นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 317

สระบัวของเสด็จอาเก้างดงามเสียจนไม่อาจหาคำใดมาบรรยาย บรรยากาศยามเย็นดุจดั่งอยู่บนสรวงสวรรค์ และยามเช้าก็ให้ความรู้สึกอีกอย่าง

มันแตกต่างจากความรู้สึกที่มีหมอกลอยขึ้นปกคลุมยามค่ำคืนและเงียบสงบ เมื่อดวงตะวันลอยขึ้นจากฟากฟ้า แสงตะวันสาดทอมาบนใบบัวเหล่านั้น มองไปเหมือนมีแสงทองส่องประกาย น้ำค้างที่อยู่บนใบบัวกลิ้งไปมาดุจดั่งเด็กเล็กวิ่งซน เมื่อกลิ้งไปที่ขอบใบบัวก็กลิ้งกลับมาตรงกลางดังเดิม ทำให้คนมองอยากจะเอื้อมมือไปหยุดการกระทำเหล่านั้นอันซุกซน บรรยากาศของสระบัวบัดนี้ราวกับเหล่าเซียนที่กำลังเที่ยวเล่น ความมีชีวิตชีวาปกคลุมไปทั่ว

เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่บริเวณสูงสุด ณ ศาลาแห่งหนึ่ง เมื่ออยู่บนศาลาแห่งนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของจวนทั้งจวนได้สุดลูกหูลูกตา นี่จึงนับได้ว่าเป็นหอชมวิวอย่างแท้จริง

นับตั้งแต่หอชมวิวถูกสร้างขึ้น เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนที่สองซึ่งได้ขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ และคนแรกก็คือเสด็จอาเก้านั่นเอง

ทั้งสองคนยืนห่างกันประมาณครึ่งไม้บรรทัด แสงตะวันสาดส่องมาบนร่างของทั้งสอง มองไปดุจดั่งภาพวาดและไม่มีผู้ใดตั้งใจจะกล่าวสิ่งใดออกมา

เสด็จอาเก้ายังคงยืนชมพระอาทิตย์ขึ้นอย่างสงบนิ่ง ส่วนเฟิ่งชิงเฉินเป็นกังวลเรื่องของระเบิดเทียนเหล่ยเมื่อวานนี้ เสด็จอาเก้าช่างร้ายเหลือเกิน ดูเหมือนจะไม่ได้บีบบังคับนาง แต่แท้จริงแล้วกลับบีบบังคับนางให้จนมุม

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดเชื่อว่าเสด็จอาเก้าสร้างระเบิดเทียนเหล่ยเหล่านี้ขึ้นมาเพียงเพราะสนุกสนาน ระเบิดเทียนเหล่ยนี้คาดว่าคงจะนำไปใช้ในสนามรบ และกลายเป็นอาวุธของชายหนุ่มผู้สูงส่งผู้นี้

สิ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้คนเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินไม่ต้องการให้มันปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน นางอยากจะบอกกับเสด็จอาเก้า แต่เสด็จอาเก้ากลับไม่ให้โอกาสนางเลย

นับตั้งแต่อยู่ในห้องลับ เสด็จอาเก้าได้กล่าวออกมาเพียงประโยคหนึ่งและไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีกเลย บัดนี้เขาทอดสายตามองไปยังทิศตะวันออก ช่างดูสงบนิ่งเหลือเกิน มองจากภายนอกบริสุทธิ์สง่างาม แต่เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่านี่คือภาพจอมปลอม ชายผู้นี้ทั้งเยือกเย็นและโหดเหี้ยม เขาสามารถฆ่าคนได้โดยไม่มีเลือด

"กรี๊ด......!"

ความคิดกำลังดำเนินมาถึงจุดนี้ เรือนในฝั่งที่ตะวันออกก็มีเสียงกรีดร้องแหลมสูงดังขึ้น เฟิ่งชิงเฉินตกใจเสียจนสะดุ้ง แล้วสงสัยตาไปถามเสด็จอาเก้า "เริ่มต้นแล้วหรือ?"

เนื่องจากระยะห่างที่ค่อนข้างไกล นอกจากเสียงกรีดร้องแหลมคมเมื่อครู่จึงไม่ได้ยินเสียงอันใดอีกเลย แต่เฟิ่งชิงเฉินมองเห็นสตรีนางหนึ่งที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยดูท่าทางตื่นตระหนกวิ่งออกมาจากห้องนอน มองไปร่างนั้นคล้ายกับ......

องค์หญิงเหยาหวา! เหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้นเฟิ่งชิงเฉินคิดมาเสมอว่าเสด็จอาเก้าจะลงมือจัดการกับซูหว่าน เนื่องจากซูหว่านเข้ามาพัวพันกับเสด็จอาเก้า เรื่องนี้ใครก็รู้

"ทำไมหรือ ประหลาดใจหรือไร? ข้าเพียงแค่ใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน แม้ว่าจะเป็นกลยุทธ์เก่าๆ แต่มีประโยชน์ก็เพียงพอ" เสด็จอาเก้าหันหลังเดินลงมาจากหอชมทิวทัศน์ "หากอยากจะเห็นละก็รีบเดินเข้า"

ตาต่อตาฟันต่อฟันหรือ? เฟิ่งชิงเฉินวิ่งเหยาะๆ ตามไป "ในตอนนั้นวันแต่งงานของข้า ข้าตื่นขึ้นมาอยู่ชานเมืองเป็นฝีมือขององค์หญิงเหยาหวาหรือ?"

แม้นางจะเดาได้มาก่อนหน้าแล้ว แต่เมื่อได้ยินเสด็จอาเก้ากล่าวออกมาอย่างชัดเจนเช่นนี้ก็ยังคงรู้สึกตกตะลึง

"มิเช่นนั้นเล่า? เจ้าคิดว่ายังมีผู้ใดอีกที่คิดวิธีอันต่ำต้อยได้เพียงนี้ ต่อให้จักรพรรดินีไม่ยินยอมให้ตงหลิงจื่อลั่วแต่งงานกับเจ้า ก็ไม่อาจทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้หรอก เพราะคนที่ขายหน้าไม่ได้มีเพียงเจ้าแค่คนเดียว" เสด็จอาเก้าหยุดฝีเท้าลงแล้วหันกลับมา "เจ้าเดาออกตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ?"

หากไม่ใช่เพราะเดาออก เหตุใดนางจึงได้บีบบังคับตงหลิงจื่อลั่วให้ปกป้องนาง

"ข้าพอจะเดาออกก็จริงอยู่แต่ไม่แน่ใจนัก นางเป็นถึงองค์หญิงของราชวงศ์ซีหลิง ข้ามักรู้สึกว่าการที่นางเดินทางมาตงหลิงคงไม่สะดวกนัก และต่อให้นางเดินทางมาที่ตงหลิงจริงๆ ก็คงไม่เสียเวลามาจัดการเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้" เฟิ่งชิงเฉินคิดมาตลอดว่าตัวนางที่เป็นเพียงตัวละครเล็กๆ ผู้ต่ำต้อย เหตุใดจึงทำให้คนใหญ่คนโตมากมายต้องคอยจับตามอง?

"เจ้ามองนางต่ำไป ไปกันเถิด ยากนักที่จะนำคนมาร่วมกันได้ครบขนาดนี้ ละครในวันนี้หากไม่เล่นต่อไปก็คงจะขัดต่อความตั้งใจของข้า" เสด็จอาเก้าเดินย่ำไปบนน้ำค้างที่เกาะอยู่บนหญ้าด้วยท่าทางสงบนิ่งไม่รีบร้อนกระวนกระวายแต่อย่างใด หากไม่ใช่เพราะนางรู้ว่าทุกสิ่งอย่างนี้เป็นฝีมือของเสด็จอาเก้าที่วางแผนเอาไว้ เฟิ่งชิงเฉินคงจะคิดว่าชายผู้นี้ไม่เกี่ยวข้องอันใดเลย

ในใจของเฟิ่งชิงเฉินแอบรู้สึกว่าเสด็จอาเก้าเป็นคนที่อันตรายยิ่งนัก ก่อนจะรีบดึงกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตามเสด็จอาเก้าไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ