นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 41

หวังชีและเฟิ่งชิงเฉิน ยืนอยู่ที่ไกลอย่างเงียบๆ มิอาจรบกวน

แต่ทว่า ชายคนนั้นมิได้ให้เฟิ่งชิงเฉินรอนาน เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และยิ้มพร้อมหันกลับไป "มาโดยมิได้รับเชิญ คงมีแต่เจ้าหวังจิ่นหานที่ทำเช่นนี้"

น้ำเสียงของเขาฟังดูใจดี ทำให้คนอื่นรู้สึกอยากเข้าหา

"หากข้าไม่มา เจ้าคงเบื่อตายสิท่า" เมื่อหวังชีอยู่ต่อหน้าหวังจิ่นหลิง เขามิได้มากพิธีเท่าไหร่นัก เขาเป็นกันเองอย่างมาก รอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูจริงใจขึ้นมาก

เขาพยักหน้าให้เฟิ่งชิงเฉินและเดินไปข้างหน้า

เห็นได้ว่าสองพี่น้องสนิทกันมาก

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ชายชุดขาวที่อยู่ตรงหน้า เขาสามารถเข้าหาทุกคนได้ เพราะเขามีบุคลิกที่สงบซึ่งดึงดูดทุกคน รวมทั้งเฟิ่งชิงเฉิน

"มีเจ้าอยู่ข้าไม่มีวันเบื่อตายแน่นอน" หวังจิ่นหลิงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู เป็นรอยยิ้มและแววตาที่มองเขาเป็นทั้งน้องชายและเพื่อน

ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องดีเช่นนี้ ทำให้เฟิ่งชิงเฉินอิจฉาเล็กน้อย หากว่าเฟิ่งชิงเฉินมีพี่ชายคอยปกป้อง บางทีชีวิตของนางอาจจะไม่รันทดเช่นนี้ก็เป็นได้

เมื่อคิดถึงจุดนี้ เฟิ่งชิงเฉินก็เผยรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา

ทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้ เฟิ่งชิงเฉินไม่มีใครปกป้องเลย

ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ เฟิ่งชิงเฉินมีเพียงตัวเอง เมื่อนางบาดเจ็บนางทำแผลให้ตนเอง เมื่อนางเหนื่อยก็ทำได้แค่นอนพิงเข่าตัวเอง

ในขณะที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังเศร้าใจ หวังจิ่นหลิงเปลี่ยนเรื่องสนทนาทันที และพูดถึงเฟิ่งชิงเฉิน "น้องหาน มีแขกมาเจ้าไม่แนะนำให้ข้ารู้จักหน่อยรึ?"

"แววตา"ของเขา "จับจ้อง" ไปที่เฟิ่งชิงเฉิน

ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายมองไม่เห็น แต่ว่าหัวใจของเฟิ่งชิงเฉินก็เต้นเร็วอย่างช่วยมิได้

นัยน์ตานั้นเป็นสีดำที่บริสุทธิ์ดุจแอ่งน้ำลึก ไม่มีแสงใยใดๆ และเป็นสีดำที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง

ผู้ชายคนนี้ หากไม่ใช่ด้วยเหตุผลทางอาชีพ นางไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าชายคนนี้ตาบอด

ถึงตาของเขาจะมองไม่เห็น แววตาของเขาไม่สามารถโฟกัสได้ แต่กลับดูจริงใจอย่างมาก เมื่อคุยกับผู้อื่น ตาของเขาจะ "จับจ้อง" ไปที่อีกฝ่าย

เขายืนอยู่ตรงนั้นงดงามดั่งภาพวาด สงบและสง่า ไม่มีพลังลบหรือความไม่พอใจใดๆ ทุกอิริยาบถของเขาล้วนเผยความรักที่มีต่อชีวิตออกมา

เฟิ่งชิงเฉินชื่นชมชายคนนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ

หวังชีมองดูทั้งสองมองหน้าและยิ้มให้กัน เขาจึงเร่งเข้าไปแนะนำ "พี่ใหญ่ นี่คือเฟิ่งชิงเฉิน ลูกสาวของแม่ทัพเฟิ่ง"

เมื่อพูดถึงคำว่า "เฟิ่งชิงเฉิน" เสียงของหวังชีเบาลงเล็กน้อย

เพราะถึงอย่างไรแล้ว ทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดีว่า คำว่า "เฟิ่งชิงเฉิน" นั้นหมายถึงความอัปยศ เป็นความอัปยศของการเป็นสตรี มีบางตระกูลเมื่อสั่งสอนลูกสาวของตนก็มักจะยกเรื่องของเฟิ่งชิงเฉินมากล่าว

กล่าวว่าหากไม่ตั้งใจฝึกเรื่องกฎระเบียบ วันหน้าจะเป็นเหมือนเฟิ่งชิงเฉินที่เสื่อมเสียชื่อเสียง กลายเป็นหญิงสาวที่ไม่บริสุทธิ์ที่ทุกคนดูถูก

ดังนั้น เมื่อหวังชีแนะนำ เขาเองก็กังวลเล็กน้อยว่าพี่ใหญ่จะโกรธเคืองหรือไม่ที่ตนแนะนำหญิงสาวเช่นนี้ให้เขาได้รู้จัก หากว่าพี่ใหญ่ไม่พอใจและต่อว่าเฟิ่งชิงเฉิน เช่นนั้นจะเป็นปัญหาใหญ่โต

ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินได้สติ ก็ได้ยินคำแนะนำที่เป็นพิเศษนี้ นางมองไปที่หวังชี จากนั้นก็คำนับหวังจิ่นหลิงอย่างสง่างาม " ชิงเฉินขอคำนับคุณชายใหญ่"

ไม่มีความขี้ขลาดหรือความไม่สบายใจในน้ำเสียงของนางเลย ราวกับว่าเรื่องราวความอัปยศเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับนางเลย

หวังจิ่นหลิงไม่ทำให้นางผิดหวัง เมื่อได้ยินหวังชีกล่าวมา เขายิ้มกว้างมากขึ้น " คุณหนูเฟิ่งนี่เอง ขอคำนับขอรับ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ