คนส่วนใหญ่ที่มาต่อแถวเข้าเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ก็เพื่อเข้าไปรับการรักษาหรือเล่าเรียน ตอนนี้ได้เห็นบุคคลที่เป็นจิตวิญญาณแห่งสำนักศึกษาหมอเจียงหนานแล้ว เช่นนั้นจะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร
ชั่วพริบตา ทุกคนเข้ามาล้อมรอบเฟิ่งชิงเฉินไว้ตรงกลาง แต่ก็ไม่มีใครกล้าก้าวออกไปด้านหน้า เพราะพวกเขาเป็นแค่คนธรรมดา เมื่อเผชิญหน้ากับรัศมีบนร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน มันทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา เช่นนั้นแล้วจะกล้าก้าวออกไปได้อย่างไร
คนที่มีฐานะดีสองสามคนเสนอตัวออกมา ก้าวไปด้านหน้า แต่ก็ถูกเฟิ่งชิงเฉินขับไล่ออกไปด้วยคำพูดอันเยือกเย็น “หลีกทางหน่อย อย่าเข้ามาล้อมคนป่วย”
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้นมา ยิ่งทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เฟิ่งชิงเฉิน คนพวกนั้นได้รับอิทธิพลจากความเยือกเย็น สีหน้าดูไม่ค่อยดี พวกเขาจึงพูดออกมาอย่างรุนแรง “อย่าคิดว่าตัวเองพอจะมีความสามารถแล้วจะอ้างว่าตัวเองเป็นแม่นางเฟิ่งได้ รอให้คนจากจวนราชาเจียงหนานมาถึงก่อน สิ่งที่เจ้ากำลังโกหกอยู่จะต้องถูกเปิดเผย เวลานั้นเจ้าก็คงต้องเข้าไปกินข้าวในคุก คนอย่างเจ้านะหรือจะเป็นแม่นางเฟิ่ง แม่นางเฟิ่งสูงส่งเพียงใด นางจะมีสภาพเช่นเจ้าได้อย่างไร เดินทางมาเจียงหนานเพียงลำพัง ข้าว่าเจ้า......”
อีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง “หลีกทาง หลีกทาง หมอเทวดาน้อยซุนมาแล้ว พวกเจ้ามาทำอะไรกันตรงนี้ แยกย้ายกันไปทำในสิ่งที่พวกเจ้าควรทำ”
“หมอเทวดาน้อยซุนมาแล้ว” คนที่ล้อมรอบเฟิ่งชิงเฉินในตอนแรก วิ่งไปหาซุนซือสิงด้วยสีหน้าแห่งความสุข
เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าใช่เฟิ่งชิงเฉินตัวจริงหรือเปล่า และก็ยากที่จะเข้าใกล้ แต่ซุนซือสิงที่ปรากฏตัวออกมา จะต้องเป็นตัวจริงอย่างแน่นอน
“หมอเทวดาน้อยซุน พ่อของข้า......”
“หมอเทวดาน้อยซุน ก่อนหน้านี้ข้าได้พบกับคนไข้ผู้หนึ่ง เขา......”
......
ด้วยนิสัยตามปกติของซุนซือสิงที่ผ่านมา เขาจะพูดคุยกับทุกคนอย่างน้อยสองสามประโยค จากนั้นหากมีคำถามสงสัยก็ให้ไปถามที่สำนักศึกษาหมอ หากต้องการรักษาก็ให้ไปรักษาที่สำนักศึกษาหมอ แต่วันนี้เขาไม่มีเวลาว่างจริง ๆ
“ขอโทษทุกคน ได้โปรดหลีกทางให้ข้าด้วย” ซุนซือสิงกล่าวขอโทษออกมา จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่
คนพวกนี้ไม่น่าสนใจเลยสักนิด เขาอยากพบกับอาจารย์ของเขามากกว่า
เฟิ่งชิงเฉินได้ยินว่าซุนซือสิงมาถึงแล้ว นางก็รีบลุกขึ้นยืน เห็นซุนซือสิงถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนจากระยะไกล รอยยิ้มก็ปรากฏออกมาบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน
ลูกศิษย์ของนางคนนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังจริง ๆ ไม่ใช่แค่ตัวเองที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเจียงหนาน แต่ยังทำให้นางที่เป็นอาจารย์ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
“ท่านอาจารย์ ท่านมาแล้วจริง ๆ” เมื่อซุนซือสิงได้เห็นเฟิ่งชิงเฉิน ดวงตาคู่นั้นของเขาก็เปล่งประกาย
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มและพยักหน้า ในตอนที่กำลังจะพูดออกมาก็ถูกเสียงของคนอื่นดังขึ้นมากลบ
“เจ้า เจ้า เจ้าคือแม่นางเฟิ่งจริง ๆ งั้นหรือ?”
“แม่นางเฟิ่ง เป็นแม่นางเฟิ่งที่ช่วยหลานชายของข้าไว้ หลานชายของข้าช่างมีบุญยิ่งนัก”
......
ตอนแรก ในตอนที่คนพวกนี้รับรู้ถึงรัศมีอันรุนแรงจากร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจในตัวตนของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เมื่อมีซุนซือสิงมาเป็นเครื่องพิสูจน์ เช่นนั้นก็ไม่มีทางเป็นเรื่องโกหก
“คนลองให้ดี ตรงนี้มีผู้ป่วยอยู่ อย่าเข้ามารบกวนผู้ป่วย” ซุนซือสิงก้าวออกมาด้านหน้า ขวางหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ บอกให้ทุกคนถอยห่างออกไป
“ได้ ได้ ได้ ฟังที่หมอเทวดาน้อยพูด”
คำพูดของซุนซือสิงนั้นมีอิทธิพลมากกว่าเจ้าหน้าที่เสียอีก เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ซือสิงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เขามีศักดิ์ศรีในหมู่คนที่แข็งแกร่ง ประกอบกับมีตระกูลหวังและตระกูลชุยคอยปกป้อง นางไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเขาอีกต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...