นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 725

เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นดังนี้ มิต้องพูดถึงเฟิ่งชิงเฉิน พวกหวังจิ่นหลิงต่างพากันตกตะลึง

นี่มันเป็นงานศพแบบยิ่งใหญ่

แม้ว่างานศพของแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่งจะเรียบง่าย แต่ก็ยิ่งใหญ่ สามารถจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์

นี่เป็นจิตใต้สำนึกของผู้คนเหล่านี้ แม้ไม่มีใครมาเชื้อเชิญ จัดการโน่นนี่นั่น พวกเขาก็พร้อมยินดีที่จะออกมาส่งแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่งร่วมกับเฟิ่งชิงเฉิน

เรียบง่ายแต่น่าประทับใจ พวกเขา การที่เฟิ่งชิงเฉินแสดงความขอบคุณออกมา ยิ่งแสดงให้เห็นว่าแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่งเป็นบุพการีที่ดี ทั้งยังต้องขอบคุณแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่งที่มีลูกสาวแสนดีเช่นนี้ เมื่อครั้งภัยหิมะตกหนักครานั้น นางได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียรมาช่วยชีวิตผู้คน

เฟิ่งชิงเฉินช่วยชีวิตพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมใจกันส่งแม่ทัพเฟิ่งละฮูหยินเฟิ่ง

หวังจิ่นหลิงคิดว่า ถ้าแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่งมองลงมาจากฟากฟ้า พวกเขาจะต้องภูมิใจกับเฟิ่งชิงเฉิน ลูกสาวของพวกเขาอย่างแน่นอน!

ผู้คนหลายพันคนออกมาอยู่เต็มหน้าจวนเฟิ่ง ทำให้ถนนถูกปิดตาย และเมื่อโลงศพเคลื่อนไปข้างหน้า ฝูงชนก็ถอยออก โดยมิได้ดึงเวลาการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด

ไม่มีใครออกมาเจ้ากี้เจ้าการ ผู้คนที่มาร่วมพิธีก็ถอย หลีกทาง ให้โลงศพเคลื่อนเดินหน้าต่อไป......

ทั่วทั้งถนนมิมีเสียงอะไรอื่น นอกจากเสียงล้อหมุน ทุกคนยืนนิ่งเงียบอยู่ด้านข้าง พวกเขามองดูโลงศพอย่างเงียบ ๆ จนโลงเคลื่อนไปถึงถนนอีกฟาก

เฟิ่งชิงเฉินหันกลับไปเคารพทุกคนที่มายืนส่งพ่อแม่ของเขาอีกครั้ง เฟิ่งชิงเฉินพูดอะไรมิออก และมิรู้ว่าจะถ่ายทอดความรู้สึกนี้ออกมาได้อย่างไร

หลังจากคำนับเสร็จ เฟิ่งชิงเฉินก็หันกลับมา เดินตามหลังไปอย่างเงียบ ๆ

ฝูงชนเคลื่อนตัวช้าๆ มิมีใครปั่นป่วนวุ่นวาย ทุกคนเคลื่อนตามหลังรถบรรทุกโลงศพอย่างช้าๆ จนกระทั่งหยุดที่ประตูเมือง ทุกคนจึงหยุดเคลื่อนไหว

พวกเขามาส่งได้เพียงเท่านี้

ที่ประตูเมือง ตี๋ตงหมิงได้จัดคนไว้เรียบร้อยแล้ว และห้ามให้ผู้ที่มิเกี่ยวข้องเข้าและออกโดยเด็ดขาด

ทุกคนต่างเป็นที่รู้ๆกัน!

ตงหลิงจื่อชุน ซีหลิงเทียนอวี่ และเหยาหวาออกเดินทางช้าไปนิด พวกเขาจึงมิได้ตรงไปที่จวนเฟิ่ง แต่มาดักรอที่ประตูเมือง และเมื่อพวกเขาเห็นภาพแบบนี้ก็พากันตกตะลึง

“เกิดอะไรขึ้น?” ตงหลิงจื่อชุนตะลึงงัน ชี้ไปที่ฝูงชนที่ค่อยๆเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ราวกับว่าเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็นอยู่

เฟิง่ชิงเฉินจัดงานศพที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ จักรพรรดิจะอนุญาตหรือไม่?

“คนเหล่านี้น่าจะมาร่วมพิธีฝังศพแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่งด้วยความเต็มใจ” ซีหลิงเทียนอวี่กล่าวพลางหันไปมองที่เหยาหวา

การแต่งกายของเหยาหวาขัดกับตัวตนของนางนัก

“มากันด้วยใจ? เป็นไปได้อย่างไรกัน?” ตงหลิงจื่อชุนไม่อยากจะเชื่อ เขาลงจากหลังม้าด้วยความงุนงง ส่วนเหยาหวามิได้พูดอะไรออกมา

เพราะนางเข้าใจดีว่า

แท้จริงแล้วคนเหล่านี้มาฝังแม่ทัพเฟิ่งละฮูหยินเฟิ่ง นั่นมิใช่เพราะตัวแม่ทัพเฟิ่งละฮูหยินเฟิ่งเอง แต่เป็นเพราะเฟิ่งชิงเฉิน

นางอิจฉาเฟิ่งชิงเฉิน ทำไมเด็กกำพร้าอย่างเฟิ่งชิงเฉิน ถึงได้รับความรักจากผู้คนมากมาย ทำไมนางถึง...

เหยาหวารับมิได้ สายตาของนางเปลี่ยนไป ซีหลิงเทียนเหล่ยเห็นเหยาหวาเป็นเช่นนี้ก็ถอนหายใจออกมา

เหยาหวาคือดอกไม้สีขาวที่ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียน

ซีหลิงเทียนอวี่และเหยาหวาลงจากหลังม้าเช่นกัน ทั้งคู่มิได้สนใจในคำพูดของตงหลิงจื่อชุน เพราะตงหลิงจื่อชุนคงไม่เข้าใจเฟิ่งชิงเฉิน แต่พวกเขาเข้าใจดี

จากสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินทำจึงมิน่าแปลกใจที่นางจะได้รับสิ่งเหล่านี้

บางทีการให้ก็มิได้หวังผล เฟิ่งชิงเฉินมิได้คาดหวังว่าการช่วยเหลือของนางจะได้รับคำขอบคุณจากใจจริง

แต่จู่ๆขบวนก็ต้องหยุกเพราะทั้งสามขวางทางไว้

ก่อนที่ตงหลิงจื่อชุนจะพูดออกมาว่า เฟิ่งชิงเฉินก็พูดขึ้นว่า “ชุนอ๋อง คุณชายเทียนอวี่ องค์หญิงเหยาหวา พวกท่านทำอะไรกัน? ถ้ามิมีเรื่องอันใด ข้าก็ขอทางผ่านด้วย"

เฟิ่งชิงเฉินเป็นคนเดียวที่สามารถให้ทั่งสามหลีกทางได้

“เรามาที่นี่เพื่อดส่งแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่ง” ตงหลิงจื่อชุนไม่โกรธ เขาเห็นเฟิ่งชิงเฉินดวงตาบวมแดง ใบหน้าซูบ จิตใจดูปวดร้าว

ถ้าไม่ได้ข่าวจากองค์หญิงเหยาหวา เขาคงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเฟิ่งชิงเฉินพบกระดูกพ่อแม่ของเธอแล้ว ช่วงนี้เขาพลาดข่าวสารไปมากมาย

“มาส่งพ่อกับแม่ของข้า?” เฟิ่งชิงเฉินมิเชื่อ สายตาของนางจับจ้องไปที่องค์หญิงเหยาหวา

สำหรับซีหลิงเทียนอวี่และตงหลิงจื่อชุนนางเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น แต่มิใช่สำหรับองค์หญิงเหยาหวา?

เห้อ......ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังอีกอย่าง หวังว่าองค์หญิงเหยาหวาคงจะมิก่อปัญหา

“ใช่ ข้ามาที่นี่เพื่อส่งแม่ทัพเฟิ่งและฮูหยินเฟิ่ง” ตงหลิงจื่อชุนมิได้เป็นคนเขลา เขาพูดสิ่งที่เขาต้องการพูด ส่วนซีหลิงเทียนอวี่ก็พูดต่อ “ข้ามากับเหยาหวา"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ