นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1420

สรุปบท บทที่ 1420 รักษา, เฟิ่งชิงเฉินมีชื่อเสียงมากงั้นหรือ?: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน บทที่ 1420 รักษา, เฟิ่งชิงเฉินมีชื่อเสียงมากงั้นหรือ? – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

ตอน บทที่ 1420 รักษา, เฟิ่งชิงเฉินมีชื่อเสียงมากงั้นหรือ? ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“เฟิ่งชิงเฉิน?” ทหารเฝ้าเมืองได้ยินเช่นนั้น เขาก็หัวเราะออกมาอย่างไม่ไว้หน้า “หากเจ้าบอกว่าเจ้าคือเฟิ่งชิงเฉิน เช่นนั้นข้าก็คงเป็นหมอเทวดาน้อยซุนแล้ว อย่าคิดว่าแค่ถือกล่องยาไว้ในมือแล้วตนเองจะกลายเป็นเฟิ่งชิงเฉิน เจ้าเห็นคนพวกนั้นหรือไม่?”

ทหารชี้ไปยังผู้หญิงหลายคนที่กำลังถือกล่องยาไว้ในมือ เฟิ่งชิงเฉินมองไปด้วยความสงสัย ทหารผู้นั้นจึงเอ่ยปากขึ้นมาว่า “เจ้าลองไปถามคนพวกนั้น พวกนางต่างบอกว่าตนเองคือเฟิ่งชิงเฉิน เป็นอาจารย์ของหมอเทวดาน้อยซุน คนพวกนั้นยังดูดีกว่าเจ้าเสียอีก”

“เฟิ่งชิงเฉินมีชื่อเสียงขนาดนั้นเลยงั้นหรือ?” เส้นสีดำปรากฏออกมาเต็มใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน นางคิดว่าคนพวกนี้เป็นเพียงหมอผู้หญิงทั่วไป ไม่คิดว่าทั้งหมดจะชื่อ “เฟิ่งชิงเฉิน”

เฟิ่งชิงเฉินอยู่ในเมืองก็ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายอะไร

“หากไม่มีชื่อเสียง เหตุใดพวกเจ้าต้องบอกว่าตนเองเป็นเฟิ่งชิงเฉิน เจ้าลองดู......คนพวกนั้นไม่ว่าคนไหนก็ดูเหมือนหมอมากกว่าเจ้า ครั้งหน้ารบกวนปลอมตัวให้มันเหมือนกับนี้หน่อย” ทหารมองมาที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยสีหน้าดูถูก “ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าอาจารย์ของหมอเทวดาน้อยซุนนั้น ในตอนที่ทำการรักษาชอบแต่งกายชุดสีขาว เจ้าลองดูเสื้อผ้าชุดนี้ของเจ้า มันใช่เสื้อผ้าของคนเป็นหมอเสียที่ไหน”

“หมอเทวดาน้อยซุน เจ้าพูดถึงหมอซุนซือสิงงั้นหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก นี่นางพลาดอะไรไปอย่างนั้นหรือ?

ทหารพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ “นอกจากหมอซุน ยังมีใครคู่ควรกับคำเรียกที่ว่า หมอเทวดาน้อย อีกงั้นหรือ แม่นาง เห็นแก่ที่เจ้าชื่นชมพรสวรรค์ของหมอเทวดาน้อยซุน ข้าจะไม่จับเจ้าเข้าคุก แต่เจ้าช่วยถอยออกไปด้วย อย่ารบกวนการเข้าเมืองของคนอื่น”

“ไม่ใช่ ข้าคือเฟิ่งชิงเฉินจริง ๆ ข้ามีเรื่องเร่งด่วนต้องเข้าไปในเมือง หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองส่งคนไปถามที่จวนราชาเจียงหนานดู พวกเขารู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี”

เฟิ่งชิงเฉินหลั่งน้ำตา นางไม่รู้ว่าตนเองเป็นที่รู้จักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นางคิดว่าชื่อของเฟิ่งชิงเฉินนั้นไม่มีประโยชน์เมื่ออยู่ในเจียงหนาน คิดไม่ถึงเลยว่าไม่เพียงแค่มีประโยชน์เท่านั้น แต่มันยังมีประโยชน์เป็นอย่างมาก แต่ตัวนางกลับใช้ประโยชน์จากมันไม่ได้ เนื่องจากอีกฝ่ายไม่รู้จักนาง

“นี่......แม่นาง เจ้านี่มันจริง ๆ เลย ข้าเตือนเจ้าด้วยความหวังดี แต่เจ้ากลับไม่ฟัง เช่นนั้นก็อย่ามาโทษหากข้าต้องจับเจ้าเข้าไปในคุก เจ้าบอกว่าเจ้าคือเฟิ่งชิงเฉิน ป้ายผ่านทาง? ป้ายคำสั่ง? เจ้ามีไหม?” ตอนแรกทหารเห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินนั้นหน้าตาไม่เลวจึงใช้น้ำเสียงสุภาพ แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับไม่ฟังในสิ่งที่เขาพูด ทำให้เขาเริ่มหมดความอดทน

“ข้า ข้าไม่ได้นำติดตัวมา......” นางกับทหารม้าสิบแปดแอบเดินทางลงใต้ ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาก็ไม่กล้าเปิดเผยตัวตน แล้วจะไปมีป้ายผ่านทางของทางการได้อย่างไร นั่นมันก็ไม่ต่างอะไรกับการประกาศที่อยู่ของตัวเอง

“ไม่ได้นำติดตัวมา ข้าคิดว่าไม่มีมากกว่า แม่นาง เจ้ารีบตั้งสติและหลีกทางไป หากไม่มีป้ายผ่านทาง เจ้าก็ไม่สามารถเข้าไปในเมืองได้” ทหารพูดกับเฟิ่งชิงเฉินด้วยความดูถูก ยกหอกในมือเล็งมาทางเฟิ่งชิงเฉิน ขยับไปขยับมาเพื่อบังคับให้เฟิ่งชิงเฉินถอยหลังออกไป

เฟิ่งชิงเฉินหมดคำจะพูด คิดอยู่ในใจว่าควรจะหาสถานที่เงียบ ๆ ในการหยิบแผ่นป้ายคำสั่งของจวนอ๋องเก้าออกมาจากกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะดีหรือไม่ แต่เมื่อหยิบออกมาแล้ว ทหารปลายแถวของเจียงหนานพวกนี้คงไม่รู้จัก ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจคิดว่าเป็นของปลอม

นี่มันทำอะไรไม่ได้เลย

เฟิ่งชิงเฉินชำเลืองมองไปที่ประตู จูงม้าออกมาด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ดูจากสถานการณ์แล้ว นางคงต้องติดต่อกับทหารม้าสิบแปดเพื่อให้พวกเขาช่วยหาทางทำให้นางได้เข้าเมือง

คนที่เข้าเมืองไม่ได้เหมือนกับเฟิ่งชิงเฉินนั้นยังมีอยู่อีกมากมาย ไม่ว่าพวกเขาจะจ่ายเงินเท่าไหร่ ขอร้องอย่างไร ทหารที่คอยเฝ้าประตูเมืองก็ไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไป

“ข้าคือเฟิ่งชิงเฉินจริง ๆ หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองไปสำนักศึกษาหมอเจียงหนาน บอกให้ซุนซือสิงออกมาพบข้า ข้าอยากจะรู้ว่าเข้าจะรู้จักอาจารย์อย่างข้าหรือไม่ พวกเจ้ากล้าห้ามไม่ให้ข้าเข้าเมือง ระวังจะไม่ได้ทำหน้าที่เฝ้าประตูเมืองอีกต่อไป"

หลังจากเฟิ่งชิงเฉินเดินออกมาจากหน้าประตูเมืองได้ไม่นาน นางก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงสวมชุดขาวผู้หนึ่งตะโกนออกมาอย่างเย่อหยิ่ง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำดูถูกของทหาร “ให้มันน้อย ๆ หน่อย หมอเทวดาน้อยซุนบอกว่าอาจารย์ของเขาคือคนที่ถ่อมตัวที่สุด ซึ่งไม่มีทางสร้างปัญหาให้กับทหารปลายแถวอย่างพวกข้าเป็นแน่”

เฟิ่งชิงเฉินเข้าไปแอบฟังผู้หญิงที่เลือกเข้าเรียนเกี่ยวกับการแพทย์ ส่วนมากจะเป็นสาวใช้จากตระกูลที่ร่ำรวย และก็ยังมีพวกที่ถูกส่งมาเรียนเพื่อเพิ่มมูลค่าเมื่อส่งออกไปขายในราคาที่สูงขึ้น

เรื่องแบบนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่อาจระงับเอาไว้ได้ สิ่งที่นางทำได้คือช่วยเหลือผู้หญิงที่น่าสงสารเหล่านี้ เพิ่มทางออกให้กับพวกนาง

การรู้ทักษะทางการแพทย์เพียงเล็กน้อยก็ถือได้ว่าเป็นข้อได้เปรียบในอนาคต

เฟิ่งชิงเฉินกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยเพื่อนของหลานจิ่วชิง มองดูอยู่เป็นเวลานาน คิดหาหนทางอื่นในการเดินทางเข้าเมือง แต่ในตอนนั้นเอง เสียงแห่งความวุ่นวายก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง

“แย่แล้ว แย่แล้ว มีคนเป็นลมหมดสติ”

“จู้จื่อ จู้จื่อ เจ้าเป็นอะไรไปงั้นหรือ? ข้าได้ยินมาว่า......อีกสองวันหมอเทวดาน้อยซุนถึงจะออกมา เจ้าอดทนอีกสองวัน จู้จื่อ จู้จื่อ......”

“ช่วยด้วย ขอร้องพวกเจ้า ได้โปรด ได้โปรดช่วยหลานชายของข้าด้วย ข้าจะยอมก้มหัวให้กับพวกเจ้า” ชายชราอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขน ก้มศีรษะลงให้คนรอบข้างอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยโคลนและเลือด

คนที่ไม่สามารถเข้าไปในเมืองได้ แน่นอนว่าเป็นพวกชนชั้นต่ำของสังคม พวกเขาจะไปมีความสามารถอะไร และคนที่มารออยู่นอกเมืองก็กำลังรอเข้ารับการรักษาอยู่เหมือนกัน ต่อให้พวกเขาอยากช่วย พวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ