นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1417

ไปดูสถานการณ์ของนางก่อนแล้วเจ้าค่อยตัดสินใจ?

เช่นนั้นนางจะปฏิเสธได้หรือไม่?

เฟิ่งชิงเฉินเต็มไปด้วยความขมขื่น แต่นางทำได้เพียงพยักหน้า เนื่องจากนางรู้ว่าหลานจิ่วชิงเห็นนางคือฟางเส้นสุดท้ายแห่งความหวัง เพียงแต่......

ใครจะเข้าช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังของนาง? ใครสามารถเข้าใจภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของนาง?

นางเป็นหมอไม่ใช่พระเจ้า ไม่ใช่ว่าสามารถรักษาใครให้หายก็ได้ด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว

เฟิ่งชิงเฉินมองมือซ้ายของตนเอง แววตาของนางโศกเศร้า หลานจิ่วชิงรู้ว่าคำขอของตนเองนั้นมากเกินไป จึงกล่าวออกมาด้วยแววตาขอโทษ “ชิงเฉิน ขอบคุณเจ้ามาก และก็ต้องขอโทษเจ้าด้วย”

“ไม่เป็นไร ข้าเป็นหมอ” หลานจิ่วชิงช่วยเหลือนางมาหลายครั้ง บุญคุณนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตอบแทน

หลานจิ่วชิงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “ชิงเฉิน เรื่องนี้ต้องรบกวนเจ้าด้วย เรื่องของเจ้ากับตระกูลเฟิ่งหลี หากอะไรที่ข้าสามารถให้ความช่วยเหลือได้ เจ้าก็เอ่ยปากมาได้เลย” เขาทำได้เพียงชดเชยให้กับเฟิ่งชิงเฉินในเรื่องอื่นเท่านั้น

“ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ทุกอย่างราบรื่น หากมีความจำเป็น ข้าจะไปหาเจ้าเป็นแน่” นางกับหลานจิ่วชิงเป็นเพื่อนกัน แต่เป็นเพื่อนที่นึกถึงกันในช่วงเวลาจำเป็นเท่านั้น

“ราบรื่น? เหตุใดข้าถึงได้ยินว่าตระกูลเฟิ่งหลีต้องการขับไล่เจ้า?” นี่ไม่ใช่การพูดออกมาอย่างไร้เหตุผล แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะติดต่อกับเฟิ่งหลีหยูอย่างลับ ๆ แต่หลานจิ่วชิงก็มีช่องทางสำหรับการหาข้อมูลด้วยตัวของเขาเอง

“เป็นเรื่องปกติ ข้าก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับตระกูลเฟิ่งหลีมาก แค่ในตัวของข้านั้นมีเลือดของตระกูลเฟิ่งหลีไหลเวียนอยู่ แต่สำหรับพวกเขา ข้ายังเป็นเพียงแค่คนนอก ระแวดระวังข้าก็เป็นเรื่องปกติ หากข้ากลับไปยังตระกูลเฟิ่งหลี ขายเฟิ่งหลีให้กับสี่จักรพรรดิ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าถึงคราวล่มสลายของตระกูลเฟิ่งหลี” เช่นเดียวกัน นางเองก็ไม่มีทางเชื่อใจคนตระกูลเฟิ่งหลีจนหมดหัวใจ

“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าตระกูลเฟิ่งหลีไม่เชื่อเจ้า เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงยังกลับไป ที่เจ้าเป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ” ยืนอยู่ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง หลานจิ่วชิงคิดว่าการที่เฟิ่งชิงเฉินเป็นเฟิ่งชิงเฉินต่อไปนั้นเป็นสิ่งที่สบายที่สุด ตอนนี้ลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีมันไม่ได้พิเศษอะไรขนาดนั้น นี่ไม่ใช่ยุคของราชวงศ์ก่อน

แววตาของเฟิ่งชิงเฉินบ่งบอกถึงการทำอะไรไม่ได้ “เจ้าคิดว่า หากข้าไม่กลับไปตระกูลเฟิ่งหลี แล้วข้าจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างนั้นหรือ?”

เฟิ่งชิงเฉินไม่ต้องการคำตอบจากหลานจิ่วชิง พูดจบนางก็อธิบายออกมาอย่างดูถูกตัวเอง “ตระกูลเฟิ่งหลีสามารถค้นหาตัวตนของข้า นั่นหมายความว่าคนอื่นก็สามารถทำเช่นนั้นเหมือนกัน นี่ไม่ใช่ยุคของราชวงศ์ก่อน เวลานี้จิ่วโจวอันยิ่งใหญ่อยู่ในการควบคุมของจักรพรรดิทั้งสี่ เจ้าคิดว่า ในตอนที่ตัวตนของข้าถูกเปิดเผย และตระกูลเฟิ่งหลีไม่ให้การสนับสนุนข้า ข้าจะยังมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่?”

ตัวตนของนางควรอยู่ที่ไหน เรียนแบบหลานจิ่วชิงงั้นหรือ ยอมหลบอยู่ในมุมมืดทั้งชีวิต ไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับคนภายนอก หรือจะเข้าไปพึ่งพิงตระกูลเฟิ่งหลี ใช้ตระกูลเฟิ่งหลีเป็นโล่กำบัง ไม่อย่างนั้น......

ชีวิตของนางคงต้องพบกับความเลวร้ายเป็นแน่

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การใช้วิธีรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีต่อไป ในตอนที่ทั้งสี่ประเทศต้องการสังหารนาง ตระกูลเฟิ่งหลีก็คงไม่สนใจนาง ปล่อยให้นางเป็นไปตามยถากรรม

นางไม่มีทางเลือก ในตอนที่นางรู้ว่าตนเองเป็นทายาทของตระกูลเฟิ่งหลี นางก็รู้ว่าอนาคตของตนเองนั้นได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เพื่อให้ได้การสนับสนุนจากตระกูลเฟิ่งหลี เพื่อให้ได้รับการปกป้องจากตระกูลเฟิ่งหลี ไม่ว่านางจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม นางจะต้องแสดงให้เห็นว่านางใส่ใจตระกูลเฟิ่งหลี เพื่อให้ได้รับเกียรติและการยอมรับจากตระกูลเฟิ่งหลี

“ที่แท้......” หลานจิ่วชิงพยักหน้าด้วยความเข้าใจ “ข้าคิดว่าเจ้าจะใส่ใจทุกอย่างของตระกูลเฟิ่งหลีจริง ๆ ทุ่มเททุกอย่างเพื่อความรุ่งโรจน์ของตระกูลเฟิ่งหลี”

“ข้าใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจถึงขึ้นต้องเอาชีวิตมาแลก ข้าไม่มีทางยอมเอาชีวิตของตนเองมาเสี่ยงกับตระกูลเฟิ่งหลี” ใส่ใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่สิ่งที่นางทำอยู่นั้นเป็นการแสดงออกว่านางกำลังใส่ใจอยู่อย่างสมบูรณ์

มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นนางถึงสามารถหลอกตัวเองได้ หลอกเฟิ่งหลีหยูได้ เนื่องจากตระกูลเฟิ่งหลีไม่มีทางยอมยกอำนาจทั้งหมดให้กับคนที่ไม่รักในตระกูลของตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ