"เสมอกัน? คุณหนูซูพูดตลกอะไรกัน" เฟิ่งชิงเฉินวางถ้วยน้ำชาในมือลง สีหน้านางดูแปลกใจเล็กน้อย แต่ในใจกลับกำลังยิ้มเยาะ ในที่สุดช่วงเวลาที่นางรอคอยก็มาถึงเสียที เล่นเอานางเหนื่อยแทบตาย
แม้การเล่นหมากล้อมจะอาศัยพลังจากสมอง แต่งานนี้ทำเอานางหมดแรงยิ่งกว่ายืนผ่าตัดมาทั้งวันเสียอีก ต่อจากนี้ไปใครก็อย่าได้มาชวนนางเล่นหมากล้อมอีกนะ มิฉะนั้นได้มีเรื่องกับนางแน่
"ทำไมล่ะ? นอกจากเสมอกันแล้วคุณหนูเฟิ่งยังมีคำตอบอื่นอีกหรือ?" ซูหว่านมองกระดานหมากล้อม ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงไม่อยากจะเงยหน้า คงจะเป็นเพราะยิ้มของเฟิ่งชิงเฉินดูขัดหูขัดตามากไปหน่อย
เฟิ่งชิงเฉินไม่สนใจซูหว่าน นางค่อยๆเก็บหมากบนกระดานใส่ตะกร้าหมากทีละตัวๆ มีทั้งหมากดำและหมากขาว โดยเหลือไว้บนกระดานประมาณ 1 ใน 3
"การประลองเมื่อครู่นี้ ท่านบอกว่าเสมอกันก็ตกลงตามที่ท่านพูดเถิด แต่ว่าการเสมอกันมันไม่สนุกเลยนี่นา คุณหนูซู ข้าเตรียมการประลองหมากรอบต่อไปไว้ให้แล้ว หากท่านเอาชนะข้าในรอบนี้ได้ก่อนการประลองรอบอื่นๆจะสิ้นสุด ก็จะถือว่าข้าแพ้ท่านในรอบหมากล้อม ถ้าหากท่านไม่ชนะ ก็จะถือว่าพวกเราเสมอกัน"
เห็นๆอยู่ว่าที่ผ่านมาเฟิ่งชิงเฉินเสียแรงเปล่า แต่นางก็ได้ใช้โอกาสการคว้าชัยชนะมาหลอกล่อซูหว่าน เรียกร้องความสนใจจากซูหว่าน เช่นนี้แล้ว ก่อนที่การประลองรอบอื่นๆจะสิ้นสุด ซูหว่านก็จะต้องทุ่มเทพลังกายพลังใจให้กับรอบหมากล้อมอย่างเต็มที่ จะได้ไม่มีเวลามาหาเรื่องนางอีก และการประลองในรอบถัดไป นางก็จะก่อกวนสมาธิของซูหว่าน ให้ซูหว่านไม่มีสมาธิระหว่างการประลองไปเลย
ในเมื่อความสามารถมีจำกัดก็ต้องใช้กลลวง ดูเหมือนว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมีพรสวรรค์ด้านการคิดแผนกลยุทธ์ น่าเสียดายที่นี่เป็นเพียงการประลองเล็กๆระหว่างหญิงสาว 2 คน เฟิ่งชิงเฉินนึกเสียดายอยู่ในใจ
และแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เฟิ่งชิงเฉินคาดคิด ซูหว่านไม่อาจปฏิเสธข้อเสนอของเฟิ่งชิงเฉินได้ นางกระหายในชัยชนะเหลือเกิน ต่อให้ผลการประลองจะออกมาเสมอกัน ก็ถือว่านางไม่มีสิ่งใดที่ต้องเสีย
"ถ้าเช่นนั้น การประลองหมากล้อมก็ตกลงตามนั้นก็แล้วกัน" ซูหว่านยอมรับข้อเสนอของเฟิ่งชิงเฉิน เหยียนหล่าวและคนอื่นๆต่างก็ยืนนิ่งเงียบ และแล้วผลการแพ้ชนะของการประลองหมากล้อมก็มีอันต้องเลื่อนออกไปก่อน
"ตกลง" เฟิ่งชิงเฉินไม่ยินดียินร้าย ระหว่างที่ซูหว่านกำลังใช้ความคิด เฟิ่งชิงเฉินก็กำลังจัดเตรียมกระดานหมาก ท่าทางอันแน่วแน่ของนาง ช่างยียวนซูหว่านเสียเหลือเกิน
เฟิ่งชิงเฉินวางหมากตัวสุดท้ายแล้วจึงลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันไปคารวะเหยียนหล่าวและคนอื่นๆ ในขณะที่นางกำลังจะออกไปก็ได้พบกับพวกโจวอ๋องและชิงอ๋อง
องค์ชายเหล่านี้มาทำไมกันนะ? เฟิ่งชิงเฉินสงสัยเป็นอย่างมาก เมื่อเฟิ่งชิงเฉินเริ่มตั้งสติได้ก็รีบคุกเข่าคารวะเหล่าองค์ชาย
เฟิ่งชิงเฉินคุกเข่าคารวะพลางนึกมองตัวเองว่ากลายเป็นคนยุคนี้ไปเสียแล้ว ต่อให้มีคนหลงยุคมาเหมือนนาง ก็คงไม่มีทางนึกสงสัยภูมิหลังของนางอย่างแน่นอน
"แม่นางเฟิ่งไม่ต้องมากพิธีหรอก รีบลุกขึ้นเถิด" โจวอ๋องกล่าวขึ้นในฐานะองค์ชายที่มีพระชันษามากกว่าองค์อื่นๆ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาให้เกียรติเฟิ่งชิงเฉิน แล้วเขาก็เข้าไปพยุงเฟิ่งชิงเฉินให้ลุกขึ้น
ล้อเล่นน่ะ พวกเขาไม่อาจรับการคารวะจากเฟิ่งชิงเฉินได้ต่างหาก ต่อให้เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้มาเป็นป้าเก้าของพวกเขาก็อาจจะต้องเป็นฮูหยินของคุณชายหยวนซี ไม่ว่าจะเป็นสถานภาพใดก็ตาม ก็ล้วนเป็นคนที่พวกเขาต้องพึ่งพาอาศัย
"ขอบพระทัยท่านอ๋อง" เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืน เมื่อยืนขึ้นแล้วก็ดันไปเจอสายตาอันร้อนผ่าวของชุนอ๋อง หากเป็นตอนปกติทั่วไปเฟิ่งชิงเฉินคงจะไม่ใส่ใจ แต่ทว่าวันนี้......
เฟิ่งชิงเฉินกดดันเป็นอย่างมาก ดอกท้อแสนสวยที่เน่าเหม็นชักจะเบ่งบานมากเกินไปแล้ว นางอยากจะซื้อดาบมาสักเล่มแล้วฟันต้นดอกท้อให้สิ้นซาก ดอกท้อนั่นไม่เห็นมีอะไรดีสักอย่าง
เฟิ่งชิงเฉินไม่แยแสสายตาเย้าแหย่ของคุณชายหยวนซีและสายตาเสน่หาของชุนอ๋อง นางหันไปทางอื่นแล้วหลับตาลง ซุกซ่อนความเหนื่อยล้าไว้ภายใน
เฟิ่งชิงเฉินวางตัวสงบนิ่ง ทำท่าทางเหมือนรอฟังเหล่าองค์ชายเอ่ยปากตรัสกับนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...