นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 715

โชคดีเพียงอย่างเดียวของเสด็จอาเก้าก็คือ เขาได้ทำการปรับแผนการไปเล็กน้อย ไม่ได้ทำให้ชื่อของเสด็จอาเก้ารั่วไหล และด้วยตัวตนอันลึกลับที่เข้าไปช่วยบรรเทาภัยพิบัติ ทำให้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งซึ่งสามารถรุกและถอยได้ตลอดเวลา

เสด็จอาเก้าไม่คิดจำเรื่องเรื่องนี้อย่างสุดกำลัง ตอนแรกเขาวางแผนแค่อยู่ในตำแหน่งซึ่งสามารถถอยออกได้ตลอดเวลา และตอนนี้มันก็ช่วยพวกเขาจากสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย “แม้พวกเราจะถูกฝู่หลินโจมตีอย่างกะทันหัน แต่ยังดีที่สามารถปกป้องความลับไม่ให้รั่วไหลได้ เรื่องทั้งหมดยังไม่ถึงจุดที่แก้ไขไม่ได้ จริงอยู่ที่พวกเราสูญเสียสิ่งของบางอย่าง แต่อย่างน้อยพวกเราก็ยังไม่สูญเสียชื่อเสียง”

แต่ความไม่พอใจก็ยังคงหลงเหลืออยู่!

พวกเขาลงทั้งแรงลงทั้งกำลังคน เสียทั้งเงินเสียทั้งทรัพยากร พวกเขาจะถึงจุดหมายอยู่แล้วแต่กลับถูกจักรพรรดิแย่งชิงไปเสียก่อน ความรู้สึกนี้เหมือนกับการสร้างบ้านให้ผู้อื่น ไม่ได้อะไรแถมยังต้องจ่ายเป็นจำนวนมาก

“นี่เป็นเพียงเรื่องเดียวที่น่ายินดี” ด้านในและนอกของจวนเฟิ่งล้วนเป็นคนของตนเอง รวมถึงสายลับซึ่งแอบทำการปกป้องอยู่ทั้งวันทั้งคืน ทั้งสองคนจึงไม่ได้ระวังคำพูดอะไรมากมาย แค่ปิดบังส่วนสำคัญบางอย่างเอาไว้เท่านั้น

“ใช่ ถ้าหากมันถูกเผยแพร่ออกไปก่อนเวลา พวกเราคงไม่ต่างอะไรกับตัวตลก ภายใต้แสงศักดิ์แห่งจักรพรรดิ ไม่ว่าพวกเราจะทุ่มเทไปมากเพียงใด สุดท้ายก็ถูกจักรพรรดิทำลายอยู่ดี” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวเย้ยหยันตนเอง คิดไม่ถึงเลยว่าแผนการอันยิ่งใหญ่ซึ่งดำเนินการมาเป็นระยะเวลาครึ่งเดือน สุดท้ายจะมาพ่ายแพ้ให้กับการบูชาฟ้าดินเพียงครั้งเดียว

การชี้นำของพระเจ้า มนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเขาไร้อำนาจต่อต้าน ต่อให้พวกเขารู้ว่าความจริงเป็นเช่นไรแล้วมันมีประโยชน์อะไร พูดความจริงออกไปแล้วมันมีผลอะไร ไม่มีใครเชื่อพวกเขาอยู่แล้ว......

“หลังจากนี้พวกเจ้ายังมีแผนอะไรอยู่อีกหรือไม่? การบรรเทาภัยพิบัติยังคงดำเนินไปต่อหรือไม่?” แม้การบรรเทาภัยพิบัติจะเป็นการช่วยเหลือประชาชน แต่พวกเขาเป็นคนลงเงิน ลงแรง ผลลัพธ์ที่ได้กลับตกอยู่ในมือของจักรพรรดิแต่เพียงผู้เดียว มันทำให้พวกเขาไม่พอใจอย่างมาก แต่การจะมายอมแพ้อะไรครึ่งๆกลางๆมันก็ไม่ใช่เรื่องดี

ซูเหวินชิงส่ายหน้า “ข้าวางแผนจะเคลื่อนย้ายอาหารและธัญพืชที่เหลืออยู่ไปยังหนานหลิงและเป่ยหลิง ที่นั่นยังพอทำการแลกเปลี่ยนได้บ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อชดเชยความเสียหายของพวกเรา” สถานการณ์ภัยพิบัติในตงหลิงดีขึ้นแล้ว ประกอบกับกลยุทธ์ที่จักรพรรดิใช้ การรวมตงหลิงให้เป็นหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป พวกเขาจึงทำได้เพียงก้าวถอยออกมา

“แต่จะให้ถอยแบบนี้ข้ารับไม่ได้” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างโกรธเคือง

พวกเขาลงทุน ลงแรง ช่วยชีวิตผู้ตกเป็นเหยื่อของภัยพิบัติ จักรพรรดิกับฝู่หลินทำอะไร? ใช้ประโยชน์จากผู้รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า จากนั้นแสร้งจัดพิธีบูชาฟ้าขึ้นมา พูดออกมาเพียงไม่กี่คำก็นำความดีความชอบทั้งหมดไป นี่มันช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก

“เจ้ามีความคิดเช่นไร?” พูดตามตรง ซูเหวินชิงเองก็ไม่พอใจเช่นกัน แม้เมื่อวานนี้เขาได้ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเคลื่อนย้ายอาหารไปตั้งแต่เมื่อคืน แต่สถานการณ์เมื่อคืนมันไม่ได้เป็นเช่นนี้ เมื่อคืนเขาคิดว่าวิธีการนี้คือการตอบโต้จักรพรรดิ แต่ตอนนี้ล่ะ?

ต่อให้ตอบโต้กลับไป แต่มันก็เป็นเพียงการโจมตีซึ่งไร้กำลัง มันเป็นความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์และต้องถอยกลับอย่างน่าเศร้า

แน่นอนว่ามีหลายวิธี แต่ในระยะเวลาอันสั้นไม่สามารถทำให้เห็นผลได้ แววตาของเฟิ่งชิงเฉินส่องประกาย มุมปากของนางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ “เหวินชิง ตัวตนลึกลับของผู้คอยช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ สำหรับพวกเราแล้วมันไม่มีประโยชน์เลยงั้นหรือ?”

ซูเหวินชิงไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็พยักหน้าและตอบว่า “ไม่มีประโยชน์แล้ว และในอนาคตเองก็ไม่น่าจะมีประโยชน์เช่นกัน ต่อให้เราช่วยบรรเทาภัยพิบัติได้มากแค่ไหนก็ไม่สามารถเทียบกับจักรพรรดิได้ พูดออกไปก็มีแต่สร้างปัญหาให้ตัวเองเท่านั้น”

หากไม่บรรลุผลตามที่คาดไว้ เจ้าจะยังฝืนทนไปเพื่ออะไร? ชื่อเสียงอันโด่งดังนั้นต้องคู่ควรกับความเป็นจริง แรกเริ่มเสด็จอาเก้าไม่ได้ป่าวประกาศออกไปว่าตนเองคือผู้ให้ความช่วยเหลือในการบรรเทาภัยพิบัติในครั้งนี้ เขาทำเพียงแค่เตรียมพร้อมสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ

เจ้ายกตัวเองเป็นผู้เมตตาอันยิ่งใหญ่ หากในอนาคตมีภัยพิบัติเช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก เจ้าจำเป็นต้องออกหน้ามารับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้น หากเจ้าไม่ก้าวออกมาเจ้าจะกลายเป็นคนหลอกลวง และเจ้าจะจมน้ำตายเพราะน้ำลายของประชาชน

“ในเมื่อใช้ประโยชน์ไม่ได้ งั้นก็มอบชื่อเสียงนี้ให้กับฝู่หลิน บรรเทาภัยพิบัติในตงหลิงต่อไป ให้คนที่ออกไปบรรเทาภัยพิบัติเหล่านั้นเปิดเผย ผู้นำในการช่วยเหลือครั้งนี้คือคุณชายของตระกูลสันโดษ แซ่ฝู่” ทรัพยากรและแรงงานที่ใช้ในช่วงหลังนั้นน้อยกว่าช่วงแรกมาก หากผลักฝู่หลินออกไปรับหน้า มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลว

“แบบนี้เท่ากับว่าเป็นโอกาสที่ทำให้ตัวตนของเขาถูกเปิดเผยใช่หรือไม่?” ซูเหวินชิงรู้ว่าการสร้างชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ให้กับตนเองในโลกใบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นี่ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่สุด พวกเขาสามารถผลักดันให้ฝู่หลินกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงได้ในชั่วพริบตา

นี่พวกเขากำลังช่วยหรือว่าทำร้ายฝู่หลินอยู่กันแน่?

“เจ้าไม่มอบโอกาสให้เขา ด้วยผลงานของเขาในครั้งนี้ จักรพรรดิต้องใช้งานเขาในครั้งต่อไปอย่างแน่นอน และเพื่อเป็นการตอบแทนเขา จักรพรรดิจะต้องมอบทรัพย์สมบัติให้แก่เขา แต่งตั้งเขาในตำแหน่งอันสูงส่ง หากเป็นเช่นนั้นไม่สู้ให้พวกเราเป็นคนลงมือ อย่างไรก่อนหน้านี้พวกเราสูญเสียทรัพยากรไปตั้งมากมาย แต่ไม่ได้อะไรกลับมาแม้แต่น้อย ช่างเสียเปล่าเหลือเกิน”

ตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินต้องการเดิมพันสักครั้ง ไม่ว่าอย่างไรครั้งนี้พวกเขาก็พ่ายแพ้ไปแล้ว 9 ส่วน งั้น 1 ส่วนที่เหลือจะเหลือไว้เพื่ออะไร ไม่สู้เอามันมาเดิมพัน ไม่แน่ว่าอาจจะพลิกสถานการณ์ขึ้นมาก็ได้ หากทำไม่ได้......มันก็ไม่เป็นไร เสียไปแล้วตั้ง 9 ส่วน เสียไปอีก 1 ส่วนมันก็ไม่เห็นเป็นไร

“หากเป็นฝู่หลิน เกรงว่าจักรพรรดิเองก็คงมีความสุขน่าดู” ซูเหวินชิงกล่าวออกมา

เวลาที่หิมะหยุดตกนั้นอยู่ในการคำนวณของฝู่หลิน แต่จักรพรรดิและฝู่หลินคงไม่มีทางยอมรับ แม้ศัตรูจะรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากการกระทำของจักรพรรดิ ไม่ใช่ความศักดิ์สิทธิ์เลยแม้แต่น้อย ต่อให้คนของประเทศอื่นต่างรู้เรื่องราวเหล่านี้ทั้งหมด พวกเขาก็ไม่มีทางพูดออกมา เนื่องจากพูดออกมาก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี

จักรพรรดิของแต่ละประเทศย่อมเข้าใจประชาชน แม้รู้ว่าปาฏิหาริย์ดังกล่าวนั้นจอมปลอม แต่พวกเขาก็ไม่มีทางพูดออกมา เนื่องจากหากเปิดเผยปาฏิหาริย์ของผู้อื่นว่าเป็นเรื่องจอมปลอมในวันนี้ ในวันข้างหน้าปาฏิหาริย์ของเจ้าก็จะถูกเปิดเผยเช่นกัน ดังนั้น......ในจุดนี้ ทุกคนต่างเข้าใจโดยปริยาย มันขึ้นอยู่กับโอกาสและความสามารถของแต่ละคน

และสำหรับฝู่หลิน จักรพรรดิไม่มีทางกำจัดเขาอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่ไม่ถูกกำจัดเท่านั้น แต่ยังจะใช้งานเขาซ้ำอีกด้วย และการจะนำฝู่หลินกลับมาใช้งานอีกครั้งจะต้องมีเหตุผล หากเป็นเช่นนั้นแทนที่จะปล่อยให้จักรพรรดิมอบความดีความชอบให้ฝู่หลินด้วยตัวเอง ไม่สู้พวกเขาเป็นคนมอบให้ คล้องโซ่ตรวนไว้ที่คอของฝู่หลิน

การกระทำเช่นนี้ของเฟิ่งชิงเฉินอาจจะดูบ้าระห่ำเกินไป เหมือนกับการเดิมพันด้วยชีวิต พุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจสิ่งใด ต้องบอกเลยว่านี่ทำให้ซูเหวินชิงใจสั่นเป็นอย่างมาก “เรื่องนี้ข้าจำเป็นต้องถามเสด็จอาเก้าก่อน ข้าตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ