นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 439

หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินรู้ตัวว่า ตนเองเผลอกระทำตัวไร้มารยาทออกไปนั้น นางมาที่นี่เพื่อทำงาน หาใช่มาท่องเที่ยวธรรมชาติไม่ ยังมีคนไข้ที่รอนางอยู่

เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่ละสายตาจากทิวทัศน์อันงดงามที่อยู่ตรงหน้า ยามที่กำลังจะเตรียมตัวขอโทษขอโพยต่อเสด็จอาเก้านั้น ผู้ใดจะรู้ว่า เสด็จอาเก้าหาได้ให้โอกาสนางไม่ พระองค์พลันหันกายจากไป พลางทิ้งคำพูดเอาไว้ว่า "พานางไปหาองค์ชายสาม" จากนั้นก็ทิ้งนางเอาไว้เพียงคนเดียว

เสด็จอาเก้าเย่อหยิ่งยิ่งนัก!

เฟิ่งชิงเฉินมิรู้ว่าควรจะอธิบายออกมาอย่างไรดี แต่ทว่า เมื่อรู้สึกถึงความผิดพลาดของตนเองก่อนหน้านั้น นางก็มิเอ่ยอันใดออกมาให้มากความอีก พร้อมทั้งเดินตามองครักษ์ที่นำทางนางมาที่ห้องพักฟื้นของซีหลิงเทียนอวี่ ภายในห้องพลันอบอวลไปด้วยกลิ่นของตัวยามากมายนัก

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินที่ได้กลิ่นที่คุ้นเคยเช่นนี้ พลันทำให้นางตกอยู่ในภวังค์ไปครู่หนึ่ง เสมือนกับว่า นางได้กลับมาในโรงพยาบาลที่ตนเองเคยทำงานอยู่อีกครั้ง น่าเสียดายนัก กลิ่นเครื่องเรือนภายในห้องพัก ดึงให้นางกลับมาสู่ในโลกของความเป็นจริงในทันที

นางไม่อาจกลับไปได้อีกแล้ว ไม่อาจกลับไปได้อีก การที่นางสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้ นับว่านางโชคดีแล้ว

"องค์ชายสามเพคะ " เมื่อเฟิ่งชิงเฉินรับกล่องยามาจากองครักษ์นั้น นางก็เดินเข้าไปในห้องในทันที

"เฟิ่งชิงเฉิน เร็ว เจ้ามาดูขาของข้าเร็ว" ขาทั้งสองข้างของซีหลิงเทียนอวี่พลันเต้มไปด้วยเลือดมากมาย เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามานั้น เขาก็รีบลุกขึ้นนั่ง มิรอให้สาวใช้เดินเข้ามา ซีหลิงเทียนอวี่ก็พลันเลิกผ้าห่มของตนขึ้น หาได้มีท่าทีสุขุมเหมือนเช่นเคยไม่

"ฝ่าบาทอย่าได้ขยับตัวไปมาเพคะ" เฟิ่งชิงเฉินเคลื่อนไหวได้ไวกว่าพวกนางกำนัล นางก้าวเข้าไปห้ามซีหลิงเทียนอวี่เอาไว้ได้ในทันที

สถานการณ์ของซีหลิงเทียนอวี่มิใคร่ดีนัก หาใช่เป็นที่บาดแผลของเขาไม่ แต่เป็นที่สภาพจิตใจของเขาเสียมากกว่า เป็นเพราะเขาตื่นเต้นและจิตใจไม่สงบมากเกินไป เฟิ่งชิงเฉินมิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ทว่า ย่อมมิใช่เรื่องที่ดีแน่

"เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ารีบมาดูขาของเปิ่นหวางเร็วเข้า ยังมีโอกาสรักษาหรือไม่?" ซีหลิงเทียนอวี่ตื่นตระหนกเสียจนจับมือทั้งสองข้างของเฟิ่งชิงเฉินเอา่ไว้ ใบหน้าที่ตื่นตระหนก พร้อมกับสองมือที่กำลังสั่นเทา นั้นแสดงออกได้เป็นอย่างดีว่า สภาพจิตใจของเขาไม่ปกติ

เฟิ่งชิงเฉินพลันขมวดคิ้วลง พร้อมกับชักมือของตนเองกลับมาในทันที ซีหลิงเทียนอวี่จึงเปลี่ยนมาจับที่อาภรณ์​ของนางแทน เฟิ่งชิงเฉินเพียงแค่มองดูและมิได้เอ่ยอันใดออกมา ทว่า นางกลับหันไปถลึงตาใส่เหล่านางกำนัลทั้งสองคนว่า "เกิดเรื่องอันใดขึ้น?"

นางมั่นใจว่า ต้องมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถึงทำให้ซีหลิงเทียนเหล่ยเป็นเช่นนี้ไปได้ เนื่องจากสายตาของเฟิ่งชิงเฉินที่มองมา ทำให้นางกำนัลต่างก็หันหน้าหนี พร้อมกับก้มหน้าลงไปในทันที

เมื่อเฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าตนเองไม่อาจหาคำตอบได้นั้น ก็มิได้ถามไถ่อันใดอีก พลางหันตัวกลับไปพูดปลอบใจกับซีหลิงเทียนอวี่ว่า เพื่อให้เขาสบายใจว่า "ฝ่าบาทอย่าเพิ่งกังวลไปเพคะ ให้หม่อมฉันได้ดูบาดแผลของพระองค์ก่อน มันจะไม่เป็นอันใดแน่นอนเพคะ" ไม่ว่าเรื่องจะเป็นเช่นไร ก็ควรที่จะปลอบใจคนไข้ก่อน เป็นเรื่องที่สมควรที่สุด

"ได้ได้" ซีหลิงเทียนอวี่จึงได้ปล่อยมือเฟิ่งชิงเฉินลง แต่ทว่า สายตายังคงเต็มไปด้วยความวิตกกังวลใจมากมาย

เฟิ่งชิงเฉินจึงมิได้เอ่ยสิ่งใดให้มากความ พร้อมทั้งลากเก้าอี้ออกมา แล้วจึงนำกล่องยาของตนวางเอาไว้บนนั้น จากนั้นก็นำถึงมือและหน้ากากอนามัยเอาออกมาใส่ พร้อมทั้งรวบผมของตนเองให้เรียบร้อย ยามที่กำลังจะลากเก้าอี้เข้ามานั่งนั้น สาวใช้ก็พลันลากเข้ามาให้นางนั่งแต่โดยดี

"ขอบคุณ" เฟิ่งชิงเฉินเพียงก้มหัวเพื่อกล่าวขอบคุณเล็กน้อย จากนั้น ก็ทำการตรวจสอบบาดแผลของซีหลิงเทียนอวี่ในทันที เมื่อเปิดผ้าห่มออกมานั้น เฟิ่งชิงเฉินก็พลันขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม

นางกลัวยิ่งนักว่ามีดผ่าตัดจะทำให้บาดแผลเกิดการฉีกขาด นางจึงได้ใช้มีดผ่าตัดดึงบาดแผลเอาไว้อีกด้านหนึ่ง จากนั้นสิ่งที่คล้ายกับแผ่นรองเข่าที่นางเอาไว้ครอบผ้าพันแผลนั้น ในยามนี้มันกลับยับยู่ยี่ยิ่งนัก นั่นทำให้นางรู้ได้เลยว่า มีคนแก้มันออกมา

คนไข้ที่ไม่ฟังความเป็นสิ่งที่นางเกลียดมากที่สุด พร้อมทั้งคนไข้ที่มีความมั่นใจและอยากรู้อยากเห็น นับว่าเป็นสิ่งที่นางเกลียดมากที่สุดเช่นกัน

เมื่อเห็นว่า คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นถึงหนึ่งในราชวงศ์ซีหลิง เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่อดทนเอาไว้ พร้อมกับทำหน้าบึ้งตึงหยิบกรรไกรออกมา พร้อมกับตัดผ้าที่ครอบเข่าออก

ผ้าพันแพลเองก็ถูกรื้อออกมาเช่นกัน ถึงแม้ว่ามันจะถูกนำกลับไปพันเป็นดังเดิม แต่ก็มิได้แน่นหนาพอ เกรงว่า ผู้ที่ทำแผลให้ คงจะไม่กล้าออกแรงมัดมากกระมัง บาดแผลมีเลือดไหลซึมออกมามาก รวมไปถึงเลือดที่ไหลซึมออกมาจากผ้าพันแผลเอง ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว

สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินพลันค่อย ๆ เคร่งเเครียดขึ้นมาเรื่อย ๆ นางเกลียดคนที่ไม่รู้เรื่องมากที่สุด แต่ก็ไม่ฟังคำพูดของคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ทั้งยังคิดที่จะหาเรื่องใส่ตัวเองเช่นนี้อีก

"เฟิ่ง" ซีหลิงเทียนอวี่ อยากจะเอ่ยถามออกไปยิ่งนัก แต่ทว่า เมื่อเห็นแววตาของเฟิ่งชิงเฉินที่มองมาด้วยความกรุ่นโกรธ ก็ทำให้เอาซีหลิงเทียนเหล่ยขวัญผวาไปในทันที พร้อมทั้งปิดปากของตนเองลงด้วยความเร็วไว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ