สรุปเนื้อหา บทที่ 1418 ฉุกเฉิน, ทุ่มเทเพื่อลูกชาย – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บท บทที่ 1418 ฉุกเฉิน, ทุ่มเทเพื่อลูกชาย ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“เหตุใดถึงเป็นลูกนอกสมรสกับพ่อที่ไม่รู้จัก พ่อของลูกเจ้าก็คือเสด็จอาเก้าไม่ใช่หรือไง เขาจะไม่สนใจลูกของเจ้าเลยงั้นหรือ?” หลานจิ่วชิงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความโกรธในใจของตนเองเอาไว้ เขาจ้องมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่กะพริบตา
เขาต้องการคำอธิบายที่สมเหตุสมผลจากเฟิ่งชิงเฉิน ลูกของเขา เหตุใดเฟิ่งชิงเฉินจึงบอกว่าเป็นลูกนอกสมรสกับพ่อที่ไม่รู้จัก!
คำพูดเหล่านี้เป็นสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินเก็บซ่อนเอาไว้ในใจมาโดยตลอด ในเมื่อวันนี้หลานจิ่วชิงถามออกมา มันก็เป็นโอกาสดีที่นางจะได้พูด “ต่อให้มีพ่อ แต่เด็กที่เกิดมาโดยที่พ่อแม่ยังไม่ได้แต่งงานกันก็เรียกว่าลูกนอกกฎหมายอยู่ดี ต่อให้เป็นลูกนอกกฎหมายของเสด็จอาเก้า มันก็ยังเป็นลูกนอกกฎหมาย เพียงแค่มีต้นกำเนิดที่ดีกว่าคนอื่นเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าอาหารและเสื้อผ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
มีเสด็จอาเก้าคอยเฝ้าดู ส่วนมากก็เป็นเพียงคนที่ตามกระแสเท่านั้นที่จะยอมรับลูกนอกกฎหมาย คนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว พวกเขาไม่แม้แต่จะชายตามองมาด้วยซ้ำ การเติบโตและการศึกษาที่เขาจะได้รับในอนาคต มันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว
เกิดมาในฐานะลูกนอกกฎหมาย มันคือความแปดเปื้อนที่ชีวิตนี้ก็ไม่อาจชำระล้างออกไปได้ หากข้ายังมีชีวิตอยู่ก็ยังไม่เป็นไร แต่วันไหนที่ข้าจากไป เช่นนั้นเขาจะทำอย่างไร”
นี่ไม่ใช่ยุคสมัยแห่งความโอบอ้อมอารีที่ลูกนอกสมรสจะสามารถเรียกร้องการแบ่งสมบัติได้ตามกฎหมาย ในยุคนี้ ลูกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกนอกกฎหมาย มันไม่เคยมีสถานะอะไรตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีทางได้รับการยอมรับจากผู้คน นอกเสียจาก......
แม่ของเขามีสถานะสูงส่งจนไม่อาจกล้ำกราย ต้นกำเนิดของเขาถึงจะมีอำนาจมาพอ มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นถึงจะทำให้ผู้คนไม่กล้าดูถูกเขาว่าเป็นแค่เพียงลูกนอกสมรส
“เช่นนั้น หลังจากที่เจ้ากลายเป็นลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลี เจ้าก็สามารถมีลูกได้แล้วงั้นหรือ แต่นั่นก็เป็นลูกนอกสมรสเหมือนกันไม่ใช่หรือไง” น้ำเสียงของหลานจิ่วชิงฟังดูแหบแห้ง
หากวันนี้ไม่ถามออกมา เขาคงไม่มีวันรู้เลยว่าเฟิ่งชิงเฉินต้องแบกรับอะไรมากมายขนาดนี้ไว้เพียงลำพัง......
เขา เขามันงี่เง่าสิ้นดี!
รอยยิ้มอันแสนลึกลับปรากฏบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นก็กล่าวออกมาขำ ๆ “แน่นอนว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเฟิ่งหลีนั้นมีสายเลือดที่แท้จริงอยู่เพียงสายเลือดเดียว และนอกจากข้าแล้วก็ไม่มีผู้ใด?”
ไม่อย่างนั้นตัวตนของนางคงไม่ได้รับการยอมรับเร็วถึงเพียงนี้ มีเพียงคำเดียวที่สามารถอธิบายมันออกมาได้ นั่นก็คือยอดเยี่ยม
“ข้ารู้แล้ว”
“เช่นนั้นเจ้าก็น่าจะรู้ว่า ตำแหน่งเฟิ่งหลีอ๋องนั้น มีเพียงสายเลือดโดยแท้จริงเท่านั้นถึงสามารถขึ้นไปนั่งบนตำแหน่งนั้นได้ และตามเหตุผลแล้ว พ่อของข้าก็น่าจะเป็นเฟิ่งหลีอ๋อง” น่าเสียดายที่พ่อของนางจากไปเร็วเกินไป ไม่อย่างนั้น......
หลาย ๆ เรื่องคงไม่เป็นเช่นนี้
“ใช่”
“ข้าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านพ่อ และเป็นสายเลือดที่แท้จริงของเฟิ่งหลี ซึ่งหมายความว่ามันจะสิ้นสุดลงที่รุ่นของข้า” นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมคนตระกูลเฟิ่งหลีถึงรวมใจเป็นหนึ่ง
ลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีนั้นสูงส่ง แต่มันก็เทียบกับเฟิ่งหลีอ๋องไม่ได้
“ใช่” หลานจิ่วชิงเข้าใจแผนการของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เขาไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อย เพราะว่า......
นั่นคือลูกชายของเขา!
แต่เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้เรื่องนี้ นางจึงพูดกับตัวเองว่า “หากข้ามีลูกชาย เช่นนั้นสายเลือดที่แท้จริงของเฟิ่งหลีก็สามารถสืบทอดต่อไปได้ และลูกชายของข้าก็จะกลายเป็นทายาทที่แท้จริงแต่เพียงผู้เดียว และเขาก็มีคุณสมบัติที่จะได้เป็นเฟิ่งหลีอ๋อง” หากเป็นลูกสาว นางก็จะเตรียมอย่างอื่นไว้ให้แทน
“ลูกชายของเจ้าไม่ได้แซ่เฟิ่งหลี” เขาแซ่หลาน!
หลานจิ่วชิงกัดฟันพูดออกไป เขาอยากจะผ่ากะโหลกศีรษะของเฟิ่งชิงเฉินออกมาดู อยากรู้ว่าวัน ๆ ผู้หญิงคนนี้เอาแต่คิดอะไรอยู่
“ลูกชายที่ข้าให้กำเนิดแน่นอนว่าต้องแซ่เฟิ่งหลี เขาจะต้องกลายเป็นเฟิ่งหลีอ๋องเท่านั้น หากข้ายังไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น ข้าก็ไม่มีทางยอมมีลูกเด็ดขาด” ไม่ว่าจะเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมาย ทำให้ตนเองได้ไปเล่าเรียนวิชาแพทย์ทั่วโลก หรือว่าทำเพื่อคนรุ่นหลัง นางล้วนต้องการอำนาจของตระกูลเฟิ่งหลี กุมมันไว้ในมือ มีแต่เช่นนี้เท่านั้น......
นางถึงจะกลายเป็นลูกสาวโดยชอบธรรมเฟิ่งหลีที่มีอำนาจไร้ขอบเขต ลูกของนางจะไม่ถูกผู้อื่นดูถูก ส่วนเสด็จอาเก้า......
ก็ให้เขาหาหนทางเอาเอง!
“เช่นนั้นเจ้าจะเอาเสด็จอาเก้าไปไว้ที่ไหน?” หลานจิ่วชิงถามออกมาทีละพยางค์ ไอแห่งความเยือกเย็นแผ่ซ่านออกมาทั่วร่างกาย
“ผ่าหน้าอก? เจ้ามีความมั่นใจมากเพียงใด? หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าไม่มีความมั่นใจแม้แต่หนึ่งส่วน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผ่าตัดเปิดหน้าอกของเจ้ามันต่างอะไรกับการฆ่าคน? จากมุมมองของข้า ข้าว่าใช้แมลงพิษในการรักษาชีวิตของนางไว้ยังดีเสียกว่า” กัวเลี่ยนฉุ่ยไม่ยอมถอน เสนอวิธีการรักษาของตัวเองออกมา
“ข้าไม่มั่นใจ แต่เฟิ่งชิงเฉินมี ให้เฟิ่งชิงเฉินเดินทางมาเจียงหนานก็พอแล้ว” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีพูดออกมาตามเหตุผล กัวเลี่ยนฉุ่ยจึงกล่าวคำดูถูกออกมาอย่างไม่เกรงใจ “ชิงเฉินที่เจ้าพูดถึง ยังไม่ต้องพูดเรื่องที่นางสามารถเดินทางมาเจียงหนานได้ในระยะเวลาเพียงสิบวันหรือไม่ ต่อให้มาทันแล้วอย่างไร ด้วยสภาพร่างกายเช่นนั้น เจ้าคิดว่านางจะทนกับการผ่าตัดเปิดหน้าอกได้อย่างนั้นหรือ เจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน เจ้าไม่มีทางรู้ว่าการผ่าตัดเปิดหน้าอกนั้นอันตรายเพียงใด เจ้าอย่าใช้ความคิดส่วนตัวของตนเองมาตัดสินความเป็นความตายของผู้อื่นเช่นนี้”
“ข้าไม่สนใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเรียกเฟิ่งชิงเฉินมาให้ได้ มาเพื่อรักษาแม่นางฉินผู้นี้โดยการผ่าตัดเปิดทรวงอก” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีลูบเคราของเขาพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเคยเห็นเฟิ่งชิงเฉินใช้วิธีการผ่าตัดในการรักษาโรคหัวใจของราชาเจียงหนาน มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้เห็นมัน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็อยากให้เฟิ่งชิงเฉินทำมันอีกครั้ง ให้เขาได้เห็นอย่างชัดเจน ส่วนชีวิตของฉินเป่าเอ๋อ?
มันเกี่ยวอะไรกับเขา
“เจ้านี่มันช่างไร้ความรับผิดชอบ” ใบหน้าที่ซื่อสัตย์ของกัวเลี่ยนฉุ่ยบูดบึ้ง ความโกรธฉายแววออกมาจากดวงตาของเขา เขานึกถึงคนที่ต้องเสียชีวิตเพราะการทดลองยาของปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีเป็นอย่างมาก
“ข้าไร้ความรับผิดชอบแล้วอย่างไร กัวเลี่ยนฉุ่ย คนที่ข้าช่วยชีวิตเอาไว้ยังมากกว่าข้าวที่เจ้ากินในแต่ละวันเสียด้วยซ้ำ หากเจ้ามีเกียรติและยิ่งใหญ่ เช่นนั้นเจ้าจะไปศึกษาเกี่ยวกับแมลงพิษเพื่ออะไร ชีวิตคนคือชีวิต แล้วชีวิตของแมลงไม่ใช่ชีวิตหรืออย่างไร” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยียิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
ทุกคนต่างไม่ใช่คนใสสะอาด ไม่มีใครสามารถหัวเราะเยาะใครได้ทั้งนั้น
“ที่ข้าทำลงไปก็เพื่อช่วยเหลือมนุษย์” ก็แค่แมลงเพียงไม่กี่ตัว เขาสามารถใช้มันเพื่อช่วยชีวิตคนได้มากกว่า
“ข้าเองก็ทำไปเพื่อช่วยเหลือมนุษย์” ก็แค่ชีวิตคนเพียงไม่กี่ชีวิต แค่คนสองคน แต่สิ่งที่ได้มาก็คือชีวิตของผู้คนอีกมากมาย
ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีและกัวเลี่ยนฉุ่ยไม่มีใครยอมใครทั้งนั้น ทั้งสองคนทะเลาะกันจนฟ้าถล่มดินทลาย ซุนซือสิงทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป “เอาล่ะ ข้อร้องพวกท่านอย่าทะเลาะกันได้ไหม หากทะเลาะกันเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าคงทำให้แม่นางฉินผู้นั้นตกใจตายเพราะเสียงทะเลาะกันของพวกท่านก่อน”
“เช่นนั้นเจ้าว่าควรทำอย่างไร?” ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีและกัวเลี่ยนฉุ่ยต่างถามออกมาเป็นเสียงเดียวกัน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...