"คุณชายใหญ่เจ้าคะ ท่านชื่นชมชิงเฉินมากไปเจ้าค่ะ"
เมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังแน่วแน่ของหวังจิ่นหลิงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกกดดันอย่างมาก
คนเหล่านี้เชื่อมั่นใจตัวนางขนาดนี้เชียวหรือ?
เสด็จอาเก้า หวังจิ่นหลิง ทุกคนต่างก็ยอมละเว้นเธอ วันนี้ถือเป็นวันที่ดี คนที่ไม่รู้เรื่องคงคิดว่างานกวีนี้จัดขึ้นเพื่อเฟิ่งชิงเฉินกระมั้ง
หวังจิ่นหลิงอมยิ้ม มือที่ถือพู่กันเอาไว้นั้นแน่วแน่มากเป็นพิเศษ
สิ่งที่เขาสามารถทำเพื่อเฟิ่งชิงเฉินได้นั้นมีไม่มาก ดังนั้นแม้ว่าจะมีโอกาสเล็กน้อย เขาก็จะไม่ยอมแพ้
ทั้งสองมองหน้ากันโดยไม่พูดกระไร แต่คนรอบๆงานนั้นอดใจรอไม่ไหวแล้ว
"คุณหนูเฟิ่ง คุณชายใหญ่แต่งบทกวีให้เจ้า เกียรตินี้มีเจ้าเพียงคนเดียวที่ได้รับมัน เจ้ารอกระไรอีกหรือ? หรือว่าคุณชายใหญ่ไม่เหมาะสมมากพอที่จะแต่งบทกวีให้เจ้า?" คุณหนูเวินเงยหน้าสูง แทบจะมองนางด้วยคางของตนอยู่แล้ว
นางไม่กลัวเฟิ่งชิงเฉินหรอก เพราะนางไม่มีข่าวฉาวที่น่าละอาย และไม่มีอดีตที่มืดมน
สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินแย่ลงทันที ดวงตาของนางเบิกกว้าง แววตาของนางแหลมคมดั่งใบมีด
"คุณหนูเวินกล่าวกระไรไม่รู้ความยิ่งนัก เจ้ากล่าวว่านี่ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แล้วเหตุใดจึงไม่เหมาะสมเล่า?"
นางเป็นคนชอบปกป้องคนรอบข้าง
หากว่านาง นางทนได้ แต่หากจะมาว่าคนรอบข้างนาง นางมิยอมเป็นอันขาด
"หากเป็นเช่นนั้น คุณหนูเฟิ่งรอกระไรอยู่? เจ้าดูสิ ไม่เพียงแต่คุณชายใหญ่กำลังรอเจ้าอยู่ พวกเราทุกคนต่างก็รอคุณหนูเฟิ่งอยู่เช่นกัน คุณหนูเฟิ่งไม่รู้สึกหรือว่าเป็นการอันใหญ่ยิ่ง การที่เราทุกคนต้องมารอเจ้าเพียงผู้เดียว?" คุณหนูเวินไม่ยอมคน นางกล่าวกระตุ้นความโกรธเคืองที่ทุกคนมีต่อเฟิ่งชิงเฉินอีกครั้ง
เป็นไปดั่งที่คิด ทันทีที่นางกล่าวจบ สีหน้าของฮูหยินหลายคนเริ่มแย่ลง
พวกเขายืนอยู่นอกสวน มิใช่เพราะรอเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินมิได้มีเกียรติเช่นนี้ แต่หากเดินออกไปตอนนี้ก็จะเป็นการเสียเกียรติอย่างมาก
ทันใดนั้นพวกเขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต่างก็โทษเฟิ่งชิงเฉินขึ้นมา
"คุณหนูเวิน เจ้าพยายามอยากจะก่อความวุ่นวายแต่หากข้ออ้างไม่ได้ชัดๆ เหล่าฮูหยินและคุณชายที่อยู่ตรงนี้ มิได้เกี่ยวข้องกับชิงเฉินแต่อย่างใด นี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ คุณหนูเวิน จำเอาไว้ว่าเราสามารถกินตามอำเภอใจได้ แต่จะพูดจาเหลวไหลตามใจตนมิได้ ระวังว่าภัยจะออกจากปาก" คุณหนูเฟิ่งเตือน
"คุณหนูเฟิ่งมิต้องกังวล นี่คืองานกวีในสวนป๋ายฉ่าว มิใช่ตลาดตรอกซอย มิต้องกังวลว่าเราจะเผยแพร่ข่าวกระไรออกไปหรอก คุณหนูเฟิ่งควรเร่งเขียนบทกวีออกมาเสียก่อน ให้พวกเราได้เห็นพรสวรรค์ของเจ้า การเสแสร้งเรื่องจริงกับหลอกนั้นมิใช่ใครก็ทำได้" คุณหนูเวินดูถูกเหยียดหยาม
นางไม่เชื่อว่าเฟิ่งชิงเฉินสามารถเขียนบทกวีได้ แม้ว่านางจะเตรียมบทกวีเอาไว้แล้ว แต่นางก็จะมารถบีบบังคับนางให้เผยตัวตนออกมาได้
ลูกชายตระกูลหวังไม่ใช่สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินสามารถไขว่คว้าไปได้ อย่าคิดว่ารักษาโรคตาของคุณชายให้หายได้ เท่ากับว่าตนคว้าตระกูลหวังเอาไว้ได้
ตระกูลหวังซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ระดับขุนนาง ไม่มีทางยอมรับผู้หญิงอย่างเฟิ่งชิงเฉินแน่นอน
การให้เฟิ่งชิงเฉินปรากฏตัวในงานกวีนี้ ถือเป็นสิ่งที่ผิดพลาดในงานก็ว่าได้
"ใช่แล้ว ใช่แล้ว หากว่าเขียนบทกวีไม่เป็น ก็เร่งออกจากตรงนี้ไปซะ อย่าคิดว่าเสด็จอาเก้าเป็นคนส่งเจ้ามา เจ้าก็จะเป็นคนพิเศษ แม้จะเป็นเสด็จอาเก้า หากเขียนบทกวีมิได้ ก็ไม่สามารถเข้าสวนป๋ายฉ่าวนี้ได้เช่นกัน"
"เฟิ่งชิงเฉิน หากเจ้าไม่มีพรสวรรค์นี้ ควรออกไปโดยเร็วที่สุด นี่คืองานบทกวี มิใช่งานดอกเลี้ยงท้อของเหล่าองค์หญิงที่ใครก็สามารถเข้าได้"
ทันทีที่ข่าวงานเลี้ยงดอกท้อออกมา ก็กลายเป็นคำพูดดูถูกของตระกูลชั้นผู้ดีเอาไว้ดูหมิ่นเหล่าตระกูลขุนนาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์หญิงอู่อันมีเรื่องอื้อฉาวทั้งเรื่องสำส่อน เรื่องแท้งบุตร เป็นเหตุทำให้เหล่าคุณหนูจากตระกูลใหญ่ก็ดูถูกคุณหนูตระกูลขุนนาง คิดว่าพวกนางนั้นสวยงามเพียงแต่ภายนอก อันที่จริงนั้นเป็นคนหยาบคายและไร้มารยาท
แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนเปิดโปง แต่เฟิ่งชิงเฉินก็เป็นคนประเภทนั้นเช่นกัน และวันนี้เฟิ่งชิงเฉินได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นไม่มีใครชอบนาง
เสียงบ่นของเหล่าหญิงสาวดังขึ้นเรื่อยๆ หวังชีส่ายหน้า
เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนมีความสามารถจริงๆ นางสามารถกระตุ้นให้ทุกคนโกรธเคืองได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถทำให้คุณหนูตระกูลชั้นผู้ดีนั้นไม่สามารถที่จะรักษาภาพลักษณ์ผู้ดีของตนเอาไว้ได้
เขาส่งสายตาถามเฟิ่งชิงเฉินว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่? แม้ว่าอาจจะน่าอาย แต่ก็ดีกว่าถูกไล่ออกจากงานกวี ......
เฟิ่งชิงเฉินส่ายหัวเบา ๆ และแสดงท่าทางที่ไม่มีปัญหาออกมา
คนในเหตุการณ์ที่เชื่อว่านางสามารถเขียนบทกวีเชยชมดอกไม้ออกมาได้ คงมีแค่หวังจิ่นหลังแล้วล่ะ
นางไม่เข้าใจจริงๆว่าเหตุใดหวังจิ่นหลิงถึงเชื่อมั่นในตัวนางเช่นนี้
เช่นนั้นล่ะก็ เฟิ่งชิงเฉินจะไม่ทำความเชื่อใจของอีกฝ่ายพังทลาย ในเมื่อไม่สามารถแต่งบทกวีดอกไม้ออกมาได้ เช่นนั้นก็ท่องออกมาสักบทหนึ่ง เพราะจะทำให้หวังจิ่นหลังผิดหวังมิได้....
"คุณชายใหญ่ ฟังให้ดี"
เฟิ่งชิงเฉินกล่าวด้วยเสียงดังก้อง ท่ามกลางเสียงโกลาหล มันไม่โดดเด่นมาก แต่น่าแปลกที่สามารถทำให้ทุกคนเงียบได้ พวกนางต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูเฟิ่งชิงเฉินเสียหน้า
เฟิ่งชิงเฉินหลับตาลงและเดินไปมาอยู่ที่เดิม แล้วก็เอ่ยปากกล่าวว่า "ดอกเสาเย่าที่อยู่หน้าศาลนั้นงามแต่ไร้ความแข็งแกร่ง ดอกบัวที่อยู่ในบึงนั้นสง่าสระบริสุทธิ์แต่มิอาจสื่ออารมณ์ได้ มีเพียงโบตั๋นเท่านั้นที่เป็นความงามของนครนี้ ยามผลิบานสะเทือนเลือนลั่นทั้งนครหลวง"
หวังจิ่นหลิงตกตะลึงในตอนแรก จากนั้นเขาก็เร่งโบกโบยพู่กันในมือ จดเอาไว้ทีละคำ
หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินพูดคำสุดท้ายจบ หวังจิ่นหลิงเขียนเสร็จในทันที
"เพี๊ยะ" หวังจิ่นหลิงวางพู่กันลง แล้วหยิบงานที่ตนเขียนขึ้นมา กล่าวชมสามครั้งว่า "ดี ดียิ่ง ดีเยี่ยม"
ดีอย่างมาก!
ดีเสียจริง คุณชายใหญ่ว่าดี จะแย่ได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...