นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 638

เฟิ่งชิงเฉินให้คนที่อยู่แถวๆนั้นออกไปด้านนอกให้หมด พร้อมกำชับกับสายลับว่าให้ยืนเฝ้าไว้ให้ดี ต่อให้ผู้มาเยือนจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ห้ามเขาเข้ามาโดยเด็ดขาด

ในช่วงที่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ เฟิ่งชิงเฉินเกรงว่าเหล่าราชองครักษ์จะบุกมาจับตัวนางไปอีกครั้ง

ครั้งที่แล้ว เนื่องจากบรรดาสายลับไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ บวกกับการที่พวกเขารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินละเอียดรอบคอบ จึงไม่ได้เข้ามาช่วยนางตอนที่ราชองครักษ์บุกมา เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากให้เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก

เฟิ่งชิงเฉินจุดโคมไฟทุกดวงภายในห้องแล้วสวมชุดสีขาว รวบผมให้เรียบร้อย สวมถุงมือ และนำอุปกรณ์จากกล่องยาออกมาวาง

นางนำเลือดของหยุนเซียวและหยวนซีออกมาอย่างละ 5 มิลลิลิตร แล้วทำการตรวจหาแอนติเจนที่เข้ากัน นางหวังว่าระหว่างสองคนนี้ จะมีใครสักคนที่มีแอนติเจนเข้ากับของชุยห้าวถิงได้

เฟิ่งชิงเฉินเปิดกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ แล้วทำการประเมินผลการตรวจร่างกายของคุณชายหยวนซีและหยุนเซียว ผลตรวจของคุณชายหยวนซีออกมาก่อน ข้อมูลทั่วไปถือว่าปกติ ท่าทางหยวนซีจะดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี มีเพียงไขมันในเลือดสูงเล็กน้อย คงเป็นเพราะเขาดื่มเหล้าและทานกับแกล้มมากไปหน่อย แต่ยังดีที่ไม่ส่งผลต่อการบริจาค

เฟิ่งชิงเฉินจดบันทึกผลการตรวจร่างกาย เพราะหากต้องเปิดกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะทุกครั้งเพื่อดูผลก็จะเสียเวลา

คนต่อไป หยุนเซียว

เมื่อถึงคราวประเมินผลของหยุนเซียว ผลลัพธ์ที่ได้ไม่น่าดูเอาเสียเลย เฟิ่งชิงเฉินมองออกว่าการที่ชุยห้าวถิงเรียกหยุนเซียวมาก็เพราะมีจุดประสงค์อื่น เพียงแต่นางแสร้างทำเป็นไม่รู้เรื่อง และยังคงช่วยตรวจสภาพร่างกายให้หยุนเซียว

คุณชายเหล่านี้มักจะทำอะไรอย่างแยบยล เรื่องบางเรื่องแม้จะพูดออกมาตรงๆได้ แต่พวกเขาก็ทำทุกอย่างให้มันอ้อมค้อม

"นี่มันอะไรกัน?"

เมื่อได้เห็นผลตรวจของหยุนเซียว เฟิ่งชิงเฉินก็ตกใจสุดขีด นางนึกว่าหยุนเซียวเป็นโรคทั่วๆไป ไม่นึกเลยว่าจะรุนแรงถึงเพียงนี้

"เนื้องอกในสมอง หยุนเซียวไม่ได้เป็นไมเกรนธรรมดา เขามีก้อนเนื้อที่เติบโตในสมอง เป็นเนื้องอกที่เกิดจากเนื้อเยื่อสมอง และมาจากการแพร่กระจายจากส่วนอื่นๆของร่างกายไปยังส่วนกะโหลก"

"เนื้องอกในสมองของหยุนเซียวเกิดขึ้นจากเนื้อเยื่อสมอง ไม่รู้ว่าเป็นเนื้องอกชนิดดีหรือร้าย หากเป็นเนื้อร้าย ท่าทางหยุนเซียวคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่นาน น่าเสียดาย......กระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะไม่สามารถตรวจอย่างละเอียดได้"

ผลการเรียนวิชาศัลยกรรมหัวใจและสมองของนางถือว่าดีมาก แต่เมื่อมาอยู่ในยุคโบราณ นางไม่อยากรับรักษาคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคประเภทนี้เลย หากการรักษาไม่ได้ผล คนไข้ก็ต้องตายคาเตียงผ่าตัด

เมื่อเห็นข้อมูลโรคของหยุนเซียวแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็อดเป็นกังวลไม่ได้ หากไม่ตรวจเจอก็คงดี แต่นี่ตรวจเจอแล้ว แถมยังเป็นคนที่รู้จักมักจี่กันเสียด้วย นางไม่สามารถมองข้ามได้จริงๆ

"เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยไปหาทางคุยกับหยุนเซียวก็แล้วกัน ดูซิว่าเขาจะว่าอย่างไร หากเขาทำอิดออดเหมือนชุยห้าวถิงก็ช่างเขาเถอะ"

จะว่าไป การที่หยุนเซียวโผล่มาในเมืองหลวงของตงหลิงเช่นนี้ แถมยังพยายามมาพูดคุยกับนาง บางทีเขาอาจจะทำเช่นนี้เพราะอาการป่วยก็เป็นได้ เขาอาจจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้นานแล้ว

ดังนั้น......ไม่มีอะไรให้ต้องลังเลอีกแล้ว

"คุณชายตระกูลชุย คุณชายตระกูลหวังข้าก็รักษามาแล้ว จะรักษาคุณชายตระกูลหยุนอีกสักคนจะเป็นไรไป ก็แค่เนื้องอกในสมองเองนี่นา ภพชาติที่แล้วมาก็เคยรักษามาแล้วตั้งมากมาย การเป็นหมอ ข้อห้ามอันดับแรกก็คือห้ามขี้ขลาด หากขี้ขลาดขึ้นมา แล้วคนไข้จะทำอย่างไร"

เฟิ่งชิงเฉินรวบรวมสมาธิ แล้วทำการตรวจเลือดของหยวนซีและหยุนเซียว ทำไปทำมาจนมืดค่ำ เป็นเหตุให้ทงจือกับทงเหยาร้อนใจยิ่งนัก

คุณหนูของพวกนางไม่ได้ทานอะไรมา 2 มื้อแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงจะไม่ดีแน่

ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็เดินออกมาจากห้อง ทว่านางกลับยกมือขึ้นมาปรามสาวใช้ "เดี๋ยวค่อยว่ากัน ข้ายังมีเรื่องต้องสะสาง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ