นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 458

เนื่องจากว่าความใจร้อนของคณะกรรมการ "ผลงาน" ของเฟิ่งชิงเฉินนั้น จึงได้ถูกวนส่งให้คณะกรรมการดูต่อ ๆ กันในทันที เมื่อเหล่าคณะกรรมการทั้งเจ็ดได้เห็นเช่นนั้น พวกเขาก็ได้แต่ตกตะลึงขึ้นมาพร้อม ๆ กันว่า เมล็ดข้าวก็สามารถเขียนอักษรลงไปได้ มิทันได้มีโอกาสได้มองตัวอักษรของเฟิ่งชิงเฉินอย่างละเอียดเสียที

นอกจากเสด็จอาเก้าแล้ว คณะกรรมการคนอื่น ๆ ก็เตรียมที่จะดูอีกรอบเช่นกัน ทว่า

เสด็จอาเก้ากลับถือ"ผลงาน" ของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทุกคนจึงได้แต่มองตากัน พร้อมกับยอมแพ้ที่เข้าไปสู้รบกับเสด็จอาเก้าในทันที

ตัวอักษรที่เฟิ่งชิงเฉินเขียนนั้น หาได้มีสิ่งที่พิเศษตรงใดไม่ เป็นเพียงตัวอักษรข่ายที่ตัวบรรจงเท่านั้ัน เสมือนกับเป็นการแกะสลักก็ไม่ปาน ทว่า มันกลับถูกเขียนลงบนเมล็ดข้าวเช่นนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเพิ่มคะแนนให้กับเฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่รู้ตัว

จิตวิญญาณเก้าแคว้น ใครใคร่สนใจ

ความสงบก้าวไกล ก่อเกิดปัญญา

ล้วนแต่เป็นแปดอักษร อีกอันหนึ่งคือตัวอักษรเหยียน อีกอันคือตัวอักษรข่าย นับว่าเป็นการตัดสินที่ยากยิ่งนัก คณะกรรมการทั้งหกต่างพากันรวมตัวเพื่อปรึกษาหารือ คุณชายหยวนซีพลันกล่าวออกมาว่า ตัวอักษรของเฟิ่งชิงเฉินนั้นยอดเยี่ยม เฟิ่งชิงเฉินควรได้ชัยไป

ผู้อาวุโสเหยียนพลันกล่าวว่า ตัวอักษรของซูหว่านมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เฟิ่งชิงเฉินก็มีเอกลักษณ์ของนางเช่นเดียวกัน ไม่อาจตัดสินได้ง่าย

บัณฑิตทั้งสามของสำนักจี้เซี่ยพลันออกตัวว่า ตัวอักษรของซูหว่านนับว่าเป็นการเขียนอักษรอย่างแท้จริง แต่ทว่า ตัวอักษรของเฟิ่งชิงเฉินนั้นกล่าวได้ยาก หากตัวอักษรข่ายพวกนั้น ได้มาเขียนลงบนผืนกระดาษแล้วละก็ ย่อมมิได้มีความพิเศษมากนัก ทว่า เมื่อมาเขียนลงบนเมล็ดข้าว กลับให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

ซีหลิงเทียนเหล่ยพลันกล่าวออกมาว่า แต่นี่คือการประลองการเขียนอักษร ย่อมต้องตัดสินกันที่ความงดงามและเอกลักษณ์ของตัวอักษร ในเมื่อทั้งสองคนเขียนแปดอักษรเช่นนี้ พวกเราก็เริ่มตัดสินจากแปดตัวอักษรแทนเป็นอย่างไร

"ความคิดขององค์รัชทายาทเหล่ยไม่เลวเลย"บัณฑิตทั้งสามของสำนักจี้เซี่ยต่างพากันร่วมสมทบไปในทันที อีกทั้ง นั่นยังแสดงออกถึง ว่าพวกเขาเข้าข้างซูหว่าน

ผู้อาวุโสเหยียนและคุณชายหยวนซีหาได้เอ่ยอันใดออกมาไม่ พวกเขาเป็นบัณฑิต พวกเขาต้องมีการวางท่าทางและอำนาจเสียหน่อย ถึงแม้ว่าตนเองจะเอียงเอนไปทางฝั่งใด ก็ไม่อาจแสดงออกมาได้อย่างโจ่งแจ้ง ซีหลิงเทียนเหล่ยเข้าใจในจุดนี้ เขาถึงได้จงใจเอ่ยออกมากระทบทั้งผู้อาวุโสเหยียนและคุณชายหยวนซี

เรื่องการแพ้ชนะของซูหว่านเขาหาได้สนใจไม่ เขาสนใจแต่เพียงเย่เย่ ในเมื่อเย่เย่คาดหวังให้ซูหว่านชนะ เขาย่อมต้องเอาหน้ากับเย่เย่เสียหน่อย เพื่อให้เย่เย่รู้สึกเป็นหนี้ต่อเขาเยอะ ๆ เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าเย่เย่จะไม่เต็มใจ เขาก็จะยืนอยู่ข้างซีหลิงเทียนเหล่ยอย่างแน่นอน

ซีหลิงเทียนเหล่ยพลันมองผ่านเสด็จอาเก้าไปในทันที พร้อมกับหันไปพูดคุยกับบัณฑิตทั้งสามของสำนักจี้เซี่ย ถึงเรื่องการแพ้ชนะของซูหว่านกับเฟิ่งชิงเฉิน

"เสด็จอาเก้าพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อพระองค์ไม่มีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ กระหม่อมก็จะขอประกาศผลการประลองนะพ่ะย่ะค่ะ" ซีหลิงเทียนเหล่ยทำทีเป็นขอความคิดเห็นของเสด็จอาเก้าด้วยความสุภาพ สี่ในเจ็ดของคณะกรรมการ ต่างก็พากันนับว่าซูหว่านชนะในการประลองครั้งนี้ไปแล้ว ถึงอย่างไรเสด็จอาเก้าย่อมไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์อันใดได้

"ผลการประลอง? ผู้ใดพูดว่าผลการประลองออกมาแล้วกัน พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่า นอกจากเมล็ดข้าวที่เฟิ่งชิงเฉินเขียนลงไปว่า "จิตวิญญาณเก้าแคว้น ใครใคร่สนใจ"แปดตัวอักษรนั้น ตรงปลายข้าวยังมีตัวอักษรอยู่ด้วย?" เสด็จอาเก้าค่อย ๆ ดันถาดรองไปทางด้านหน้าของผู้อาวุโสเหยียน

"ชิงเฉินรออยู่! ที่แท้เฟิ่งชิงเฉินก็ได้เขียนตัวอักษรลงไปที่ปลายข้าวด้วย นับว่าเป็นความตั้งใจที่ดี " ผู้อาวุโสเหยียนอยากจะพูดออกมาเหลือเกินว่า สายตาของเสด็จอาเก้าช่างก้าวไกลเพียงใดกัน แม้ว่าตัวอักษรพวกนั้่นจะมิได้สะท้อนลงบนถาดแก้ว แต่พระองค์กลับมองเห็น เพียงแค่เมล็ดข้าวเม็ดเดียวเท่านั้น กลับแสดงให้เห็นถึงความน่าอัศจรรย์เสียมากมาย ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริง ๆ

"ที่แท้มีตัวอักษรอยู่ที่ปลายข้าวจริง ๆ " คุณชายหยวนพลันขยับเม็ดข้าวไปมาเล็กน้อย พร้อมกับใช้ผลึกแก้วส่องลงไป เพื่อขยายตัวอักษร

หืม เฟิ่งชิงเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง นางมีเขียนลงไปที่ปลายเมล็ดด้วยหรือ?

เมื่อครุ่นคิดไปมา นางก็ได้แต่พยักหน้าลง เหมือนว่าจะใช่ ยามที่นางกำลังฝึกเขียนนั้น นางได้ลองฝึกเขียนตัวอักษรที่ปลายข้าวดู มิคิดว่าตนเองจะเลือกโดนเม็ดนั้นเช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญก็คือสี่คำนั้น นับว่าแปลกประหลาดเสียจริง

นางจำได้ว่าเขียนลงไปเมล็ดข้าวว่า "ตั้งใจรอคอย ชิงเฉินสมหวัง" มิคิดว่าสุดท้ายแล้ว มันจะกลายมาเป็น "ชิงเฉินรอคอย"เสียได้ เอาเถอะ ถึงนางจะอธิบายไปอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์

เฟิ่งชิงเฉินได้แต่นั่งเงียบ ๆ มิได้พูดสิ่งใดออกมา พลันหันไปสบตากับแววตาที่ขบคิดของเสด็จอาเก้าพอดี เฟิ่งชิงเฉินจึงได้แต่หลับตาลงพร้อมกับเบือนหน้าหนี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ