นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 438

ยามที่รถม้าของเสด็จอาเก้ามาหยุดลงที่ตำหนักแยกนอกเมืองนั้น เนื่องจากเป็นเพราะอารมณ์ที่เย็นชาและเฉยเมยของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่นั่งนิ่ง ๆ มิได้พูดสิ่งใดออกมามาก เมื่อรออยู่บนรถม้ามาครึ่งค่อนวันแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็มิเห็นว่าเสด็จอาเก้าจะขยับตัวแต่อย่างใด จึงเกิดความลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับเปิดประตูรถม้าลงไปด้วยตนเอง นางจึงมิทันได้เห็นสีหน้าอันบึ้งตึงของเสด็จอาเก้า

สตรีโง่!

เสด็จอาเก้าโมโหเสียจนแทบจะกระอักเลือดออกมา

มิเห็นว่าเขากำลังโมโหอยู่หรือ? นางมิคิดจะเอ่ยถามเขา พร้อมกับพูดจาให้น่าฟังสักนิดหน่อยหรือ?

เสด็จอาเก้าโมโหเสียจนแทบจะพังรถม้าให้แหลกคามือ เฟิ่งชิงเฉินที่ลงมาจากรถม้าตั้งนานแล้วนั้น ก็ยังมิเห็นเสด็จอาเก้าขยับกายตามมาอีก ก็พลันรู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย พระองค์ทำตัวราวกับรอให้พ่อแม่ไปปลอบใจเด็กน้อยอย่างไรอย่างนั้น น่าเสียดาย เสด็จอาเก้าหาใช่เด็กน้อยผู้นั้นไม่ อีกทั้งเฟิ่งชิงเฉินก็มิได้สนใจจะเป็นพ่อแม่ให้กับเขาด้วยเช่นกัน

เฟิ่งชิงเฉินที่รอเสด็จอาเก้ามาครึ่งค่อนวันแล้วนั้น ก็ยังไม่เห็นเสด็จอาเก้าลงมาเสียที ก็พลันใช้สายตาถามองครักษ์ที่อยู่ข้างกายว่า " พวกเจ้าไม่คิดจะไปเตือนเสด็จอาเก้าให้ลงมาจากรถม้าหน่อยหรือ?"

องครักษ์พลันเกิดความลังเลใจไปเล็กน้อย พร้อมกับกับก้าวไปด้านหน้าเพื่อกัดฟันพูดออกมาว่า "ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ถึงตำหนักแยกแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

หาใช่เสียงที่พระองค์รอคอยไม่ เสด็จอาเก้าพลันเกิดอารมณ์โมโหขึ้นมาอีกครั้ง เสียงดัง ปั้ง เสียงแรงออกหมัดที่อยู่ภายในรถม้า รถม้าพลันเกิดความสั่นไหวไปเล็กน้อย สีหน้าของเหล่าองครักษ์ทั้งหลายต่างพากันซีดเผือดไปในทันที พร้อมกับนั่งคุกเข่าลง

"ท่านอ๋อง ยกโทษให้พวกกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ "

พวกเขามั่นใจได้ว่า ภายในรถม้าหาได้มีนักฆ่าไม่ อีกทั้งยังไม่พบเจอผู้ต้องสงสัยในรอบ ๆ รถม้าอีก สิ่งเดียวที่สามารถอธิบายออกมาได้ก็คือ ท่านอ๋องพวกเขากำลังอยู่ในอารมณ์โมโหอยู่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ด้วยความที่เป็นข้ารับใช้ อย่างไรก็ต้องเป็นที่รองรับอารมณ์โกรธให้กับเจ้านายของตนเอง

ผู้คนที่อยู่ภายนอกรถม้า ต่างพากันนั่งคุกเข่าลงกันหมด มีเพียงเฟิ่งชิงเฉินที่ยืนขึ้นอยู่เพียงผู้เดียว เพื่อต้องการที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกเขา เฟิ่งชิงเฉินจึงได้เตรียมตัวที่จะนั่งคุกเข่าลงไป

อย่าได้คิดว่า นางมีอำนาจมากพอ แต่เป็นเพราะว่า

การโดดเด่นจากฝูงชนมากไปหาใช่เรื่องที่ดีไม่ หากว่าเสด็จอาเก้าเดินลงมาจากรถม้า แล้วเห็นนางยืนอยู่ผู้เดียวละก็ บางทีเขาอาจจะนำอารมณ์โกรธมาลงที่นางก็เป็นได้ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง นางควรจะไหลตามพวกเขาไปเสียมากกว่า

ถึงอย่างไรเฟิ่งชิงเฉินก็ช้าไปเสียแล้ว เพียงแค่นางย่อเข่าลงไป เสด็จอาเก้าก็พลันเดินลงมาจากรถม้าในทันที สายตาที่เย็นชา พร้อมกับท่วงท่าที่มีเกียรติอันสูงส่ง มันทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นราชนิกุลในตัวของพระองค์

"คุกเข่าลงทำไมกัน ลุกขึ้น"

"ขอบพระทัยท่านอ๋องที่เมตตาพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์เหล่านั้น ถึงค่อย ๆ ลุกขึ้นมา เฟิ่งชิงเฉินจึงอดไม่ได้ ทีี่จะนั่งคุกเข่าลงไป เพราะนางมิอยากแสดงตนว่าตนเองไม่เหมือนผู้อื่น

"หึ" เสด็จอาเก้าเพียงแค่ก้าวเท้ายาว ๆ ผ่านตัวของเฟิ่งชิงเฉินเดินเข้าไปด้านใน พร้อมกับส่งเสียงฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา

เฟิ่่งชิงเฉินพลันใช้ความคิดกับตนเองว่า นางควรจะก้าวเข้าไปถามหรือไม่ว่า มือขวาของเสด็จอาเก้า พระองค์ต้องการจะทำแผลหรือไม่?

แต่ก็ พอเถอะ แผลเล็กน้อยแค่นั้นหาได้เอาชีวิตได้ไม่ รอบกายของเสด็จอาเก้ามีท่านหมออยู่มากมาย

เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่เร่งฝีเท้าตามเข้าไป

ผ่านไปนานหลายปี ยามที่เฟิ่งชิงเฉินนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมานั้น ถึงได้รู้ว่าเพราะเหตุใดเสด็จอาเก้าถึงมีสีหน้าที่บึ้งตึงกันแน่

พระเจ้า เพียงแค่อารมณ์โกรธ เขาก็สามารถใช้มันเพื่อวางแผนออกมาได้แยบยลถึงเพียงนั้น บุรุษผู้นี้ นับว่าน่ากลัวมากเกินไปแล้ว

ด้วยหมัดนั้น เสด็จอาเก้าพลันใช้บาดแผลของตน เป็นตัวเปิดทางให้ทุกคนได้รู้ว่า เฟิ่งชิงเฉินยั่วโมโหเสด็จอาเก้า ยามที่อยู่บนรถม้า จนทำให้เสด็จอาเก้าต้องระบายความโกรธด้วยการต่อยกับผนังรถม้าในทันที พร้อมกับตนเองที่ได้รับบาดเจ็บที่มือขวา

ถึงแม้ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบเสด็จอาเก้าจะมิได้พูดสิ่งใดออกมา แต่ผู้ที่มีสมองจะสามารถคิดได้ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในรถม้าของเสด็จอาเก้ากับเฟิ่งชิงเฉิน

แต่แท้จริงแล้ว?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ