นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1414

สรุปบท บทที่ 1414 อย่า, ข้าจะไปรอพวกเจ้าอยู่ฝั่งตรงข้าม: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

อ่านสรุป บทที่ 1414 อย่า, ข้าจะไปรอพวกเจ้าอยู่ฝั่งตรงข้าม จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บทที่ บทที่ 1414 อย่า, ข้าจะไปรอพวกเจ้าอยู่ฝั่งตรงข้าม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เส้นที่เหลือก็ยังคงเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก แต่ความยากมันก็ไม่ได้มากมายถึงเพียงนั้น ส่วนใหญ่เป็นการทดสอบความแข็งแกร่งทางกายภาพ ตลอดระยะทางที่ผ่านมา เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ และก็ถือว่าเคลื่อนที่ได้เร็วไม่น้อย

“ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายเช่นนี้ มองไม่ออกจริง ๆ ว่าเป็นผู้หญิง” ในตอนนั้นไม่มีใครกล้าดูถูกเฟิ่งชิงเฉิน

“ไม่รู้ว่าบนเส้นทางสุดท้าย นางจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่” ยังคงมีคนปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟิ่งชิงเฉินจะเอาชนะพวกเขา

ที่จริงเฟิ่งชิงเฉินที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว นางมาถึงตรงนี้ได้ก็ถือว่าชนะไปแล้ว เพียงแต่พวกเขาไม่อาจยอมรับความจริงนั้นได้ พ่ายแพ้ให้กับผู้หญิงเพียงคนเดียว พ่ายแพ้ให้กับผู้หญิงที่พวกเขาดูถูก

เส้นทางสุดท้าย?

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย นางไม่เห็นความยากดังกล่าวอยู่ในสายตา

ก่อนหน้านี้นางได้เตรียมพร้อมทุกอย่างเอาไว้แล้ว รู้ว่าก่อนที่จะขึ้นไปถึงยอดเขา นางจะต้องผ่านทุ่งโคลนที่ดูเหมือนถ้ำ หากจะผ่านโคลนนี้ไปก็มีแต่ต้องหมอบคลานไปเท่านั้น เพราะว่าสูงของมันนั้นไม่เพียงพอต่อการก้าวเดิน

ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินมาถึง ทั้งห้าคนนั้นก็เข้าไปอยู่ในโคลนแล้ว ที่จริงทั้งห้าคนนี้สลัดนางได้ตั้งนานแล้ว แต่เมื่อลงไปในโคลน การเคลื่อนไหวของทั้งห้าคนก็ล่าช้าเป็นอย่างมาก

“พวกเจ้าคิดว่าแม่นางเฟิ่งจะสามารถคลานออกไปได้หรือไม่?”

“แม้ว่าตรงนั้นจะเต็มไปด้วยพื้นโคลน แต่ด้านในก็มีกิ่งไม้และใบไม้เน่า กลิ่นของมันเหม็นจะยากจะต้านทาน แม่นางเฟิ่งที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวคงไม่สามารถคลานออกไปได้”

“ชิงเฉิน เจ้าจะอ้อมไปก็ได้” เฟิ่งหลีหยูส่งเสียงเตือนออกมา

วันนี้เฟิ่งชิงเฉินได้พิสูจน์อะไรมามากพอแล้ว ขาดนิดขาดหน่อยก็ไม่มีใครว่าอะไร

“ไม่เป็นไร” เฟิ่งชิงเฉินหยุดอยู่ครู่หนึ่ง หันกลับมาพูดกับเฟิ่งหลีหยู เมื่อพูดจบนางก็หมอบลงพื้น

นี่มันก็แค่โคลน เป็นการฝึกขั้นพื้นฐานของกองทัพ แม้ว่านางจะไม่เคยเข้าร่วมการฝึกมาก่อน แต่มันก็ขึ้นอยู่กับทักษะ ส่วนเรื่องความสกปรกของพื้นโคลน เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้คำนึงถึงมันเลยแม้แต่น้อย

หากนี่เป็นการต่อสู้ที่แท้จริง? นางจะมาคิดเรื่องพวกนี้หรือไม่? ไม่มีทาง เนื่องจากเมื่อลองเทียบกันดูแล้ว มันไม่มีอะไรสำคัญกว่าชีวิต

เฟิ่งชิงเฉินปราศจากซึ่งความลังเล นางหมอบและคลานเข้าไปโดยตรง ใช้แรงจากแขนในการเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ใช้เท้าถีบเพื่อเพิ่มความเร็ว ร่างกายของนางแหวกว่ายไปตามพื้นโคลน

ในตอนที่ทุกคนยังไม่ทันหายตกใจ พวกเขาก็ได้เห็นเฟิ่งชิงเฉินคลานไปด้านหน้าด้วยความเร็ว และใกล้ที่จะแซงทหารห้าคนที่อยู่ด้านหน้าของนางแล้ว

“แม่นางเฟิ่งไม่เคยฝึกมาก่อนจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?” จากท่าทาง ความเร็ว นี่มันเกินกว่ามาตรฐานทั่วไป แค่เห็นก็รู้สึกชื่นชม

ดวงตาของทุกคนแทบจะทะลักออกมา ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจคิดว่าเป็นแค่เพียงโชคช่วย แต่ตอนนี้?

จริงอยู่ว่าพวกเขาเองก็สามารถคลานผ่านมันไปได้ แต่พวกเขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะคลานไปได้เร็วเหมือนกับเฟิ่งชิงเฉิน

“แม่นางเฟิ่งเป็นผู้หญิงจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? ไม่ได้เป็นชายที่ปลอมตัวมาใช่ไหม?” มีคนถามคำถามอันโง่เขลาออกมา แต่ทุกคนกลับคิดไปทางเดียวกับเขา

พวกเขาเคยได้ยินแค่ผู้หญิงปลอมตัวมาเป็นผู้ชาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องที่ผู้ชายปลอมตัวเป็นผู้หญิง

มีเพียงเฟิ่งหลีหยูเท่านั้นที่เห็นความโดดเด่นของเฟิ่งชิงเฉินแล้วรู้สึกไม่สบายใจ

เฟิ่งชิงเฉินจริงงั้นหรือ นางเป็นเพียงแค่คนที่มีฐานะเป็นลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีจริงงั้นหรือ?

เขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก

เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจว่าคนพวกนี้จะคิดอย่างไร เวลานี้สิ่งที่นางต้องก็คือจะคลานไปอย่างไรให้เร็วที่สุด

พื้นโคลนนี้ไม่ถือว่าสั้น แต่มันก็ไม่อาจต้านทานความเร็วของเฟิ่งชิงเฉินได้ ไม่เพียงแต่สามารถตามห้าคนนั้นได้ทัน แต่นางยังแซงอีกฝ่ายได้สำเร็จ ทำให้ทั้งห้าคนไล่ตามด้านหลังอย่างสิ้นหวัง

ถูกผู้หญิงคนหนึ่งแซง นี่ไม่ใช้ความขายหน้าแบบธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ พวกเขาจะต้องแซงเฟิ่งชิงเฉินกลับมาให้ได้

เพียงแต่......

การเคลื่อนที่ในพื้นโคลนนั้นคือทักษะส่วนตัว ยิ่งรีบก็ยิ่งช้า ประกอบกับหลังคาถ้ำที่อยู่ด้านบน ยิ่งรีบมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ที่ไม่อาจผ่านมันไปได้อย่างที่ใจต้องการ

“แม่นางเฟิ่ง ไม่ต้องแล้ว พวกข้ายอมรับท่านแล้ว” หันหน้ากองผู้หนึ่งเห็นเช่นนั้นเลยรีบเอ่ยปากออกมา

ด้วยร่างกายที่วิปริตของเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขากล้าปฏิบัติต่อเฟิ่งชิงเฉินเหมือนผู้หญิงเสียที่ไหน เจ้าเคยเห็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งกว่าผู้ชายหรือไม่?

“ใช่ ใช่แล้ว แม่น่าเฟิ่ง ความสามารถของท่าน พวกเราได้เห็นมันแล้ว ต่อให้ท่านจะเป็นผู้หญิง พวกข้าก็ยอมรับท่าน”

ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินส่งกลิ่นเหม็น ใบหน้าที่งดงามก็ถูกโคลนบดบัง ดูไม่มีความงามเลยแม้แต่น้อย แต่ในเวลานี้กลับไม่มีใครคัดค้าน ในสายตาของพวกเขามีเพียงความนับถือที่มีต่อเฟิ่งชิงเฉินเท่านั้น

ผู้หญิงไม่เคยมีหน้ามีตาในกองทัพ สถานะของผู้หญิงนั้นต่ำต้อยเป็นอย่างมาก การที่ทำให้คนพวกนี้ยอมรับ ในความจริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย

มาถึงตรงนี้ก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับเฟิ่งชิงเฉินแล้วมันยังไม่พอ นี่มันยังไม่พอ หากต้องการให้คนพวกนี้ยอมจำนน นางจะต้องแสดงความโดดเด่นของตัวเองออกมาจนทำให้อีกฝ่ายนั้นสิ้นหวัง และตระหนักว่าพวกเขาไม่อาจเทียบเทียมได้

“ข้าเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อพูดออกไปแล้ว แน่นอนว่าต้องทำให้สำเร็จ แม้ว่าข้าไม่เคยนำทัพทหารมาก่อน แต่ข้าก็สามารถออกคำสั่งกับกองทัพทหารได้” ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินพูดออกมา นางจ้องมองมาที่เฟิ่งหลีหยูเป็นพิเศษ

นางกำลังแจ้งเตือนเฟิ่งหลีหยูว่าอย่าใช้ทหารแปดพันคนนี้มาเล่นตุกติกกับนาง เมื่อนางได้รับมันมาแล้ว ทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์ สำหรับพวกสายลับ ทางที่ดีก็ต้องกำจัดออกไปให้เร็วที่สุด

เฟิ่งหลีหยูยิ้มออกมาเล็กน้อย แสดงออกว่าตนเองสามารถทำได้อย่างที่พูด แต่เช่นเดียวกัน เขาไม่อยากให้เฟิ่งชิงเฉินต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย

“ชิงเฉิน ถึงตรงนี้ก็เพียงพอแล้ว เจ้าเป็นฝ่ายนะแล้ว”

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมา ชี้ไปที่คนที่อยู่ด้านหลัง “พวกเขามาแล้ว”

เฟิ่งหลีหยูหันกลับไป เห็นทหารห้านายที่ร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนวิ่งมาด้านหน้าอย่างสุดชีวิต มีสองคนที่ได้รับบาดเจ็บตรงศีรษะ มีเลือดไหลออกมา เฟิ่งหลีหยูกำลังจะตำหนิพวกเขาให้หยุดการเคลื่อนไหว แต่ก็ได้ยินเสียงของเฟิ่งชิงเฉินดังขึ้นมาว่า “ข้าจะไปรอพวกเขาที่ฝั่งตรงข้าม”

พูดจบนางก็กระโดดออกไป......

“อย่า!” 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ