นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 461

เสด็จอาเก้ามีฝีมือเลิศล้ำในการนวดกดจุด แรงกดหนักเล็กน้อยแต่ไม่เจ็บปวด ที่นิ้วมือมีอาการชาๆ เล็กน้อยและนิ้วที่เย็นนั้นคลับคล้ายคลับคลาว่ามีความร้อนแผ่ซ่านออกมา ความเมื่อล้าที่นิ้วของนางหายไปอย่างรวดเร็ว

เฟิ่งชิงเฉินสบายมากจนแทบจะผล็อยหลับไป สามารถขจัดความเจ็บปวดทั้งสิบนิ้วของนางได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจว่าฝีมือของเสด็จอาเก้านั้นสูงกว่าฝีมือของหลานจิ่วชิงอย่างแน่นอน เฟิ่งชิงเฉินแม้กระทั่งสงสัยว่าเขาได้ไปเรียนมาหรือไม่?

เฟิ่งชิงเฉินสูดหายใจ เอาเถอะ นางยอมรับว่าความคิดนี้ทำให้นางแอบมีความสุขและทำให้นางแอบรู้สึกยินดี แต่อย่างไรนางก็เป็นคนมีเหตุผล...

หลังจากซาบซึ้งเสร็จแล้ว สมองของนางก็วิ่งเร็วจี๋อีกครั้ง ยิ่งนางคิดก็ยิ่งรู้สึกประหลาด หลานจิ่วชิงรู้วิธีกดจุด นางยังพอเข้าใจได้ว่าผู้ที่มักได้รับบาดเจ็บย่อมรู้วิธีบรรเทาอาการบาดเจ็บของตน แต่เสด็จอาเก้านั้นทำได้อย่างไร?

เมื่อคิดไม่ออก เฟิ่งชิงเฉินก็ขี้เกียจเกินกว่าจะคิด มีบางเรื่องไม่ควรจะคิดมาก เมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งอยากรู้แล้วก็จะเป็นอันตราย...

ยังคงเป็นประโยคเดิม ยิ่งรู้มากก็ยิ่งตายเร็ว นางยังอยากอยู่ต่ออีกหลายปี ความลับของเสด็จอาเก้านั้น นางไม่อยากแตะต้องแม้เพียงนิด สิ่งที่นางสนใจตอนนี้ก็คือฝีมือการนวดของเสด็จอาเก้า

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ นางอยากถามเสด็จอาเก้าว่าเขานวดเช่นนี้เป็นได้อย่างไรและสามารถสอนนางได้หรือไม่ หลานจิ่วชิงไม่สอนนาง เสด็จอาเก้าคงจะสอนนางกระมัง อย่างไรเสด็จอาเก้าก็ไม่ต้องอาศัยสิ่งนี้มายังชีพ

แต่ดูเหมือนเสด็จอาเก้าจะรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ นางยังไม่ทันเอ่ยปาก เสด็จอาเก้าก็เอ่ยว่า “ต่อไปหากเจ้าเมื่อยมือก็จงมาบอกข้า หากข้าไม่อยู่ก็จะส่งคนมาหาเจ้า"

กล่าวคืองานนวดมือของนางในอนาคตจะเป็นหน้าที่ของเขา เฟิ่งชิงเฉินอย่าได้คิดแย่งไปและแน่นอนว่าเขาจะไม่สอนนาง

“นี่...” ไม่ดีมั้ง

เสด็จอาเก้าช้อนตาขึ้นมองเฟิ่งชิงเฉินและขัดจังหวะคำพูดของเฟิ่งชิงเฉินอย่างไม่เกรงใจ “เขยิบมาหน่อย”

ยามพูดเสด็จอาเก้าก็ผลักโต๊ะตัวเล็กและเก้าอี้ที่อยู่ตรงกลางไปด้านข้าง ขจัดสิ่งกีดขวางเพียงอย่างเดียวระหว่างทั้งสองออกและบอกให้นางก้าวมาข้างหน้า แต่ทว่า...

รถม้าใหญ่เกินไป แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเขยิบไปข้างหน้า ระยะห่างระหว่างทั้งสองก็ยังมีมากอยู่ดี เฟิ่งชิงเฉินโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างสุดความสามารถ แต่เสด็จอาเก้าก็ยังคงไม่พอใจนัก

“มานั่งนี่” เสด็จอาเก้าเขยิบไปทางขวาและทำให้ที่นั่งข้างกายของเขาว่าง

นั่งเคียงข้างเสด็จอาเก้า?

เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกกดดันอย่างมาก นางไม่ยอมลุกขึ้น แต่นางลืมไปว่ามือของนางถูกเขาจับไว้ เมื่อนางไม่ยอมขยับ เสด็จอาเก้าจึงขยับเอง

เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าเขาใช้แรงเมื่อใด รู้เพียงว่าหลังจากตัวหมุนไปไม่นาน นางก็นั่งอยู่ด้านข้างเสด็จอาเก้าและยังเป็นระยะเนื้อแนบเนื้อ

เข้ามาใกล้เกินไป เพียงแค่หายใจเบาๆ กลิ่นไม้ไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ของเสด็จอาเก้าก็พุ่งแตะจมูก ไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินคิดมากเกินไปหรือว่าอย่างไร นางมักจะรู้สึกว่ามีกลิ่นยาที่คุ้นเคยบนร่างเสด็จอาเก้า

เพื่อยืนยันความสงสัยของตนเอง เฟิ่งชิงเฉินจึงเอียงศีรษะเข้าหาเขาและหายใจเข้าลึก ยังไม่ทันได้แยกแยะกลิ่นของเสด็จอาเก้า เขาก็ดีดหน้าผากนาง "เจ้าเหม่ออะไร?"

เสียงเป๊าะดังขึ้น… จากนั้นรอยแดงก็ปรากฏบนหน้าผากของเฟิ่งชิงเฉิน

“โอ๊ย” เฟิ่งชิงเฉินโอดครวญด้วยความเจ็บปวดและลืมความสงสัยของนางไป นางถลึงตาใส่เสด็จอาเก้าอย่างตัดพ้อ คิดจะเอื้อมมือไปนวดหน้าผากที่เจ็บปวด แต่มือของนางถูกเสด็จอาเก้าจับไว้แน่นจึงไม่สามารถดึงออกได้ เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าใช้แรงมากเพราะกลัวเจ็บมือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ