นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 551

ความรักอันล้นอกนี้จะเปิดเผยออกมาได้อย่างไร ได้แต่เพียงต้องใช้กลอนหงส์วอนรักถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเท่านั้น

ด้วยคำเหล่านี้ ทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่อาจสงบนิ่งได้อีก นางรู้สึกวิงเวียน ทั้งสมองเต็มไปด้วยเงาของเสด็จอาเก้า ในสมองแม้กระทั่งปรากฏภาพที่เสด็จอาเก้าบอกนางว่า "เพียงหนึ่งหญิงงาม พบครั้งหนึ่งตราตรึงใจ หากวันใดมิเห็นหน้า คิดถึงคะนึงหาไม่รู้วาย..."

เฟิ่งชิงเฉินนอนอยู่บนเตียงราวกับก้อนขนม นางพลิกตัวไปมาจนกระทั่งสาวใช้เตือนนางว่าได้เวลาอาหารแล้ว นางจึงได้โผล่ใบหน้าอันแดงก่ำออกมา

ดวงตาของนางมีหลากหลายอารมณ์ แก้มทั้งสองข้างแดงปลั่ง นางยังเป็นคนเดิมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ยากจะบรรยาย ยามนางขยับตัวเยื้องกราย ความเยือกเย็นก็ได้ถดถอยน้อยลงและมีความเป็นสาวน้อยมากขึ้น ทำให้เหล่าสาวใช้ตกตะลึงพลางแอบคิดในใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดคุณหนูของนางจึงราวกับจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้เยือกเย็นดังยามปกติ นัยย์ตาที่เคยสงบนิ่งฉายแววรักใคร่ ยามเมื่อสบตากับพวกทงเหยาและทงจือก็หลบตาอย่างรู้สึกผิด

เฟิ่งชิงเฉินมักจะรู้สึกว่าเรื่องนี้หากทงจือและทงเหยารู้เข้าจะต้องหัวเราะเยาะนางแน่และหากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไปก็จะทำให้นางเสียชื่อเสียง เพราะอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัว

นางรับประทานอาหารเย็นอย่างลวกๆ จากนั้นนางก็ไล่เหล่าสาวใช้ของนางออกไปและอยู่ในห้องหนังสือคนเดียว ทั้งฝนหมึก ทั้งทับกระดาษ ยกพู่กันขึ้นมาเขียนตัวอักษร แต่เขียนอย่างไรก็ไม่พอใจเสียทีจึงขยำกระดาษเป็นก้อนโยนทิ้งไว้ด้านข้าง

หลังจากคิดไปคิดมาก็ยกพู่กันขึ้นอีกครั้ง แต่เมื่อจรดพู่กันลงไปในครั้งนี้ เฟิ่งชิงเฉินกลับโมโหจนต้องวางปากกาลงและหยิบจดหมายออกมาจากอกเสื้อพลางเปิดออกอย่างระมัดระวัง นางวางมันลงบนโต๊ะและรีดให้เรียบ

นี่เป็นสิ่งที่ชาติที่แล้วและชาตินี้ของนางรวมกันได้รับจดหมายรักเป็นครั้งแรกและยังเป็นชายในดวงใจนางเขียนมาให้ ความรู้สึกสวยงามเช่นนี้ยากนักที่จะใช้ภาษาบรรยายออกมา

เฟิ่งชิงเฉินมองตัวอักษรบนกระดาษและอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

“ตัวอักษรของเสด็จอาเก้าเป็นดังเช่นตัวเขา อักษรองอาจ ลายเส้นมีแรง ลายมือเช่นนี้ใช้เขียนจดหมายรักนับว่าน่าเสียดายนัก”

ตัวอักษรบนนั้น นางคิดว่าล้วนดูดีไปหมด ยกเว้นเพียงแต่คำที่บอกให้นางตอบจดหมาย

สายลับอยู่ด้านนอก เขามองเห็นเฟิ่งชิงเฉินที่กำลังคลั่งรักอยู่เต็มตาและหาวออกมาอย่างเบื่อหน่าย

เขาไม่เข้าใจเลยว่ากระดาษผุๆ เพียงแผ่นเดียวจะมีอะไรดีนักหนา เสด็จอาเก้าก็ทำตัวลึกลับ จำจะต้องมาส่งด้วยตนเองให้ได้ ส่วนเฟิ่งชิงเฉินที่เขาเฝ้าดูมาตลอดทั้งบ่ายจนย่ำค่ำ เพียงแค่ไม่มีคนนางก็จะเอาออกมาดู ดูอย่างไรก็ดูไม่เบื่อ ช่างน่าเบื่อเสียจริง!

อารมณ์ของเฟิ่งชิงเฉินและเสด็จอาเก้าในยามนี้ ไฉนเลยที่สายลับจะสามารถเข้าใจได้ ทั้งสองล้วนไม่ใช่คนที่จะพูดพร่ำคำหวานและคอยออดอ้อนออเซาะอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ทั้งสองเป็นคนที่ทำมากกว่าพูด การปฏิบัติตัวต่อกันในยามปกติล้วนเต็มไปด้วยความเคารพและขาดความอ่อนโยน การส่งจดหมายเช่นนี้ สำหรับพวกเขาแล้วเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ สามารถนำคำพูดที่พวกเขาเขินอายไม่กล้าพูดกับอีกฝ่ายเขียนลงไปในจดหมายทีละคำ

เฟิ่งชิงเฉินถือจดหมายของเสด็จอาเก้า อ่านแล้วก็อ่านอีก คิดแล้วคิดอีก คิดอยู่นานสุดท้ายก็คิดออกว่านางจะเขียนอะไร นางเขียนลงไปด้วยท่าทีอึดอัดแต่ก็อ่อนหวาน เขียนจดหมายลงไปอย่างจริงจัง

ลายมือของนางไม่สวยงาม แต่นางก็ไม่ต้องการเขียนแบบขอไปที เพราะอย่างไรนี่ก็คือจดหมายรักฉบับแรกของนาง มันเป็นสิ่งที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อนางเขียนเสร็จแล้ว นางก็คัดอีกยี่สิบกว่าฉบับจนเมื่อยมือจึงจะวางพู่กันลงอย่างพอใจ

เมื่อรอจนหมึกแห้งแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็พับกระดาษ แต่ในยามนี้นางจึงนึกขึ้นได้ว่านางไม่รู้ว่าจะส่งจดหมายไปให้เสด็จอาเก้าอย่างไร หากส่งไปอย่างโจ่งแจ้งก็เกรงว่าจะดูมิงาม

“ทำอย่างไรดีนะ?” เฟิ่งชิงเฉินถือจดหมายไว้ด้วยท่าทีลำบากใจ สายลับที่อยู่ด้านนอกเฝ้าดูนางจนร้อนใจ อยากจะพุ่งออกมาพูดกับนางว่า แม่นางเฟิ่งอย่าได้กังวลไปเลย เพียงแค่วางจดหมายไว้ตรงนี้ อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมารับไปเอง

นางไม่ได้ทำให้พี่ชายสายลับกังวลอยู่นาน เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจอย่างรวดเร็ว “ในเมื่อเสด็จอาเก้าเอาจดหมายมาส่งที่นี่ได้อย่างไร้ร่องรอย เช่นนั้นเขาก็ย่อมเอาไปได้ด้วย ข้าจะวางจดหมายนี้ไว้ในห้องหนังสือ หากพรุ่งนี้ท่านยังไม่ได้เอาไป ข้าก็จะฉีกมันทิ้งเสีย เฮอะ”

ยามนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้กล่าวโทษที่สายลับไม่ตั้งใจทำงานเลยแม้แต่น้อย เมื่อนางหาซองจดหมายที่ในเมืองนิยมเจอแล้วก็ใส่จดหมายลงไปโดยไม่ผนึกซองและวางที่ทับกระดาษวางทับไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ