นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 732

เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ในเมื่อออกจากเมืองมาอย่างลับ ๆ เพื่อมุ่งเข้าสู่ยุทธจักร แน่นอนว่าจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนของยุทธจักรและแฝงตัวเข้าไป

เสด็จอาเก้า หวังจิ่นหลิงเปลี่ยนจากเครื่องแต่งกายอันสูงส่งในคราบของราชวงศ์ ทั้งสองสวมเสื้อผ้าธรรมดา เก็บซ่อนรัศมีอันทรงพลัง แต่งตัวให้เหมือนกับคนของยุทธจักร

น่าเสียดาย......องค์ชายก็คือองค์ชาย คนบ้าระห่ำก็คือคนบ้าระห่ำ สวมเสื้อผ้าชั้นดีมาตั้งแต่กำเนิด ไม่ว่าจะแต่งกายอย่างไรก็ดูไม่เหมือนคนของยุทธจักรที่ดูมุทะลุ แม้ทั้งสองจะสวมเสื้อผ้าธรรมดาทั่วไป แต่พวกเขาก็ยังเป็นคุณชายแห่งตระกูลใหญ่ แต่ว่า.....

ด้วยดาบยาวในมือ ทำให้ความสง่างามของทั้งสองลดลง ดูหยาบกร้านมากขึ้น มองแล้วดูเหมือนศิษย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่เดินทางออกมาจากสำนักซึ่งมีชื่อเสียงเพื่อทัศนาจร

แล้วเฟิ่งชิงเฉินล่ะ?

จะให้ผู้หญิงปลอมตัวเป็นผู้ชายมันก็พอเป็นไปได้ แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไรก็คงทำให้เหมือนผู้ชายโดยสมบูรณ์ไม่ได้ ร่างกายที่สูงใหญ่ ความแข็งแกร่งและดุร้ายของอารมณ์มันไม่เพียงพอ เฟิ่งชิงเฉินไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องแต่งตัวเป็นชาย นางแค่อยากจะแต่งเป็นผู้ดีจากสำนักดังที่เดินทางมากับพี่ชายทั้งสองคน แต่ผลลัพธ์ที่ได้......

ไม่รู้ว่ารัศมีของอีกฝ่ายทรงพลังมากเกินไปหรือรัศมีของนางอ่อนเกินไป ไม่ว่ามองอย่างไรก็รู้สึกเหมือนว่านางเป็นผู้ติดตาม เดินอยู่ระหว่างเสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิง ถูกรัศมีของทั้งสองคนบดบัง ยิ่งมองก็ยิ่งด้อยค่า

เฟิ่งชิงเฉินเองก็ต้องการแก้ไขเช่นกัน แต่รัศมีของเสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิงนั้นแข็งแกร่งเกินไป ทำให้รัศมีของนางถูกปิดกั้นโดยตรง ในเมื่อเทียบกับพวกเขาไม่ได้ งั้นก็เปลี่ยนมาเป็นผู้ติดตามก็ได้ อย่างไรตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาที่นางจะเปิดเผยตัว

ใช่......เหตุผลที่เฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนจากศิษย์ผู้สูงส่งของสำนักมาเป็นผู้ติดตาม นั้นก็เพราะการแต่งการของนาง เพื่อไม่ให้ตนเองถูกเปิดเร็วเกินไป เฟิ่งชิงเฉินจึงทำให้ใบหน้าของตนเองดำคล้ำ หลังจากนั้น......นางก็วาดรอยแผลบนใบหน้าของนางหนึ่งรอย ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่มันก็สามารถทำให้คนอื่นไม่มองหน้านางซ้ำเป็นครั้งที่สอง

ใบหน้าของนางดูแข็งแกร่งและก็เหมือนเป็นผู้นำมาซึ่งหายนะในเวลาเดียวกัน นางเชื่อว่าผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงไม่มีทางรู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน แต่ภรรยาของผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงนั้นต่างออกไป

นางกับเซวียนเฟยคล้ายกันมาก ภรรยาของผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงไม่ว่าจะเป็นเพราะการฆ่าปิดปากหรือการแก้แค้นให้เซวียนเฟย ก็ไม่มีทางยอมให้นางใช้ชีวิตอยู่ในเผ่าเสวียนเซียวกง

ในพระราชวัง การที่ภรรยาของผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงคิดจะสังหารนางนั้นถือเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อออกจากเมืองและเข้าสู่ยุทธจักร เข้าสู่ดินแดนในอำนาจของเผ่าเสวียนเซียวกงภรรยาของผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงคิดจะสังหารนาง นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น เฟิ่งชิงเฉินจึงปกปิดใบหน้าของนางทันทีเมื่อเดินทางออกจากเมือง

ในตอนที่เสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิงเห็นหน้านาง ทั้งสองต่างตกใจ เสด็จอาเก้ากล่าวออกมาว่า “นี่เจ้าไม่เชื่อว่าข้าสามารถปกป้องเจ้าได้อย่างนั้นหรือ?”

เสด็จอาเก้าไม่พูดอะไรมากกว่านั้นและต้องการล้างหน้าของนาง แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับไม่ให้ความร่วมมือ “แบบนี้มีอะไรไม่ดี สิ่งที่อยู่บนใบหน้าของข้าไม่ได้ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด แถมยังสามารถป้องกันความหนาวเย็น ไม่ให้ใบหน้าของข้ากลายเป็นน้ำแข็ง ออกมาด้านนอกในวันที่อากาศเย็นจนเป็นน้ำแข็งเช่นนี้ ถ้าใบหน้าของข้าเสียหายขึ้นมา แบบนั้นคงไม่คุ้ม

อีกอย่างการปลอมตัวเพียงเล็กน้อยของข้าไม่เพียงแค่สามารถหลบหลีกจากปัญหาที่ไม่จำเป็นได้ แต่ยังทำให้ข้าไม่ต้องกังวลว่ารูปลักษณ์ของข้าจะไปดึงดูดใคร พวกท่านทั้งสองต้องการหรือไม่ ด้วยรูปลักษณ์ของพวกท่านมันดึงดูดผู้หญิงเหลือเกิน จิ่นหลิงกับเผ่าเสวียนเซียวกงมีความแค้นต่อกัน มันก็เพราะใบหน้านั้นไม่ใช่หรือไง”

ใกล้ถึงวันปีใหม่แล้ว เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากออกไปด้านนอกด้วยใบหน้าที่เจ็บปวดเพราะถูกแช่แข็ง

“ขอบคุณมากชิงเฉิน แต่ข้าไม่จำเป็นต้องใช้ ผู้หญิงแบบเซวียนเฟยมีแค่คนเดียวเท่านั้น” หวังจิ่นหลิงปฏิเสธอย่างสุภาพ หวังจิ่นหลิงมีความภูมิใจของหวังจิ่นหลิง ต่อให้เขารู้ว่าใบหน้าของเขาอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องผู้หญิงได้ง่าย เขาก็ไม่มีทางพูดมันออกมา และไม่มีทางปกปิดมันเป็นอันขาด

ในสายตาของเฟิ่งชิงเฉินนี่คือการหลีกเลี่ยงปัญหา แต่สำหรับพวกเขา มันเป็นสัญญาณของความขี้ขลาดและขาดความมั่นใจในตนเอง ในเมื่อเขาใช้ฐานะของหวังจิ่นหลิงในการออกเดินทาง ถึงต่อให้ตายก็ไม่มีทางปลอมแปลงใบหน้าเป็นอันขาด นอกเสียจากเขาออกมาจากเมืองด้วยตัวตนอื่น

เสด็จอาเก้ากวาดสายตามองใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินทั้งซ้ายและขวา สุดท้ายหันหน้าหนีและกล่าวว่า “เจ้าชอบของเจ้าก็ดีแล้ว”

น่าจะเป็นเพราะประโยคสุดท้ายที่เฟิ่งชิงเฉินพูดออกมา เสด็จอาเก้าจึงเห็นด้วยกับการปลอมตัวของเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนตัวเขาเองล่ะ?

เนื่องจากเขาใช้สถานะของเสด็จอาเก้าในการเดินทางมายังเผ่าเสวียนเซียวกง แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

เฟิ่งชิงเฉินปลอมตัวเป็นอันเรียบร้อย ถึงคราวออกเดินทาง ก่อนออกเดินทางหวังจิ่นหลิงขี่ม้ามาด้านข้างของเฟิ่งชิงเฉิน หยิบถุงมือหนานุ่มออกมาหนึ่งคู่ “ชิงเฉิน ใส่เอาไว้ มือจะได้ไม่เป็นอะไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ