ตอน บทที่ 597 ผู้หญิงที่เอาแต่จุดไฟโดยไม่ดับไฟนั้นไม่น่ารักเอาเสียเลย จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 597 ผู้หญิงที่เอาแต่จุดไฟโดยไม่ดับไฟนั้นไม่น่ารักเอาเสียเลย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เสด็จอาเก้าอุ้มเฟิ่งชิงเฉินราวกับกำลังนั่งสมาธิ ปล่อยให้นางขยับตัวบิดไปมา ให้นางกระซิบและเป่าลมหายใจร้อนผ่าวลงที่ซอกคอ เขาก็ยังไม่ขยับเขยื้อน หัวใจนิ่งสงบราวกับน้ำนิ่ง
ไม่ใช่ว่านางมั่นใจมากว่าเขาจะไม่กล้าทำอะไรนางหรือ ไม่เป็นไร ยังมีเวลาอีกมาก วันนี้เขาจะจดบัญชีเก็บไว้ก่อน ต่อไปเขาค่อยมาคิดบัญชีกับนางทั้งต้นทั้งดอก
เหอะๆ … เสด็จอาเก้าไม่สบอารมณ์
เสด็จอาเก้าทั้งรู้สึกหวานชื่นเพลิดเพลินและทรมานไปกับการปรนนิบัติของเฟิ่งชิงเฉิน ไม่ว่าในใจเขาจะพลุ่งพล่านเพียงใด แต่เขาก็บังคับตนเองไม่ให้แสดงอารมณ์ออกมา เขาเป็นดังภูเขาน้ำเเข็งที่มีชีวิต อย่างไรก็ไม่ยอมละลาย
เฟิ่งชิงเฉินแทบจะร้องไห้แล้ว ไม้ตายทั้งหมดนางได้ใช้ออกมาแล้ว แต่เสด็จอาเก้าก็ยังไม่ยอมปล่อยนางไป ฮือๆๆๆ หากบุรุษฉลาดเฉลียวและนิ่งสงบเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก
ยามผู้ชายธรรมดาพบเจอกับเรื่องแบบนี้เข้า เพียงแค่ฝ่ายหญิงออดอ้อนเอาแต่ใจเล็กน้อยก็จะผ่านไปได้ แต่เสด็จอาเก้าไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา ไม่ว่านางจะใช้ไม้อ่อนหรือไม่แข็ง เขาก็ไม่ยอมให้เรื่องราวผ่านไป หญิงสาวคนหนึ่งที่ทำมาถึงขั้นนี้ทำให้นางรู้สึกท้อแท้ยิ่งนัก
เฟิ่งชิงเฉินท้อแท้แล้ว!
เฮ้อ… ยั่วยวนเขามาพักใหญ่ก็ไร้ผล นางเหนื่อยแล้ว นางปล่อยมือลงและหอบหายใจพิงอยู่ในอ้อมอกของเสด็จอาเก้า
จะหยอกล้อหรือออดอ้อนก็ล้วนเป็นงานใช้แรงงาน ตอนนี้นางเหนื่อยจนไม่ไหวแล้ว ร่างของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ นางไม่มีแรงทำอีกรอบแล้ว
เฮ้อ… เสด็จอาเก้าก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างโล่งอก เฟิ่งชิงเฉินยอมแพ้แล้ว หากถูกนางทรมานเช่นนี้ต่อไป ไม่แน่ว่าเขาอาจกลายเป็นสัตว์ร้าย โชคดีที่…
ในที่สุดเขาก็ชนะ!
เสด็จอาเก้ายิ้มเย็น สายตาฉายประกายคมปลาบ เขาต้องการให้นางเสียใจที่ไม่ยอมสารภาพกับเขาเร็วพอ แน่นอนว่าประเด็นสำคัญก็คือต้องทำให้นางเสียใจที่นางหยอกล้อเขาแต่กลับไม่ยอมดับไฟให้เขาด้วย
เรื่องวันนี้ไม่มีทางที่เขาจะปรานี
ไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะได้รับแรงกดดันมากเพียงใดและใช้ความเพียรพยายามมากเพียงใดจึงจะสามารถระงับสัญชาตญาณของตนเองได้ ในเกมความรักระหว่างหญิงชาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเสด็จอาเก้าต่างหากที่เป็นผู้ชนะ
เขาเพียงแค่ถามว่าบาดแผลบนตัวของเฟิ่งชิงเฉินเป็นเรื่องอะไรกัน เฟิ่งชิงเฉินกลับอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมพูด เช่นนั้นก็อย่าได้โทษที่เขาไร้ความปรานี
เสด็จอาเก้าจัดเสื้อให้เฟิ่งชิงเฉิน เขาปล่อยผมของนางในสยายลงทิ้งตัวไปตามน้ำหนักและลูบไล้ไปมาราวกับกำลังแปรงขนให้สัตว์เลี้ยง แรงกำลังดี สบายเสียจนทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งร่าง
ดวงตาของเฟิ่งชิงเฉินปรือลง นางสบายเสียจนครางออกมา ความมีเหตุผลของนางกำลังบอกนางว่าการกระทำแปลกประหลาดของเสด็จอาเก้านี้ต้องมีปัญหาแน่ แต่ทว่า… การลูบไล้ของเสด็จอาเก้านั้นทำให้นางรู้สึกขี้เกียจ ไม่อยากขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
ความมีเหตุผลของนางกำลังบอกนางว่าต้องต่อต้านระเบิดเคลือบน้ำตาลของเสด็จอาเก้า แต่อย่างไรนางก็ทำไม่ลง ใบหน้าของนางประดับไปด้วยความเพลิดเพลินอิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของเสด็จอาเก้า เพลิดเพลินไปกับอาหารมื้อใหญ่มื้อสุดท้ายก่อนตาย
ก่อนจะทำการประหารล้วนให้นักโทษได้กินอาหารก่อนมื้อหนึ่ง การกระทำเช่นนี้ของเสด็จอาเก้าช่างชัดเจนนัก
เฟิ่งชิงเฉินสบายจนหลับตาลง เสด็จอาเก้าพยักหน้าเล็กน้อยอย่างพอใจ เขาก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของนางและพูดด้วยความรักใคร่ “บอกข้ามาว่าระหว่างทางเจ้าพบกับอะไรมาบ้าง พบเจอกับเรื่องยุ่งยากหรือเปล่า?”
แต่ตระกูลหลานที่ปกครองจิ่วโจวมานับพันปีนั้น มีผู้นำที่เก่งกาจผู้ก่อตั้งแคว้น ก็ย่อมมีผู้นำที่หลงมัวเมาไปในสิ่งล่อลวงทุกอย่างเช่นกัน ตระกูลหลานแม้กระทั่งมีจักรพรรดิที่งมงายไปกับการบำเพ็ญตนเป็นเซียนผู้โปรดปรานตระกูลฝู่มากกว่าและคิดไปว่าตนจะกลายเป็นเซียนได้
ตระกูลฝู่จึงอาศัยโอกาสนี้ป่าวประกาศเรื่องการบำเพ็ญตนเป็นเซียน ทำให้ประชาชนไม่ทำมาหากิน ไม่ใช้ชีวิตประจำวันจนท้องถนนเกลื่อนกลาดไปด้วยศพ กระทั่งทำให้จักรพรรดิผู้นั้นแทบจะมอบบ้านเมืองให้อยู่แล้ว
เฟิ่งหลีอ๋องทนดูไม่ได้อีกต่อไป นำทัพบุกมายังเมืองหลวงภายใต้คำสั่งขององค์รัชทายาทและทำลายอารามเทพลง บีบบังคับให้จักรพรรดิสละบัลลังก์และสนับสนุนให้องค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์
แน่นอนว่าเฟิ่งหลีอ๋องและอารามเทพสู้รบกันมากว่าร้อยปี ระหว่างนี้ล้วนผลัดกันแพ้ชนะ ยามนี้มีโอกาสดีอยู่ตรงหน้าเฟิ่งหลีอ๋อง เขาจะปล่อยมันไปได้อย่างไร
เพราะอารามเทพมีภาพลักษณ์อันสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ในใจของปวงชน เฟิ่งหลีอ๋องจึงไม่กล้าสังหารตระกูลฝู่ทั้งหมด เพียงแต่หาข้ออ้างขับไล่พวกเขาออกไปจากอำนาจปกครองของจิ่วโจวเท่านั้น
การฆ่าล้างตระกูลนั้นเกิดขึ้นน้อยนักในราชวงศ์ก่อน โดยเฉพาะเมื่ออำนาจมาอยู่ในมือเฟิ่งหลีอ๋องยิ่งไม่อาจสังหารล้างตระกูล เขาคิดว่าตระกูลฝู่ที่ไม่มีอำนาจแล้วย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
ก่อนที่จักรพรรดิองค์ใหม่จะขึ้นครองราชย์ เขาถูกอารามเทพกดขี่หลายครั้งและเห็นว่าตระกูลฝู่ใช้อำนาจของเทพทำร้ายบ้านเมือง เขาจึงเกลียดชังตระกูลฝู่เป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าเฟิ่งหลีอ๋องจะถอนรากถอนโคนอารามเทพ องค์รัชทายาทจึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ด้วยประการฉะนี้ ตระกูลฝู่จึงถูกตระกูลหลานและเฟิ่งหลีอ๋องร่วมมือกันขับไล่ไปยังเกาะร้างแห่งหนึ่ง พวกเขาประกาศต่อคนภายนอกว่ามอบเกาะสวรรค์ให้ตระกูลฝู่เพื่อไม่ให้คนธรรมดารบกวนพวกเขา ตั้งแต่ที่ตระกูลฝู่เหยียบลงบนเกาะนั้น เกาะนั้นก็ถูกลบออกไปจากแผนที่จิ่วโจวและกลายเป็นของตระกูลฝู่พร้อมทั้งลืมวิธีบำเพ็ญเซียนของพวกเขาไป
แน่นอนว่าไม่ว่าจะพูดให้ดูดีอย่างไรก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าตระกูลฝู่เป็นผู้พ่ายแพ้ในเกมแห่งอำนาจและถูกขับออกไปจากจิ่วโจว แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ได้เปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจในราชสำนัก ไม่มีการคานอำนาจกับระหว่างเฟิ่งหลีอ๋องและอารามเทพ อำนาจของเฟิ่งหลีอ๋องจึงยิ่งขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มากเสียจนขนาดที่ว่าองค์จักรพรรดิไม่อาจต่อต้านได้และทำให้จักรพรรดิเกิดความระแวงขึ้น
หากไม่ได้เป็นเช่นนี้ ตระกูลหลานและเฟิ่งหลีอ๋องคงจะไม่ได้แตกหักกันเร็วถึงเพียงนี้และทำให้เกิดโศกนาฏกรรมตามมา…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...