นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1422

สรุปบท บทที่ 1422 เกลียดชัง, ความลับที่ไม่อาจบอกได้: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1422 เกลียดชัง, ความลับที่ไม่อาจบอกได้ – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

บท บทที่ 1422 เกลียดชัง, ความลับที่ไม่อาจบอกได้ ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

คนส่วนใหญ่ที่มาต่อแถวเข้าเมืองตั้งแต่เช้าตรู่ก็เพื่อเข้าไปรับการรักษาหรือเล่าเรียน ตอนนี้ได้เห็นบุคคลที่เป็นจิตวิญญาณแห่งสำนักศึกษาหมอเจียงหนานแล้ว เช่นนั้นจะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร

ชั่วพริบตา ทุกคนเข้ามาล้อมรอบเฟิ่งชิงเฉินไว้ตรงกลาง แต่ก็ไม่มีใครกล้าก้าวออกไปด้านหน้า เพราะพวกเขาเป็นแค่คนธรรมดา เมื่อเผชิญหน้ากับรัศมีบนร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน มันทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา เช่นนั้นแล้วจะกล้าก้าวออกไปได้อย่างไร

คนที่มีฐานะดีสองสามคนเสนอตัวออกมา ก้าวไปด้านหน้า แต่ก็ถูกเฟิ่งชิงเฉินขับไล่ออกไปด้วยคำพูดอันเยือกเย็น “หลีกทางหน่อย อย่าเข้ามาล้อมคนป่วย”

เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้นมา ยิ่งทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เฟิ่งชิงเฉิน คนพวกนั้นได้รับอิทธิพลจากความเยือกเย็น สีหน้าดูไม่ค่อยดี พวกเขาจึงพูดออกมาอย่างรุนแรง “อย่าคิดว่าตัวเองพอจะมีความสามารถแล้วจะอ้างว่าตัวเองเป็นแม่นางเฟิ่งได้ รอให้คนจากจวนราชาเจียงหนานมาถึงก่อน สิ่งที่เจ้ากำลังโกหกอยู่จะต้องถูกเปิดเผย เวลานั้นเจ้าก็คงต้องเข้าไปกินข้าวในคุก คนอย่างเจ้านะหรือจะเป็นแม่นางเฟิ่ง แม่นางเฟิ่งสูงส่งเพียงใด นางจะมีสภาพเช่นเจ้าได้อย่างไร เดินทางมาเจียงหนานเพียงลำพัง ข้าว่าเจ้า......”

อีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง “หลีกทาง หลีกทาง หมอเทวดาน้อยซุนมาแล้ว พวกเจ้ามาทำอะไรกันตรงนี้ แยกย้ายกันไปทำในสิ่งที่พวกเจ้าควรทำ”

“หมอเทวดาน้อยซุนมาแล้ว” คนที่ล้อมรอบเฟิ่งชิงเฉินในตอนแรก วิ่งไปหาซุนซือสิงด้วยสีหน้าแห่งความสุข

เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าใช่เฟิ่งชิงเฉินตัวจริงหรือเปล่า และก็ยากที่จะเข้าใกล้ แต่ซุนซือสิงที่ปรากฏตัวออกมา จะต้องเป็นตัวจริงอย่างแน่นอน

“หมอเทวดาน้อยซุน พ่อของข้า......”

“หมอเทวดาน้อยซุน ก่อนหน้านี้ข้าได้พบกับคนไข้ผู้หนึ่ง เขา......”

......

ด้วยนิสัยตามปกติของซุนซือสิงที่ผ่านมา เขาจะพูดคุยกับทุกคนอย่างน้อยสองสามประโยค จากนั้นหากมีคำถามสงสัยก็ให้ไปถามที่สำนักศึกษาหมอ หากต้องการรักษาก็ให้ไปรักษาที่สำนักศึกษาหมอ แต่วันนี้เขาไม่มีเวลาว่างจริง ๆ

“ขอโทษทุกคน ได้โปรดหลีกทางให้ข้าด้วย” ซุนซือสิงกล่าวขอโทษออกมา จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่

คนพวกนี้ไม่น่าสนใจเลยสักนิด เขาอยากพบกับอาจารย์ของเขามากกว่า

เฟิ่งชิงเฉินได้ยินว่าซุนซือสิงมาถึงแล้ว นางก็รีบลุกขึ้นยืน เห็นซุนซือสิงถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนจากระยะไกล รอยยิ้มก็ปรากฏออกมาบนใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน

ลูกศิษย์ของนางคนนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังจริง ๆ ไม่ใช่แค่ตัวเองที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเจียงหนาน แต่ยังทำให้นางที่เป็นอาจารย์ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย

“ท่านอาจารย์ ท่านมาแล้วจริง ๆ” เมื่อซุนซือสิงได้เห็นเฟิ่งชิงเฉิน ดวงตาคู่นั้นของเขาก็เปล่งประกาย

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มและพยักหน้า ในตอนที่กำลังจะพูดออกมาก็ถูกเสียงของคนอื่นดังขึ้นมากลบ

“เจ้า เจ้า เจ้าคือแม่นางเฟิ่งจริง ๆ งั้นหรือ?”

“แม่นางเฟิ่ง เป็นแม่นางเฟิ่งที่ช่วยหลานชายของข้าไว้ หลานชายของข้าช่างมีบุญยิ่งนัก”

......

ตอนแรก ในตอนที่คนพวกนี้รับรู้ถึงรัศมีอันรุนแรงจากร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจในตัวตนของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เมื่อมีซุนซือสิงมาเป็นเครื่องพิสูจน์ เช่นนั้นก็ไม่มีทางเป็นเรื่องโกหก

“คนลองให้ดี ตรงนี้มีผู้ป่วยอยู่ อย่าเข้ามารบกวนผู้ป่วย” ซุนซือสิงก้าวออกมาด้านหน้า ขวางหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ บอกให้ทุกคนถอยห่างออกไป

“ได้ ได้ ได้ ฟังที่หมอเทวดาน้อยพูด”

คำพูดของซุนซือสิงนั้นมีอิทธิพลมากกว่าเจ้าหน้าที่เสียอีก เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ซือสิงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เขามีศักดิ์ศรีในหมู่คนที่แข็งแกร่ง ประกอบกับมีตระกูลหวังและตระกูลชุยคอยปกป้อง นางไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเขาอีกต่อไป

ไม่ใช่ว่าชายชราผู้นี้เป็นคนอ่อนแอ ชอบคุกเข่าให้กับผู้อื่น แต่เพราะว่าเขาเป็นคนยากจน ชายชราผู้นี้จึงไม่มีวิธีอื่นที่จะสามารถแสดงความขอบคุณออกมาได้

“ท่านอาจารย์ ข้าให้” ซุนซือสิงรู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ เขามอบยารักษาให้กับเฟิ่งชิงเฉินทันที

“รับไว้ไม่ได้ รับไว้ไม่ได้ ข้าไม่ได้บาดเจ็บมากมายอะไร สองสามวันก็หายแล้ว จะทำให้ยาของแม่นางเฟิ่งเปล่าประโยชน์ไม่ได้” ชายชรารีบโบกมือปฏิเสธ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมให้เฟิ่งชิงเฉินทำความสะอาดบาดแผลให้เขา

“ท่านผู้เฒ่า หากยังไม่รีบห้ามเลือด บาดแผลของท่านก็จะยิ่งอันตรายขึ้นเรื่อย ๆ แล้วใครจะเป็นคนดูแลหลานชายของท่าน” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกปวดใจ แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา

นางไม่ชอบการรักษาฟรีเลยจริง ๆ เมื่อเห็นครอบครัวของผู้ป่วยต้องพังทลายเพราะความเจ็บป่วยและความยากจน นางก็รู้สึกเกลียดชังความสถานะทางสังคมที่ไม่เท่าเทียม

ไม่รู้ว่าในอนาคตจะดีกว่านี้หรือไม่ หากนางได้ควบคุมอำนาจไว้ในมือ นางจะทำเพื่อประชาชนชาวจิ่วโจวอย่างสุดความสามารถ

“นี่ นี่ข้าควรทำเช่นไรดี” ร่างกายของชายชราเกร็งไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าควรเคลื่อนไหวอย่างไร ชีวิตนี้เขาไม่เคยได้รับการปฏิบัติที่ดีเช่นนี้มาก่อน

“สำหรับข้ามันไม่ได้ลำบากอะไรเลย เช่นนั้นท่านผู้เฒ่าอย่าเพิ่งขยับ” สำหรับคนที่มีอำนาจ เพียงแค่คำพูดเพียงประโยคเดียวก็สามารถช่วยเหลือชีวิตคนเอาไว้ได้

“ได้ ได้ ได้” ชายชราพยักหน้า ไม่กล้าขยับ ปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินพันแผลให้เขา ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขากะพริบออกมาทั้งน้ำตา

การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย แต่กลับสร้างชื่อเสียงไปทั่ว คนของราชาเจียงหนานได้รับข่าวการมาถึงของเฟิ่งชิงเฉิน ทุกคนดีใจเป็นอย่างมาก ซุนซือสิงออกไปรับเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนปู้จิงหยุนก็ไปหาฉินเป่าเอ๋อ

เขามีบางอย่างที่จำเป็นต้องเตือนเป่าเอ๋อไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เป่าเอ๋อพูดอะไรผิด ๆ ออกมาต่อหน้าเฟิ่งชิงเฉิน หรือทำให้เฟิ่งชิงเฉินเกิดความสงสัยจนทำให้เสียเรื่อง...... 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ