สรุปเนื้อหา บทที่ 493 โดดเด่นเป็นสง่ามากกว่าใคร นี่แหละเฟิ่งชิงเฉิน – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บท บทที่ 493 โดดเด่นเป็นสง่ามากกว่าใคร นี่แหละเฟิ่งชิงเฉิน ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตงหลิงจื่อลั่วไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งเฟิ่งชิงเฉินจะงามเลิศถึงเพียงนี้ ความงามของนางนั้นงามจนทำให้เกิดระยะห่างมาขวางกั้น แม้จะอยู่ใกล้เพียงแค่นี้ แต่กลับทำให้เขารู้สึกว่านางนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อม
เขาไม่คิดเลยว่าเฟิ่งชิงเฉินจะร่วมมือกับเสด็จอาเก้า จนถึงขั้นสวมชุดประจำตำแหน่งพระชายาอ๋องเก้าเข้ามาในวังหลวง เฟิ่งชิงเฉินผู้เฉิดฉายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้แววตาตงหลิงจื่อลั่วปวดร้าว......
ยิ่งนึกถึงข่าวลือแล้ว ตงหลิงจื่อลั่วก็หน้าซีดในทันใด เขามองเฟิ่งชิงเฉิน มีคำพูดนับพันนับหมื่นที่เขาอยากจะพูด แต่กลับพูดออกจากปากไม่ได้
เขาอยากพูดว่าอะไรบ้างน่ะหรือ?
ก็อยากถามเฟิ่งชิงเฉินว่าเป็นดังที่ใครต่อใครร่ำลือกันหรือไม่ นางกับเสด็จอาเก้าลงเอยเป็นสามีภรรยากันแล้วจริงๆหรือ เหตุใดนางจึงสวมชุดพระชายาเข้าวัง? แท้ที่จริงแล้ว ความสัมพันธ์ของนางกับเสด็จอาเก้าเป็นเช่นไรกันแน่?
เขามีคำถามอีกมากมาย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีสิทธิ์ถาม และเขาก็พูดไม่ออกด้วย เขาอยากตำหนิเฟิ่งชิงเฉินว่าการที่นางสวมชุดพระชายาเช่นนี้ไม่ถูกกาลเทศะ แต่ถ้อยคำเหล่านี้เขากลับพูดไม่ออก เหตุผลก็เพราะว่า......
อาภรณ์ชุดนี้ราวกับว่าถูกตัดเย็บขึ้นมาเพื่อเฟิ่งชิงเฉินโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นขนาดชุดหรือว่าเครื่องประดับ ล้วนเสริมให้เฟิ่งชิงเฉินเฉิดฉาย
เฟิ่งชิงเฉินเพิ่งบรรลุนิติภาวะ ถึงนางจะสะสวยแต่ก็ยังคงมีความเป็นเด็กอยู่ นางมักจะดูทโมนในบางครั้ง ไม่เหมือนอย่างกุลสตรี แต่ทว่าวันนี้ ชุดที่นางสวมมากลับทำให้นางดูเป็นคนละคน
ทั้งทรงอำนาจ ทระนง สง่างาม พราวเสน่ห์ ทุกอย่างเข้ากันได้อย่างลงตัว นางช่างเลอโฉมยิ่งนัก ทำเอาตงหลิงจื่อลั่วละสายตาจากนางไม่ได้เลย เขาจ้องมองนางโดยไม่แยแสสายตาใครต่อใคร
ตรงข้ามกับตงหลิงจื่อลั่ว เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าเพียงเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย "ลั่วอ๋อง"
แม้สถานภาพของนางจะยังคงคลุมเครือ แต่เนื่องจากชุดที่นางสวมใส่มา ตงหลิงจื่อลั่วจึงไม่อาจรับการคุกเข่าคารวะจากนางได้
"เจ้า......สบายดีใช่ไหม?" ตงหลิงจื่อลั่วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อึกอัก
"ขอบพระทัยลั่วอ๋อง ชิงเฉินสบายดีเพคะ" แม้เฟิ่งชิงเฉินจะทำตัวเหินห่างแต่ก็ยังรักษามารยาท เมื่อนางเห็นว่าตงหลิงจื่อลั่วยังยืนขวางทางนาง นางจึงบอกเขาไปว่า "หากลั่วอ๋องไม่มีอะไรแล้ว ชิงเฉินขอตัวก่อนนะเพคะ"
การสั่งให้องค์ชายหลีกทาง เฟิ่งชิงเฉินทำได้อย่างไม่กลัวใคร และทำออกมาได้ดีมาก อำนาจที่ซ่อนอยู่ในตัวนางทำให้คนฟังต้องทำตามที่นางพูด
"ได้สิ......" ตงหลิงจื่อลั่วถอยหลังไป 2 ก้าวเพื่อหลีกทางให้กับเฟิ่งชิงเฉิน
"ขอบพระทัยท่านอ๋อง" เฟิ่งชิงเฉินเดินต่อโดยมีเซี่ยหว่านและตงชิงคอยประคอง นางมุ่งหน้าไปที่สำนักหมอหลวง การแข่งขันในวันนี้ถูกจัดขึ้นที่นั่น
ตงหลิงจื่อลั่วที่ยืนอยู่ข้างหลังได้แต่เหม่อมองเฟิ่งชิงเฉินเดินห่างไปเรื่อยๆ แววตาเขาเต็มไปด้วยความผิดหวังและเศร้าใจ
การแต่งกายที่เลอเลิศ การวางตัวที่ดูสง่างาม ไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินสลัดคราบเด็กสาวในวันวานไปตั้งแต่เมื่อใด แล้วคำถามนี้ก็ได้ให้คำตอบสำหรับข้อสงสัยหลายๆข้อที่ตงหลิงจื่อลั่วเคยคิดจะถามนาง
ตงหลิงจื่อลั่วแหงนหน้ามองแผ่นฟ้าที่สดใส เขาเก็บซ่อนรอยยิ้มที่แสนทุกข์ระทมไว้ไม่ได้อีกแล้ว
เหอะๆ......คนบางคน หากปล่อยให้หลุดมือไปแค่เพียงครั้งเดียว ก็กลับกลายเป็นว่าต้องหลุดลอยไปตราบชั่วชีวิต ยกตัวอย่างเช่นเหยาหวาและเฟิ่งชิงเฉิน
ตงหลิงจื่อลั่วก้มหน้าแล้วเดินไปอีกทางหนึ่ง
เขาไม่อยากเห็นรอยยิ้มอันแช่มชื่นของเฟิ่งชิงเฉินอีกครั้ง ไม่อยากเห็นเฟิ่งชิงเฉินในชุดพระชายา ไม่อยากเห็นท่าทางอันองอาจและเลอเลิศของนางอีก ทุกท่วงท่าที่เฟิ่งชิงเฉินเคลื่อนไหวล้วนตอกย้ำว่าเขากับเฟิ่งชิงเฉินยิ่งเดินต่อไปก็ยิ่งห่างไกลกัน
น้ำเสียงของฮ่องเต้ยังเป็นปกติดี ท่าทางของพระองค์ดูสุขุมและเยือกเย็น นอกจากเฟิ่งชิงเฉินแล้ว คนอื่นๆไม่มีใครรู้เลยว่าเมื่อครู่นี้ฮ่องเต้ทรงพระพิโรธ
"ขอฮ่องเต้จงทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปี" เมื่อบรรดาหมอหลวงยืนขึ้นแล้วก็กล่าวคำถวายพระพรแล้วจึงถอยหลังไป
วันนี้เฟิ่งชิงเฉินโดดเด่นเป็นอย่างมาก อย่าว่าแต่ท่าทีของนางเลย แค่เสื้อผ้าที่นางสวมใส่มาก็ทำให้นางตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนมากมาย
ฮ่องเต้ประทับลงบนพระเก้าอี้ที่ตำแหน่งสูงสุด โดยมีขันทีนำน้ำชาและเครื่องว่างมาถวาย ฮ่องเต้ค่อยๆดื่มน้ำชา เมื่อพระองค์เงยพระพักตร์ขึ้นมาแล้ว สายพระเนตรก็พลันไปจับจ้องเฟิ่งชิงเฉิน และทันใดนั้นเอง สีพระพักตร์ของพระองค์ก็เปลี่ยนไป "ชิงเฉิน การแต่งกายของเจ้าในวันนี้มันจะมากเกินไปแล้ว เด็กๆ ไปกระชากชุดที่แม่นางเฟิ่งสวมใส่ออกมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้"
นี่แหละคือผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ก่อนหน้านี้ยังดีๆอยู่เลย แต่จู่ๆก็อาละวาดเสียอย่างนั้น
"พ่ะย่ะค่ะ" ขันทีในที่นั้นไม่กล้าขัดพระบัญชา พวกเขากรูเข้ามาด้วยท่าทางอันเกรี้ยวกราดหมายจะจับตัวเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ บรรดาหมอหลวงเห็นท่าไม่ค่อยดีก็ต่างมองหน้ากันไปมา แล้วสักพักก็พากันถอยหลังไป
พวกเขารู้แล้วว่าวันนี้เฟิ่งชิงเฉินต้องซวยแน่ คนเราก็ต้องรู้จักวางตัวอย่างเหมาะสม ที่ผ่านมาเฟิ่งชิงเฉินก็ทำได้ดีมาตลอด แต่วันนี้นางทำเกินไปแล้วจริงๆ
แต่ใครเลยจะคิด เมื่อเหลืออีก 3 ก้าวเหล่าขันทีก็จะมาประชิดตัวเฟิ่งชิงเฉินได้แล้วนั้น สาวใช้ข้างๆนางก็รีบออกมาขวาง "พวกเจ้ากล้าหรือ!"
เห็นๆอยู่ว่าเป็นเพียงผู้หญิงที่อ่อนแอ แต่กลับทำให้ผู้ชายกลัวได้ สาวใช้ยืนอยู่หน้าเฟิ่งชิงเฉินเพื่อคอยปกป้องเฟิ่งชิงเฉิน
เฟิ่งชิงเฉินยืนยิ้ม......
คนของเสด็จอาเก้าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ไม่เสียแรงที่พาพวกนางเข้าวังมาด้วยกัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...