นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 318

ตงหลิงจื่อลั่วหลับตาลงเพื่อซ่อนความเจ็บปวดและโกรธเคืองในดวงตาของเขาเอาไว้ กำมือแน่นเพราะเกรงว่าจะไม่สามารถต้านทานตนเองแล้วเข้าไปต่อยตงหลิงจื่อชุนจนตายเสียก่อน

ตงหลิงจื่อชุนโชคดีเหลือเกิน หากไม่ใช่เพราะองค์รัชทายาทและตี๋ตงหมิงอยู่ที่นั่นล่ะก็ และหากไม่ใช่เพราะทำไปเพื่อรักษาหน้าของตนเอง เขาคงจะลงมือไปนานแล้ว

ตอนที่เฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าเดินทางเข้ามานั้น ได้เห็นองค์รัชทายาทท่าทางสงบเสงี่ยม แม้ต้องเผชิญหน้ากับความโมโหของซีหลิงเทียนเหล่ยและข้อกล่าวหาของซีหลิงเหยาหวา แต่องค์รัชทายาทก็ไม่ได้สนใจ

ล้อเล่นหรือไร เรื่องนี้ต่อให้ตายเขาก็จะยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องโบ้ยความผิดไปที่องค์หญิงเหยาหวาเท่านั้น

ตงหลิงจื่อชุนยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้างุนงง เมื่อหันไปพบดวงตาที่พร้อมจะสังหารผู้คนของตงหลิงจื่อลั่ว ตงหลิงจื่อชุนจึงได้ หดตัวลงไปอยู่ตรงมุม เพื่อไม่ให้รู้สึกเป็นหนึ่งในผู้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย

"นี่เกิดอะไรขึ้นกัน เช้าตรู่เช่นนี้ทุกคนมารวมกันที่นี่เพื่อเหตุใด?" เสด็จอาเก้ายืนอยู่ที่ปากประตู สายตาของเขามองไปด้วยความเย็นชาและไม่พึงพอใจ

ร้ายกาจ! ร้ายกาจยิ่งนัก! ร้ายกาจเหลือเกิน!

เสด็จอาเก้ารู้อยู่แก่ใจแต่กลับกล่าวออกไปเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ซีหลิงเหยาหวากล่าวถึงเรื่องน่าอับอายนี้ออกมาอีกครั้ง ฮ่าๆๆ คิดไม่ถึงว่าซีหลิงเหยาหวาจะมีวันนี้

เมื่อคิดถึงสิ่งที่ซีหลิงเหยาหวาได้ทำเอาไว้ เฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกโมโหเหลือเกิน เพียงเพราะว่าชื่นชอบตงหลิงจื่อลั่ว จึงตั้งใจทำลายคู่หมั้นเช่นนาง สตรีเช่นนี้สมควรแล้วที่จะได้ลิ้มรสชาติเช่นเดียวกับนาง ถูกทำลายชื่อเสียงและอนาคตลง

เหยาหวาจะแต่งงานกับใครนั้นนางไม่ได้สนใจนัก มีเพียงแต่งกับตงหลิงจื่อลั่วเท่านั้นที่ทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่พอใจ และบัดนี้ความหวังของนางเป็นจริงแล้ว จะไม่ให้นางดีใจอย่างไร

ความฉลาดเกินไปมักจะทำให้ชีวิตต้องสูญเสีย การที่ซีหลิงเหยาหวามีจุดจบเช่นวันนี้เพราะนางรนหาที่เอง ในวันนั้นที่นางปลูกเมล็ดกล้าลงไป วันนี้นางจึงต้องได้รับผลนั้น

เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ข้างหลังเสด็จอาเก้าด้วยท่าทางจริงจัง ไม่ได้ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นในใจนางแม้แต่น้อย สายตามองไปยังสองพี่น้องแห่งซีหลิงดุจดั่งมองตัวตลก

เมื่อตี๋ตงหมิงเห็นเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินเดินตรงเข้ามา ก็ได้รีบก้าวเข้าไปด้านหน้าเพื่อคำนับ ก่อนจะยืนอยู่ข้างหลังเสด็จอาเก้า ขยิบตาไปให้เฟิ่งชิงเฉิน

แม้ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา แต่เฟิ่งชิงเฉินก็เข้าใจได้ถึงความหมายของตี๋ตงหมิง คงไม่มีอะไรมากกว่าการที่เขาต้องการจะสื่อถึงเรื่องทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว การที่ซีหลิงเหยาหวาทำร้ายผู้อื่นตนเองจึงได้รับผลกรรมในที่สุด

ดูเหมือนว่าในตอนนั้นแม้ซีหลิงเหยาหวาจะกระทำการลับสักเพียงใด ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รับรู้

องค์รัชทายาทและตงหลิงจื่อชุนก็รีบเดินตรงเข้ามา องค์รัชทายาทเดินเข้ามาขอกำลังช่วยเหลือจากเสด็จอาเก้า ส่วนตงหลิงจื่อชุนกำลังมองหาผู้คุ้มกัน นอกจากตงหลิงจื่อลั่วแล้วดูเหมือนจะแบ่งฝ่ายทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน เฟิ่งชิงเฉินได้กลิ่นของดินปืนอย่างคลุมเครือ

"เสด็จอา......" ตงหลิงจื่อชุนก้าวไปด้านหน้า เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคับข้องใจ ใบหน้านั้นทำให้ผู้คนมองไปดูปวดใจเล็กน้อย

"เสื้อผ้าของเจ้าไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยก็เดินออกมาได้เช่นนี้ ดูตัวเองสิว่าเหมือนอะไร ใครไม่รู้คงคิดว่าคนในราชวงศ์ของเราเป็นพวกไม่มีระเบียบ ยังไม่รีบไปจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยออกมา!" แม้ว่าประโยคนี้จะตำหนิไปที่ตงหลิงจื่อชุน แต่ก็สามารถตำหนิองค์หญิงเหยาหวาด้วย

"ข้าจะไปเปลี่ยนบัดเดี๋ยวนี้" ตงหลิงจื่อชุนก้าวออกไปสองสามเก้า ซีหลิงเทียนเหล่ยต้องการจะรั้งเอาไว้แต่กลับถูกเสด็จอาเก้าเข้ามาขวาง "แต่ละคนยืนอยู่ที่นี่ดูเหมือนตัวตลก มีเรื่องใดควรจะกล่าวกันที่ห้องโถง องค์รัชทายาท เสียมารยาทจริง"

"เสด็จอากล่าวได้ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ" องค์รัชทายาทรีบกล่าวขอโทษแล้วตอบรับคำเสด็จอาเก้าชี้ไปที่ตงหลิงจื่อลั่ว "และก็เจ้า จื่อลั่ว อย่าลืมไปว่าเจ้าเป็นองค์ชายของราชวงศ์ตงหลิงจงแสดงความเป็นองค์ชายออกมา อย่าให้สูญเสียประเพณีของราชวงศ์!"

เสด็จอาเก้ากำลังสั่งสอนผู้คนอย่างสะใจเหลือเกิน เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่ข้างหลังเขามองดูองค์รัชทายาทและตงหลิงจื่อลั่ว ในใจของนางรู้สึกอิจฉายิ่งนัก

เสด็จอาเก้ามีชีวิตที่ดีจริงๆ......

ตงหลิงจื่อลั่วใบหน้าซีดเผือด เขาก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว "เสด็จอากล่าวได้ถูกแล้วพ่ะย่ะค่ะ" ก่อนจะถอนหายใจออกมายืดยาว ร่างกายของตงหลิงจื่อลั่วค่อยๆ ผ่อนคลายลง ใบหน้าของเขาดูเป็นธรรมชาติขึ้น

ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ต่อให้เขาจะฆ่าตงหลิงจื่อชุนก็ไม่ช่วยอะไร ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวเป็นอย่างไรยังไม่รู้ นี่คือเรือนแยกของเสด็จอาเก้า หากว่าเขาก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นละก็เสด็จอาเก้าคงจะไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่

เสด็จอาเก้าพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ได้หันไปมองดูซีหลิงเทียนเหล่ยสักน้อย ได้แต่หันหลังเดินออกไปเมื่อกล่าวจบ

"เสด็จอาเก้าพ่ะย่ะค่ะ!" แน่นอนว่าซีหลิงเทียนเหล่ยรู้สึกไม่พึงพอใจเป็นที่สุด พวกเขาเป็นแขกที่เสด็จอาเก้าเชิญมา แต่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่นอนว่าเสด็จอาเก้าคงจะหนีความผิดไม่พ้น

เสด็จอาเก้าหยุดฝีเท้าลงแล้วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยมองไปด้วยท่าทางเฉยเมย "มีอะไรหรือ? องค์รัชทายาทเหล่ย มีสิ่งใดจะกล่าว?"

"มีสิ่งใดกล่าวหรือ? แน่นอนว่าข้ามีเรื่องต้องกล่าว เสด็จอาเก้า น้องสาวของข้าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในเรือนของท่าน ข้าไม่ควรจะเอ่ยถามสิ่งใดหน่อยหรือ?" ซีหลิงเทียนเหล่ยเข้ามาขวางและป้องกันองค์หญิงเหยาหวาเอาไว้ที่ด้านหลังตน ท่าทางที่มองไปช่างสง่างาม เขาจ้องตากับเสด็จอาเก้าเพื่อต้องการจะกดอำนาจของเสด็จอาเก้าลง

เมื่อเสด็จอาเก้าเดินเข้ามา ก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางของเรือนนั้น

"องค์รัชทายาทเหล่ยเจ้าต้องการถามสิ่งใด? อย่าลืมไปว่าตอนที่ข้าจัดการให้พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้มอบเรือนทั้งเรือนให้แก่พวกเจ้า และมีทหารคุ้มกันจากซีหลิง ข้าเชื่อว่าไม่มีผู้ใดสามารถแอบเข้าไปด้านในได้ และพาองค์หญิงเหยาหวาออกมาได้หรอก ถึงอย่างไรเรือนแยกของข้าก็ไม่ได้เป็นเช่นจวนเฟิ่งก่อนหน้านี้ ที่ไม่ว่าใครๆ ก็เข้าออกได้ตามใจ" สายตาของเสด็จอาเก้ามองไปด้วยท่าทางเย้ยหยัน

ราชวงศ์ซีหลิงของพวกเจ้าเริ่มต้นก่อน แล้วจะไม่ให้คนอื่นทำตามอย่างงั้นหรือ?

ซีหลิงเหยาหวาเป็นสตรี แล้วเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่หรือ? ข้าใจดีกับพวกเจ้ามากเหลือเกินแล้ว อย่างน้อยก็มีคนรู้เรื่องราวในวันนี้ไม่มาก

เสด็จอาเก้าสูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชา

"เสด็จอาเก้า ประโยคของท่านหมายความว่าเช่นไร?" ซีหลิงเทียนเหล่ยตกใจ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดปฏิกิริยาแรกของเขาไม่ใช่โมโหแต่กลับเป็นกระสับกระส่ายแล้วมองไปทางเฟิ่งชิงเฉิน จังหวะเดียวกันแววตาของเฟิ่งชิงเฉินก็เยาะเย้ยมองไปทางเขาและเผยอยิ้มที่มุมปากอย่างขี้เล่น

นางรู้แล้วหรือ?

ซีหลิงเทียนเหล่ยรู้สึกกังวลและรู้สึกโชคดี ในเมื่อเฟิ่งชิงเฉินรู้แล้ว นางก็ควรจะรู้ว่าในตอนนั้นคนที่ทิ้งรอยจูบไว้บนร่างนางก็คือเขา และถ้าเป็นเช่นนี้......

เขาก็จะสามารถรับนางมาเป็นอนุภรรยาได้?

สายตาของซีหลิงเทียนเหล่ยจ้องมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินอย่างแน่วแน่ เผยให้เห็นความคิดในหัวใจของเขา เฟิ่งชิงเฉินหันหน้าหนีด้วยความรังเกียจ

นางไม่กลัวหรอก เสด็จอาเก้ากล่าวไว้แล้วว่าหากไม่ได้รับการอนุญาตจากเขา นางจะไม่สามารถแต่งงานกับใครได้

ซีหลิงเทียนเหล่ยอยากจะแต่งงานกับนางหรือ ชาติหน้าก็คงเป็นไปไม่ได้!

แอบมองดูผู้หญิงที่เขาชื่นชอบต่อหน้าต่อตา ซีหลิงเทียนเหล่ยเจ้ากล้านัก! เดิมทีเสด็จอาเก้าต้องการจะไว้หน้าซีหลิงเทียนเหล่ยและเหยาหวาสักเล็กน้อย น่าเสียดายเหลือเกินที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นค่า ถ้าเช่นนั้นก็อย่าโทษที่เขาโหดร้ายเกินไป เสด็จอาเก้ามองไปยังตงหลิงจื่อชุนเป็นความหมายว่าให้เขาหยุด

"จื่อชุน เมื่อคืนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น จงบอกข้ามา!" เสด็จอาเก้าไม่สนใจซีหลิงเทียนเหล่ยแต่กลับหันไปถามผู้อยู่ในเหตุการณ์โดยตรง

ตงหลิงจื่อชุนไม่ใช่คนโง่เง่า เขารู้ว่าควรจะกล่าวเช่นไรจึงได้กล่าวออกมาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความกล่าวหาว่า "เสด็จอาเก้า ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น ข้าครึ่งหลับครึ่งตื่นและพบว่ามีสตรีนอนอยู่บนเตียง อีกทั้งกระตือรือร้นร้อนแรงยิ่งนัก เดิมทีข้าคิดว่าสาวรับใช้คนใดอยากจะปีนขึ้นมาบนเตียงข้าเสียอีก จึงไม่ได้คิดอะไรมากและหลับนอนกับนาง เพราะคิดอยู่ในใจว่าเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้ จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นองค์หญิงเหยาหวา"

หากจะกล่าวถึงเรื่องความหดหู่ใจ แท้จริงแล้วตงหลิงจื่อชุนหดหู่ใจยิ่งกว่าตงหลิงจื่อลั่วเสียอีก ตงหลิงจื่อลั่วเห็นองค์หญิงเหยาหวาเป็นเช่นของล้ำค่า แต่ตงหลิงจื่อชุนกลับมองว่าองค์หญิงเหยาหวาเป็นตัวปัญหา

หากหลับนอนกับสาวใช้ อย่างมากก็นอนไปเปล่าๆ เท่านั้น แต่กับซีหลิงเหยาหวานั้นแตกต่างกันไป ในเมื่อเขานอนกับนางก็จำเป็นจะต้องแต่งงานกับนาง

ฮือๆๆ คนที่เขาอยากแต่งงานด้วยคือเฟิ่งชิงเฉินต่างหาก......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ