เฟิ่งชิงเฉินเก่งกาจถึงเพียงนี้ ทำไมที่ผ่านมาจึงไม่เคยเปิดเผยให้ผู้อื่นรับรู้?
คำถามนี้อย่าว่าแต่ซีหลิงเทียนเหล่ยเลย แม้แต่เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่สามารถอธิบายได้
แน่นอนว่านางไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟัง หากมีคนถาม นางก็จะบอกปัดไปลงที่ตงหลิงจื่อลั่วแทน
จากเด็กสาวลูกผู้รากมากดี แต่สวรรค์ดันกลั่นแกล้ง เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองระทมทุกข์มากกว่านี้
การกำจัดรอยประทับให้โจวสิง แค่ทำงานด้วยมีดเพียงเล็กน้อยก็กินเวลาราวๆ 1 ชั่วยาม ยาสลบที่ใช้ก็มีปริมาณน้อย เฟิ่งชิงเฉินแขวนขวดน้ำเกลือให้โจวสิง แล้วเฝ้าสังเกตอาการเขา
เมื่อน้ำเกลือหมดขวดแล้ว โจวสิงก็ค่อยๆฟื้นขึ้นมา
สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากฟื้นขึ้นมาแล้ว คือการเตรียมแหวกเสื้อเพื่อดูแผล แต่ปรากฏว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เฟิ่งชิงเฉินช่วยเขาถอดเสื้อเรียบร้อยแล้ว
"ไม่มีแล้วใช่ไหม?" เขามองผ้าสีขาวที่แปะอยู่ตรงอก โจวสิงไม่อยากเชื่อเท่าไรนัก
ฝันร้ายที่เขาเคยใช้ชีวิตกับมันมา เพียงหลับไปตื่นเดียว ตื่นมาก็หายไปแล้วจริงๆหรือ?
"ไม่มีแล้ว ช่วง 2-3 วันนี้เจ้าก็ระวังหน่อยนะ อย่าทำให้แผลฉีกล่ะ ส่วนแผลที่มือของเจ้า เจ้าก็ลองไปหาหมอ ทั้งแดงทั้งบวมแบบนี้ เป็นอะไรขึ้นมาเดี๋ยวจะแย่เอาได้ จริงสิ เจ้าอยากจะไปเข้าห้องน้ำหรือเปล่า? ให้ข้าช่วยไหม? ต้องการความช่วยเหลือตรงไหนบอกข้ามาได้เลย ถ้าข้าช่วยได้ข้าก็จะช่วย"
เฟิ่งชิงเฉินเก็บอุปกรณ์เข้าที่ ก่อนนางจะไปก็ถามไถ่เขาด้วยความใจดี
แม้จะเป็นงานเล็กๆที่ใช้มีด แต่เพราะว่านี่เป็นครั้งแรก
โจวสิงถึงกับหน้าแดง "ไม่ล่ะ"
"งั้นข้าไปก่อนนะ มีอะไรเจ้าค่อยมาเรียกข้าก็แล้วกัน" เฟิ่งชิงเฉินรีบเก็บของแล้วเดินออกไป
ดูนาฬิกาทรายที่ตั้งอยู่ในห้องแล้ว นางก็รู้ว่าเหลือเวลานอนแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
เฟิ่งชิงเฉินหาวแล้วเตรียมเข้านอน "ตามปกติ" เพราะในวันรุ่งขึ้นนางจะต้องไปที่จวนเซี่ยเพื่อเปลี่ยนยาให้กับฮูหยินรอง
……
วันต่อมา เฟิ่งชิงเฉินตื่นเช้าเป็นพิเศษ เดิมทีนางอยากทำอาหารเช้า แต่กลับพบว่าโจวสิงตื่นเช้ากว่า และเขาก็ได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว
"ตื่นเช้าจัง? ข้ากะว่าจะทำอาหารเช้าให้เจ้าอยู่พอดี" เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกอายเล็กน้อย นี่ผู้ป่วยต้องมาดูแลนางหรือนี่
เนื่องจากคำว่า "ชนชั้นต่ำ" หลุดออกจากผิวไปแล้ว โจวสิงจึงรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจเฟิ่งชิงเฉินมากกว่าเดิม แววตาที่เขามองเฟิ่งชิงเฉินก็ดูอ่อนโยนมากขึ้น
"แผลนิดเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก ต่อไปเวลาข้าจะออกไปไหน จะได้ออกไปอย่างสบายใจหน่อย ข้าอยากออกไปซื้อบ่าวไพร่ เพราะเรื่องบางเรื่อง ข้าก็ทำเองไม่ถนัด" โจวสิงกล่าว
เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเดินออกไปแล้ว เขาก็แกะผ้าสีขาวออก ทันทีที่เห็นคำว่า "ต่ำ" หายไป น้ำตาของเขาก็คลอเบ้าในทันที
เขานึกว่าชีวิตนี้คงต้องจบลงเช่นนี้เสียแล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะได้รับโอกาสอันมีค่า
ตอนแรกเขานึกว่าเฟิ่งชิงเฉินเพียงแค่ต้องการปลอบโยนเขา จึงมาอาสาลบข้อความพวกนั้นให้ เขาไม่นึกเลยว่าเรื่องยากที่ยิ่งใหญ่ปานผืนฟ้า เมื่อมาเจอฝีมือเฟิ่งชิงเฉิน เรื่องยากนั้นก็หายไปภายในระยะเวลาอันสั้น
"งั้นก็ดีแล้ว อีกประเดี๋ยวข้าจะไปที่จวนเซี่ย เพื่อเปลี่ยนยาให้ฮูหยินรองเซี่ย เสร็จแล้วข้าก็จะไปซุ่นเทียนฝู่ ข้าเพิ่งช่วยเหลือคนที่นั่นไปไม่นาน พวกเขาต้องมีอะไรดีๆมาให้ข้าบ้างล่ะ" เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างสบายอารมณ์
ก็อย่างนี้แหละนะ สิ่งดีๆย่อมมีคนคอยยกย่อง นางช่วยเหลือฮูหยินรองเซี่ย ตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินกำลังมีความสัมพันธ์อันดีงามกับตระกูลเซี่ย ใต้เท้าเว่ยอะไรนั่น จะได้ไม่กล้ามารังควานนางบ่อย
โจวสิงก้มหัวให้กับเฟิ่งชิงเฉิน "ขอบ......"
เฟิ่งชิงเฉินยกมือขึ้นมาปราม "ไม่ต้อง ไม่ต้องมาขอบคุณข้าหรอก ที่ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ต้องการคำขอบคุณอะไรเลย โจวสิง ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนมีที่มาที่ไป ข้าจะไม่บังคับเจ้า เจ้าอยากอยู่ที่จวนเฟิ่งนานแค่ไหนก็ตามใจเจ้า ข้าขอแค่ว่า ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่จวนเฟิ่ง เจ้าอย่าทรยศข้า เจ้าห้ามปองร้ายข้าเด็ดขาด"
นางเคยมีประสบการณ์มาแล้ว นางยังคงฝังใจไม่เคยลืม
เรื่องสาวใช้ที่ชื่อหวั่นอิน ถือเป็นแผลในใจเฟิ่งชิงเฉิน ถึงแม้ว่าสาวใช้คนนั้นจะได้พบกับจุดจบที่น่าสังเวชแล้วก็ตาม
โจวสิงพยักหน้า "วางใจเถอะ คนอย่างโจวสิงไม่มีวันทรยศต่อผู้มีพระคุณหรอก"
เฟิ่งชิงเฉินรับทราบแล้ว นางเชื่อมั่นในสายตาตนเอง โจวสิงคนนี้มีแววตาใสซื่อ ไม่มีทางแว้งกัดนางแน่นอน
"เพียงเท่านี้แหละ เรื่องอื่นๆข้าไม่ขออะไรแล้ว การที่ข้านำรอยตราประทับออกให้เจ้า หากเจ้าจะถือเป็นบุญคุณ ก็ทำเหมือนซูเหวินชิงก็แล้วกัน เจ้ามีเงินตอนไหน ค่อยมาจ่ายค่ารักษาสัก 1 พันตำลึงก็พอแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ