นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 699

เสด็จอาเก้าเดินทางมาที่จวนเฟิ่ง ต้องจัดขบวนขนาดใหญ่เช่นนี้ เห็นชัดเจนว่าเขาต้องการให้คนจากจวนเฟิ่งทุกคนออกมาต้อนรับเขา และคนที่เสด็จอาเก้าต้องการเห็นมากที่สุดคือเซวียนเส้าฉี

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใจคับแคบมาก ถึงขนาดรู้สึกหึงเมื่อเห็นคู่แข่งทางใจ แต่เขาซึ่งเป็นคนรักที่ไม่อาจเปิดเผยได้ แน่นอนว่าจะต้องมีการแข่งขันเมื่อพบหน้าคู่หมั้นที่แท้จริง

คนอย่างเซวียนเส้าฉีที่มีเอกลักษณ์ ความสามารถ ความรู้และชื่อเสียง ต้องจัดการเจ้าตัวปัญหานี่ไปก่อน หากไม่สามารถระงับความเย่อหยิ่งของอีกฝ่ายในการพบกันครั้งแรกได้ อาจจะเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน และเสด็จอาเก้าเกลียดปัญหาเหล่านี้ ดังนั้น......

เซวียนเส้าฉี นายท่านน้อยแห่งเซวียนเซียวกง ข้าจะจัดการเจ้าให้ได้ภายในครั้งเดียว และทำให้เจ้าเข้าใจว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะคว้าไปได้ แม้มีสัญญาการแต่งงานแต่ก็เป็นเพียงเหมือนการเล่นของเด็ก

“ถวายบังคมท่านอ๋อง ทรงพระเจริญพันปี พันพันปี”

เป็นไปตามที่เสด็จอาเก้าต้องการ ทุกคนในจวนเฟิ่งรวมทั้งเซวียนเส้าฉีได้ออกมาทักทายเสด็จอาเก้า แน่นอนว่ายกเว้นตระกูลชุย

ชุยห้าวถิงยังนอนอยู่บนเตียงไม่อาจลุกขึ้นมาได้ ส่วนคุณชายหยวนเซีหากไม่จำเป็นจริงๆล่ะก็ เขาจะไม่มาร่วมในสถานการณ์โอกาสเช่นนี้ เนื่องจากสถานการณ์เช่นนี้นั้นต่อให้เป็นเขาก็จำเป็นต้องคุกเข่าลง ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงความเคารพต่ออำนาจของจักรพรรดิ

ไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ แต่การคุกเข่าลงนับเป็นการให้ความเคารพต่ออำนาจขององค์จักรพรรดิ จะละเลยไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็คงลำบากอย่างแน่นอน

เซวียนเส้าฉีนั่งคุกเข่าลงข้างกายของเฟิ่งชิงเฉิน ทั้งสองไม่เพียงแต่มีลักษณะท่าทางที่แตกต่างไปจากคนอื่น แต่ด้วยตำแหน่งที่ค่อนข้างจะโดดเด่นและชัดเจน ดังนั้นเสด็จอาเก้าจึงได้มองเห็นพวกเขาแต่ไกลๆ

ทั้งสองไม่แยกห่างกันเลย!

ดูเหมือนสิ่งที่สายสืบจะรายงานมานั้นเป็นเรื่องจริงไม่ผิดเพี้ยน เจ้าเฟิ่งชิงเฉินไม่ยอมอยู่ห่างจากเฟิ่งชิงเฉินแม้แต่น้อย ราวกับเป็นองครักษ์ผู้คุ้มกันซึ่งจงรักภักดี คอยอยู่เคียงข้างกายเฟิ่งชิงเฉิน ดูแลปกป้องเฟิ่งชิงเฉินไม่ให้สิ่งใดมาระราน

คนที่สามารถทำให้ นายท่านน้อยแห่งเซวียนเซียวกงให้ความคุ้มกันเช่นนี้ได้ก็คงจะมีเพียงเฟิ่งชิงเฉินคนเดียวเท่านั้น

เฟิ่งชิงเฉินโชคดียิ่งนัก นางมีคู่หมั้นตั้งแต่วัยเด็กเป็นนายท่านน้อยแห่งเผ่าเซวียนเซียวกงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธศักดิ์ ช่างทำให้......น่ารำคาญยิ่งนัก

หึ! เสด็จอาเก้าก้าวลงมาจากเกี้ยว รองเท้าสีดำของเขาเหยียบลงไปบนพื้นดัง “ตูม!” ทงจือและทงเหยารู้สึกว่าหัวใจของพวกนางสั่นคลอนอย่างรุนแรง และเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

ด้านนอกจวนเฟิ่งมีคนนับร้อยรายล้อมพวกเขาอยู่ แม้จะไม่ได้ส่งเสียงดังนัก แต่ก็ไม่อาจพูดได้ว่าเงียบสงบ เพราะว่าฝีเท้าของเสด็จอาเก้ากลับทำให้หัวใจของพวกนางดูเหมือนถูกเหยียบและก้องอยู่ในหู

ไม่เพียงแต่ทงจือและถงเหยาเท่านั้น ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ล้วนมีความรู้สึกเดียวกัน ทุกย่างก้าวของเสด็จอาเก้าส่งเสียงแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจของพวกเขา

เฟิ่งชิงเฉินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในใจของนางดูรู้สึกกระสับกระส่าย

ดูเหมือนเสด็จอาเก้าจะไม่มีความสุขเท่าไหร่นัก

หรือว่าเขาจะโทษนางและตั้งใจเดินทางมาเอาผิดนางในวันนี้

แต่จะว่าไปก็คงเป็นเช่นนั้น เสด็จอาเก้าออกมาจากพระราชวังได้ถึงสองวันแล้วนางยังไม่เคยเดินทางไปพบเขาสักหนเดียว แต่จะโทษนางก็ไม่ได้ หลายวันมานี้นางยุ่งอยู่กับการออกตรวจ อีกทั้งเสด็จอาเก้าประกาศว่าไม่พบผู้ใด ซึ่งนางก็ไม่อยากเดินทางไปร้องขอเข้าพบ

เฮ้อ...... เสด็จอาเก้ายังไม่ได้สั่งให้พวกเขาลุกขึ้นยืน ดังนั้นทุกคนจึงไม่กล้าลุกขึ้นยืน เฟิ่งชิงเฉินทำได้เพียงคุกเข่าต่อไป ถึงอย่างไรอารมณ์อันพลุ่งพล่านของเสด็จอาเก้า กล่าวได้ว่าโกรธง่ายหายเร็ว

หลังจากที่เสด็จอาเก้าลงมาจากเกี้ยวแล้ว เขาก็ยืนตัวตรงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเฟิ่งชิงเฉินกล่าวว่า “ลุกขึ้นเถิด”

“ขอบพระมะทายท่านอ๋อง ทรงพระเจริญพันปี พันปี พันพันปี” ทุกคนก้มศีรษะเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง ซึ่งเฟิ่งชิงเฉินเองก็ทำเช่นนั้นด้วย แต่เป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉินอยู่ใกล้เสด็จอาเก้าค่อนข้างมาก เมื่อเห็นท่าทีของเฟิ่งชิงเฉินที่ดูไม่คุ้นชินแบบนี้ ดวงตาของเสด็จอาเก้าก็เผยประกายขึ้น

ชิงเฉินของข้าไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย แม้จะดูเย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ยอมที่จะให้ตนเองกลายเป็นจุดเด่น ขณะที่นางทำตามทุกคน แต่ก็ไม่ลืมที่จะคงไว้ซึ่งลักษณะเด่นของตนเอง

ส่วนเซวียนเส้าฉีน่ะหรือ

เสด็จอาเก้าหันไปเหลือบมองดูเฟิ่งชิงเฉิน สายตาของทั้งคู่ประสานกันแต่กลับไม่มีความรู้สึกปะทุดุเดือด สายตาของทั้งสองคนดูสงบเหลือเกิน ได้แต่จับจ้องมองไปที่อีกฝ่าย แล้วละสายตาไปอย่างเงียบๆ

วีรบุรุษหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมแห่งยุทธจักร ผู้ที่หล่อและดึงดูดสตรีจำนวนนับไม่ถ้วนจะดูแย่ได้อย่างไร แต่แล้วจะทำไมเล่า?

หากไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าที่เป็นคู่หมั้นของเฟิ่งชิงเฉินตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เขาก็ไม่อยากจะเหลียวมองแม้แต่หางตา ต่อให้มีชื่อเสียงโด่งดังเพียงไรก็ไม่เกี่ยวอันใดกับเขา

เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืน ยังไม่ทันที่จะกล่าวสิ่งใดออกมา เสด็จอาเก้าก็ได้เข้าไปกุมมือนางเอาไว้แล้วกล่าวว่า “เข้าไปด้านในเถิด”

ต่อหน้าเซวียนเส้าฉีและผู้คนมากมายจากจวนเฟิ่ง เสด็จอาเก้าเข้าไปจับมือของเฟิ่งชิงเฉินอย่างตรงไปตรงมา แล้วก้าวเดินเข้าไปด้านใน

การกระทำนี้เพียงพอที่จะทำให้เซวียนเส้าฉีเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของเขาและเฟิ่งชิงเฉินแล้ว ต่อให้เอ่ยมากความสักเพียงใดก็แสดงออกไม่ได้ดีเท่ากับการกระทำนี้

เซวียนเส้าฉี เฟิ่งชิงเฉินเป็นสตรีของข้า มือของนางมีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถจับต้องได้ และมือของนางคู่นี้จะมอบให้แก่ข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น

หา! เฟิ่งชิงเฉินตกตะลึง ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองเบิกกว้างและเดินตามหลังเสด็จอาเก้าไปอย่างงุนงง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ