อ่านสรุป บทที่ 500 โง่เง่า อายหรือไร? จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บทที่ บทที่ 500 โง่เง่า อายหรือไร? คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เฟิ่งชิงเฉินคิดถึงสิ่งที่เป็นไปได้นับร้อยนับพัน แม้กระทั่งอยู่บนรถม้า นางก็กำลังคิดถึงมาตรการการรับมือในสถานการณ์ต่างๆ
หากว่าเสด็จอาเก้าบังคับให้นางเป็นสาวใช้คอยอุ่นเตียง นางมองผิวเผินก็จะทำเหมือนเชื่อฟัง แต่จะแอบวางแผนแล้วหลบหนี ทิ้งเสด็จอาเก้าเอาไว้ไม่ช้าก็เร็ว
หากว่าเสด็จอาเก้าเสแสร้งแกล้งทำให้นางเชื่อมั่นในเขา ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะให้ตำแหน่งแก่นาง เช่นนั้นนางก็จะยินดีกล่าวกลับด้วยความเขินอายว่านางเชื่อเขา
หากเสด็จอาเก้ากล่าวเตือนอย่างเย็นชาว่า อย่าคิดว่าตนปีนขึ้นไปบนเตียงของเขาแล้วจะทำสิ่งใดได้ตามปรารถนา และกลายเป็นนายหญิงแห่งจวนอ๋องเก้าได้ เช่นนั้นนางก็จะทำเป็นเสียใจกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วกล่าวว่านางสาวไม่ทำเช่นนั้น
หากเสด็จอาเก้ากล่าวว่าทุกอย่างยังคงเป็นดังเดิม ให้เหมือนเรื่องเมื่อคืนนี้ไม่มีวันไม่ได้เกิดขึ้น นางก็จะพยักหน้าทั้งน้ำตา พยายามกล่าวว่าตนจะทำให้ได้
แต่มีสิ่งเดียวที่นางคิดไม่ถึงนั่นก็คือเสด็จอาเก้าใช้ฉากกั้น กั้นเอาไว้ตอนพบกับนาง
เสด็จอาเก้าอายหรืออย่างไร?
เฟิ่งชิงเฉินมองไปยังฉากกันที่อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางงุนงง ดูเหมือนนางอยากจะหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า
หากจะกล่าวว่าอาย ควรจะเป็นนางต่างหากที่อาย เสด็จอาเก้าจะอายทำไมกัน เมื่อเสด็จอาเก้าทำเช่นนี้ทำให้นางไม่รู้ว่าจะอายอย่างไรดี
“แค่กๆ......” เมื่อพบว่าเฟิ่งชิงเฉินยังไม่กล่าวสิ่งใดออกมาเป็นเวลาเนิ่นนาน เสด็จอาเก้าจึงได้กล่าวกระแอมเตือนขึ้น
ด้านหลังของฉากกั้น เสด็จอาเก้าครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ตัวต่ำ ใบหน้าของเขาขาวซีดราวกับกระดาษ ดวงตาลึกล้ำและเงียบงันมองไปมีรอยเส้นเลือด ที่บริเวณท้องก็เต็มไปด้วยเลือดเช่นกัน
นี่คือค่าตอบแทนของการเอาแต่ใจตนเอง
กระถางธูปสองกระถางด้านข้างถูกจุดขึ้น ควันสีขาวลอยขึ้นมา กลิ่นอันดูสูงสง่ากลบกลิ่นเลือดเหล่านั้นทิ้งไป
แม้จะมีเพียงแค่ฉากกันตั้งแต่ให้ความรู้สึกถึงความห่างเหินเหลือเกิน ฉากกันนี้ทำให้ทั้งสองคนดูห่างไกลกัน
“ชิงเฉินคารวะเสด็จอาเก้า ขอให้อายุยืนพันปีพันพันปี” เฟิ่งชิงเฉินได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว นางจัดระเบียบเสื้อผ้ารีบคารวะ
เสด็จอาเก้ารู้สึกหงุดหงิดจนแทบจะกระอักเลือดออกมา ใครสั่งให้นางคารวะเช่นนี้กัน? “ลุกขึ้นเถิด”
“ขอบพระทัยเสด็จอาเก้า” เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ นางกำลังคิดอยู่ว่า หากเสด็จอาเก้าไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาตัวนางเองก็จะไม่เอ่ยเรื่องเมื่อคืนนี้ขึ้นก่อนเช่นกัน
การที่มีฉากกั้นเช่นนี้ อาจหมายความได้ว่าเสด็จอาเก้ารู้สึกเขินอายหรือบางทีอาจจะไม่อยากเห็นหน้านาน ดังนั้นนางจึงต้องระวังไว้เป็นดี เนื่องจากเรื่องเมื่อคืนนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูแปลกประหลาดไป ดีไม่ดีอาจจะกลายเป็นผู้โปรดปรานของเขาก็ย่อมได้
หลังจากผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนมาด้วยกัน โดยมากจะเป็นหญิงที่คอยตามติดชาย ต้องการให้เขารับผิดชอบ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเบื่อและรังเกียจ แต่ในทำนองเดียวกัน...... หากว่าผู้หญิงไม่ได้เอ่ยสิ่งใดขึ้นเลยผู้ชายก็จะรู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน
เมื่อคืนนี้ เขาทำได้แย่มากเลยหรือไง? แย่จนขนาดที่ว่าเมื่อเฟิ่งชิงเฉินพบเขาอีกครั้งแต่ก็กลับไม่กล่าวสิ่งใดเลย
เสด็จอาเก้ารู้สึกว่าหัวใจของเขาดูหดหู่ยิ่งนัก เขาไม่เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บจากภายนอก แต่ได้รับบาดเจ็บจากภายในด้วย เฟิ่งชิงเฉินแทบจะทำให้เขาโมโหแทบคลั่ง เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็นเท่าเฟิ่งชิงเฉินมาก่อน
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชายของนาง
การที่เฟิ่งชิงเฉินไม่มีปฏิกิริยาใดออกมา ทำให้เสด็จอาเก้าโกรธยิ่งนัก แต่เรื่องแบบนี้เขาไม่เคยรับมือมาก่อนไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอย่างไรดี ดังนั้นจึงเลือกที่ไม่เอ่ยถึงมัน แต่กลับกล่าวขึ้นด้วยท่าทางจริงจังว่า “ชิงเฉิน เรื่องการแข่งทักษะทางการแพทย์ ในวันนี้ข้าได้ยินเรื่องราวมาแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลใจไปเรื่องนี้ข้าจะจัดการให้เจ้าอย่างแน่นอน”
หนานหลิงจิ่นฝานนับวันยิ่งหยิ่งทะนงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อการชนะสักครั้งในการแข่งขัน เขากล้าจะใช้กลอุบายลับหลังเช่นนี้ คิดว่าตนป่วยจนแทบตายแล้วหรือไร?
เสด็จอาเก้าพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อนึกถึงท่าทางการแสดงออกที่หลากหลายของเฟิ่งชิงเฉิน เขาก็รู้สึกว่าเป็นจริงดังนั้น เฟิ่งชิงเฉินให้ความสนใจกับความเป็นความตายของชีวิต ส่วนเรื่องอื่นๆ เมื่อเผชิญหน้าอยู่กับความเป็นความตายดูเหมือนนาง จะจัดอันดับไว้ท้าทาย “ข้าคิดมากไปเอง” เสด็จอาเก้าเปลี่ยนทัศนคติเป็นเอ่ยขอโทษ
เฟิ่งชิงเฉินเผยอริมฝีปากแล้วไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา ดังนั้นเมื่อนางคิดว่าชุดของพระชายาอ๋องเก้ามีราคาสูงเครื่องประดับล้ำค่า นางก็นำมาด้วยและเอ่ยขึ้นเพื่อต้องการจะคืนชุดนั้นให้แก่เสด็จอาเก้า
ชุดนั้นไม่เพียงแค่มีค่ามาก อีกทั้งยังบ่งบอกถึงตัวตนได้ หากทำหายล่ะก็นางคงจะแย่
คิดไม่ถึงว่าเฟิ่งชิงเฉินเพิ่งจะเอ่ยเพียงประโยคหนึ่ง ก็ถูกเสด็จอาเก้ากล่าวขัดจังหวะขึ้น “สิ่งที่ข้ามอบให้ไปแล้วจะเอากลับคืนมาได้อย่างไร หากชิงเฉินไม่ต้องการก็จงทิ้งไปเถิด”
สตรีผู้นี้ หากไม่มีเรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้นแล้วนางนำกลับมาคืนเขายังพอรับได้ แต่หลังจากผ่านเรื่องเมื่อคืนนี้มาแล้ว นางยังกล้านำเสื้อผ้ามาคืนอีก ต้องการที่จะขีดเส้นอันชัดเจนกับเขาหรือ?
ให้ตายสิ จริงเลยเชียว!
เฟิ่งชิงเฉินเหตุใดเจ้าไม่เป็นดั่งเช่นสตรีคนอื่นที่มักจะเข้ามารายล้อมพัวพันข้า?
หากไม่ใช่เพราะว่ามีอาการบาดเจ็บที่ร่างกายล่ะก็ เสด็จอาเก้าอยากจะวิ่งไปข้างหน้าแล้วคว้าคอของเฟิ่งชิงเฉินเอ่ยถามว่านางคิดสิ่งใดอยู่กันแน่ ......
เอาทิ้งหรือ?
เพราะนางกลัวว่ามันจะหายไปจึงได้นำมันมาคืนให้แก่เสด็จอาเก้า เสื้อผ้าทั้งชุดนั้นคงจะปลอดภัยกว่าหากอยู่ในจวนอ๋องเก้า ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนางจะต้องเกลี้ยกล่อมคืนชุดนี้ให้แก่เสด็จอาเก้า หากนางต้องนำกลับไปด้วยคงจะเหนื่อยและเป็นภาระ
เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าเสด็จอาเก้ากำลังโมโห นางจึงได้ลดฐานะของตนแล้วกล่าวเบาๆ ว่า “เสด็จอาเก้าเพคะ ชุดนั้นช่างราคาแพงเหลือเกิน หากนำไปไว้ในจวนเล็กด้านข้าง ข้าไม่วางใจเลย หากเป็นไปได้ละก็ขอเสด็จอาเก้าช่วยชิงเฉินจัดเก็บไว้สักระยะหนึ่งได้หรือไม่”
กล่าวเช่นนี้คงไม่ผิดกระมัง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...