นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 637

ไม่ว่าปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีจะปฏิเสธอย่างไร เมื่อต้องมาเผชิญกับคนหัวแข็งอย่างเซวียนเส้าฉีเขาเองก็ต้องยอม แต่เป็นการยินยอมที่เขาพึงพอใจมาก

เมื่อเซวียนเส้าฉีนำตำราแพทย์โบราณออกมา ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาเต็มใจที่จะเอาเฟิ่งชิงเฉินมาขาย ขายในราคาที่สูงมาก

เหอะๆ......มีผลประโยชน์อยู่ในมือแล้ว เมื่อเขากลับไปก็จะไปทำการต่อรองกับเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อเซวียนเส้าฉีทราบข่าวนี้แล้วจะทำเช่นไรต่อไปก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้ว

ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยียิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขากลับห้องแล้วไปเก็บสัมภาระให้เรียบร้อย

เขตเผ่าเสวียนเซียวกงไม่ปลอดภัย สู้รีบกลับไปที่หุบเขาซวนยีของเขาจะดีกว่า เขาทนอยู่ที่นี่เพื่อผลประโยชน์ แต่ไม่ได้อยากซวยไปกับชนเผ่าเสวียนเซียวกง

ตกกลางคืน ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีก็ทำตามแผนที่เซวียนเส้าฉีวางไว้ โดยการออกไปจากเขตเผ่าเสวียนเซียวกงพร้อมกับเซวียนเส้าฉี

เช้าวันต่อมา ผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงจึงได้ทราบว่าปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีหายตัวไปแล้ว เขาถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่เนื่องจากเซวียนเฟยอาการดีขึ้นมาก แถมยังดูเหมือนภรรยาสุดที่รักของเขาเมื่อครั้งยังสาวๆ ผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงจึงไม่ได้คิดอะไรมาก ได้แต่เรียกชื่อของอี่โม่ อี่โม่อย่างนั้น อี่โม่อย่างนี้ ทำให้ฮูหยินผู้นำเผ่าแทบคลั่ง แต่ก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้ ได้แต่ฝืนยิ้มเพียงเท่านั้น

ส่วนนายท่านน้อยของเผ่าเสวียนเซียวกง น่าเสียดายนักที่ไม่มีใครมาแยแสว่าเขาจะไปเป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหน เขาจะอยู่หรือหายไป ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ของเผ่าเสวียนเซียวกง

เซวียนเส้าฉีมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของตงหลิง เขาเดินทางห้ามรุ่งห้ามค่ำ โดยไม่ฟังคำทักท้วงของผู้คุ้มกัน เขาใจร้อนมาก ราวกับว่าหากมาช้าไปเพียงวันเดียว เฟิ่งชิงเฉินก็จะอันตรธานหายไป......

ตระกูลชุยและตระกูลหวังจะทำเช่นไรนั้น เฟิ่งชิงเฉินหาได้เก็บมาใส่ใจ เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าตระกูลชุยต้องการใช้โอกาสนี้ในการออกมาทำตามแผน

เฟิ่งชิงเฉินตรวจร่างกายให้ชุยห้าวถิง เมื่อแน่ใจแล้วว่าสภาพร่างกายเขาสามารถรับการผ่าตัดได้แล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่รอช้าเรื่องเวลาผ่าตัด

"ข้าเคยบอกไปแล้วว่า จะต้องใช้เลือดจากคนที่มีชนิดเลือดใกล้เคียงกับของท่าน ท่านหาคนมาได้หรือยัง? ข้าขอย้ำเตือนอีกครั้งนะ ให้หามาหลายๆคนหน่อย เพราะไม่ใช่ว่ามีชนิดเลือดใกล้เคียงกันแล้วจะสามารถนำเลือดมาใช้ได้อย่างลงตัว"

เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าพูดเรื่องการสกัดไขกระดูก เพราะเรื่องนี้มันฟังดูเหลือเชื่อมากเกินไป ชุยห้าวถิงไม่มีทางรับได้แน่ เฟิ่งชิงเฉินจึงหาวิธีอธิบายแบบใหม่ การปิดบังคนไข้ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่หลายๆเรื่องก็ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์

"เหมือนอย่างเจ้าเมืองเย่เฉิงกับท่านเย่ ถึงแม้จะเป็นพ่อลูกกันแท้ๆ แต่ลักษณะเลือดก็ยังเข้ากันไม่ได้เลย ใช่หรือเปล่า?" เมื่อเฟิ่งชิงเฉินพูดเรื่องเลือดขึ้นมา ชุยห้าวถิงก็พอรู้มาบ้างแล้ว หยุนเซียวเคยเล่าเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินไปรักษาเย่เย่ให้เขาฟัง

เป็นการรักษาที่เหลือเชื่อและน่าทึ่ง น่าเสียดายที่ตอนนั้นเขาปวดท้อง จึงไม่ได้อยู่ดูทุกขั้นตอน

"ใช่แล้ว และถึงแม้ว่าเลือดจะเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นพ่อลูกกันเสมอไป" เฟิ่งชิงเฉินกล่าว โชคดีที่คำพูดของนางไปไม่ถึงหูเจ้าเมืองเย่เฉิง มิฉะนั้นเรื่องนี้สนุกแน่

"ข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยววันพรุ่งนี้ข้าจะพาคนมา" ในเมื่อตกปากรับคำว่าจะรักษาแล้ว ชุยห้าวถิงก็จะให้ความร่วมมือกับเฟิ่งชิงเฉินให้มากที่สุด เพราะถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของเขา จะทำเป็นเล่นไม่ได้ แล้วเขาก็รู้สึกชื่นชมในความตั้งใจของเฟิ่งชิงเฉินยิ่งนัก

วันถัดมา เฟิ่งชิงเฉินก็มาพบชุยห้าวถิงตามเวลา เมื่อนางมาถึงแล้วก็ต้องรู้สึกแปลกใจ "สองคนนี้ คนไหนคือ?"

"ก็ทั้งสองคนนั่นแหละ" ชุยห้าวถิงเห็นเฟิ่งชิงเฉินงุนงงก็รู้สึกชอบใจ เขายิ้มจนเห็นฟันเกือบครบทุกซี่

"สองคนนี้เป็นคนตระกูลชุย นี่ท่านโกหกข้าหรือเปล่า?" เฟิ่งชิงเฉินมองคุณชายหยวนซี แล้วจึงหันไปมองหยุนเซียว

ที่แท้ก็ตระกูลเดียวกัน มิน่าล่ะถึงได้สนิทสนมกันเหลือเกิน นางเข้าใจมาตลอดว่าพวกเขาเป็นเพียงสหายที่คุยกันถูกคอเท่านั้นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ