองค์เอง ข้าไปตกลงเป็นอาจารย์สอนองค์รัชทายาทตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ตระกูลหวังไม่เคยมีส่วนร่วมในการสถาปนาองค์รัชทายาทเลย ” ขณะที่หวังจิ่นหลิงพูดถึงเรื่องนี้สีหน้าของเขาก็แสดงความไม่พอใจออกมา

“เจ้าจะสนใจไปทำไมว่าองค์รัชทายาทจะเป็นใคร เจ้าเป็นอาจารย์สอนก็พอแล้ว พวกตระกูลขุนนางต้องการแค่คนที่มีฐานะสูงส่งเท่านั้น ” ชุยห้าวถิงเสนอแนะ

“เป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทนั้นมีแค่ตำแหน่งเท่านั้นแต่ไม่ได้มีอำนาจอย่างแท้จริง อีกอย่างคนตระกูลเซี่ยก็ไม่พอใจนักที่ข้าจะเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท ” หากว่าเขายอมเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางแต่งตั้งองค์ชายแปดเป็นรัชทายาทอย่างแน่นอน

ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชายแปดและตระกูลเซี่ยชัดเจนอยู่ตรงนั้น ถ้าเขาต้องกลายเป็นอาจารย์ขององค์ชายแปด มิใช่เป็นการนำเขาไปผูกมัดไว้กับตระกูลเซี่ยหรอกหรือ มันเป็นไม่ได้ที่ฮ่องเต้จะทำเรื่องแบบนั้น

หากว่าเขายอมเป็นอาจารย์สอนหนังสือองค์รัชทายาท นั่นมิใช่เป็นการตัดหนทางการได้ขึ้นเป็นรัชทายาทขององค์ชายแปดหรอกหรือ เมื่อถึงเวลานั้นตระกูลเซี่ยและตระกูลหวั่งต้องต่อสู้แก่งแย่งกัน คนที่ได้ผลประโยชน์ก็คือฮ่องเต้ เขาไม่ได้กลัวตระกูลเซี่ยแต่เขาก็ไม่พึงพอใจนักที่ฮ่องเต้จะได้ผลประโยชน์ไปง่ายดายเช่นนี้

“ฮ่องเต้คนนี้ จิตใจช่างยากหยั่งถึงจริง ๆ ” ชุยห้าวถิงรู้ว่าหวังจิ่นหลิงได้ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ห้ามเขาอีก เพียงแค่พูดคำเดียวว่า: " ช่วงนี้ดูเหมือนเจ้าจะสนิทสนมกับเสด็จอาเก้านะ"

“ข้าก็สนิทกับคนตระกูลเซี่ยเช่นกัน” หวังจิ่นหลิงเพียงแค่พูดถึงเรื่องนี้เท่านั้น แต่สำหรับคนฟังแล้วกลับรู้สึกว่าทั้งเสด็จอาเก้าและตระกูลเชี่ยนั้นล้วนเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ฉากหน้าเท่านั้น

ทั้งสองคนต่างก็เป็นคนมีความคิดของตัวเอง ถึงแม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะบอกให้ชุยห้าวถิงไม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ชุยห้าวถิงก็ยังคงคิดถึงเรื่องนี้อยู่ดี...

“แล้วไงล่ะ ยังไงเจ้าก็ไม่คิดที่จะฆ่าข้าอยู่แล้ว ” ฝู่หลินคำรามและต่อยหลานจิ่วชิงอีกครั้ง หลานจิ่วชิงรู้สึกรำคาญจนทนไม่ได้อีกต่อไป จึงใช้เท้าเตะไปที่ส่วนบนของฝู่หลิน: "ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า หลีกไป .. "

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า หากวันนี้ข้าไม่ได้ทุบตีเจ้าให้สาแก่ใจแล้วล่ะก็ ก็ยากที่จะระงับความโกรธในใจของข้าได้" การที่เขาไม่สามารถฆ่าหลานจิ่วชิงได้เขาต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหน หากฝืนทนต่อไปอีกเขาแทบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้ว

“ฝีมืออย่างเจ้ารึอยากจะทุบตีข้า ฝู่หลิน... ก่อนที่เจ้าจะออกจากบ้านได้ดูดวงให้ตัวเองก่อนหรือไม่ว่าคืนนี้เจ้าจะต้องประสบหายนะนองเลือด” เมื่อหลานจิ่วชิงพูดเช่นนี้ เขาก็ดึงดาบในมือออกมา สีหน้าฝู่หลินเปลี่ยนไปทันทีแล้วรีบถอยกลับ: "หลานจิ่วชิง พรุ่งนี้เช้าข้าต้องไปเข้าเฝ้าที่ราชสำนักนะ"

ข้อความนี้สื่อให้รู้ว่าเจ้าจะทำร้ายข้าไม่ได้เด็ดขาด

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าเล่า” หลานจิ่วชิงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าปลายดาบกำลังจะทำร้ายฝู่หลิน ทันใดนั้นหลานจิ่วชิงก็ดึงดาบกลับ หันข้อมือของเขา หันสันคมดามเข้าหาตัวเอง ใช้ด้านหลังดาบโจมตีฝู่หลิน พร้อมขยับไหล่แล้วพุงตรงไปหาฝู่หลิน

“ปึง...” ด้วยการฟาดเพียงครั้งเดียว ฝู่หลินก็กระเด็นออกไปและล้มลงกับพื้นด้วยความตื่นตระหนก

"ที่แท้ เจ้าก็ไม่กล้าทำร้ายข้า" ฝู่หลินเช็ดเลือดออกจากมุมปากของเขาและกำลังจะลุกขึ้นยืน แล้วเยาะเย้ยหลานจิ่วชิง หลานจิ่วชิงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วเตะฝู่หลินหนึ่งทีจนฝู่หลินต้องยอมจำนนต่อเขา: "นี่เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าครั้งหน้ามาขวางทางข้าอีก ข้าจะฆ่าเจ้าซะ "

หลานจิ่วชิงไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมอง คนจำนวนหนึ่งก็รวมตัวกันและเดินไปเข้าในเมือง ทิศทางนั้นคือทางไปจวนอ๋องเก้า

ฝู่หลินนอนราบอยู่บนพื้น มองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้าด้วยความเหมอลอย

หลานจิ่วชิงยังมีสถานนะอื่นอีกหรือไม่? เขามีความสัมพันธ์อะไรกับเสด็จอาเก้ากันแน่?

เขาไม่เชื่อว่าลูกหลานของตระกูลหลานจะเสียสละชีวิตเพื่อผู้อื่นได้...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ