นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 773

เสด็จอาเก้ากำลังรอโอกาส ต้องการช่วยเหลือเฟิ่งชิงเฉินจากชาโดว์ ชาโดว์เองก็กำลังรออยู่เหมือนกัน รอให้เสด็จอาเก้าลงมือ หลังจากนั้นก็จับเสด็จอาเก้าทั้งเป็น

ชายทั้งสองถูกเชื่อมโยงกันโดยเฟิ่งชิงเฉิน แต่ละคนต่างมีความคิดอยู่ในใจ พวกเขาต้องการเอาชีวิตของอีกฝ่าย เห็นเสด็จอาเก้าไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ชาโดว์มองข้ามเฟิ่งชิงเฉิน พูดกับเสด็จอาเก้าออกมาว่า “ตงหลิงจิ่ว ขอแค่สามารถจับเจ้ากลับไปโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ ใครจะลงมือทันก็ไม่สำคัญ เมื่อเทียบกับเสด็จอาเก้า ชาโดว์อย่างข้ามันจะเป็นได้แค่ตัวอะไร?”

ไม่มีใครมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของชาโดว์ แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรัศมีอันเยือกเย็น ทำให้ไม่มีใครกล้าจับจ้อง

“คนที่อยากจับเป็นข้านั้นมีต้องมากมาย แต่น่าเสียดายที่ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จ” เสด็จอาเก้าเองก็มองข้ามเฟิ่งชิงเฉินไปเช่นกัน เขาจับจ้องไปยังชาโดว์ ตอนนี้เขาต้องละความสนใจจากเฟิ่งชิงเฉิน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะวุ่นวายไปหมด

“ไม่มีใครทำสำเร็จงั้นหรือ ข้าเป็นคนชอบอะไรยาก ๆ เสียด้วย ตงหลิงจิ่ว เจ้าจะยอมจำนนด้วยตัวเอง หรือว่ารอให้ข้าสังหารนางก่อนแล้วค่อยมาจัดการกับเจ้า” ชาโดว์ยกมือขึ้น มองมายังเฟิ่งชิงเฉินด้วยสายตาอันเยือกเย็น จากนั้นก็มองหน้าเสด็จอาเก้า แกว่งไปแกว่งมาอย่างจงใจเพื่อเป็นการกระตุ้นเสด็จอาเก้า

ดวงตาของเสด็จอาเก้าเป็นประกาย แทนที่จะมองไปทางเฟิ่งชิงเฉิน เขาละสายตาไปทางอื่น เผชิญหน้าและพูดกับชาโดว์ว่า “เจ้าจะลองดูก็ได้ หากสังหารนาง ข้าจะฝังแผ่นดินซีหลิงแห่งนี้”

คำขู่ใครก็พูดออกมาได้ แต่เสด็จอาเก้าและชาโดว์ต่างเข้าใจดี พวกเขาไม่ได้ขู่อีกฝ่าย แต่พวกเขาสามารถทำเช่นนั้นได้จริง แววตาของชาโดว์มีความเคร่งขรึม ใช้แรงบีบคอของเฟิ่งชิงเฉินมากขึ้นอีกครั้ง

“ฮื้ม ฮื้ม......” รู้สึกหายใจไม่ออก เฟิ่งชิงเฉินพบว่าสมองของนางขาดออกซิเจน อาการของนางกำลังเข้าขั้นวิกฤต นางกำลังจะหมดสติ นางไม่อยากจะร้องออกมาด้วยความกลัว ดังนั้นจึงอดทนและส่งเสียงพึมพำออกมาแทน

สีหน้าของเสด็จอาเก้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวัง แต่ไม่ได้ละสายตาไปจากชาโดว์

ฮึฮึ......ชาโดว์ส่งเสียงหัวเราะออกมา แรงที่มือของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เฟิ่งชิงเฉินทนไม่ไหวแล้ว นางแลบลิ้นออกมา และมือที่ถือปืนอยู่ก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

เฟิ่งชิงเฉินคิดมาตลอดว่าจะยิงใส่ชาโดว์ หรือไม่ก็โยนปืนไปให้เสด็จอาเก้า แต่มือทั้งสองข้างของนางกลับไม่มีแรง แค่ถือปืนไว้ก็เต็มกลืนแล้ว และเมื่อชาโดว์ออกแรงมากจนเกินไป ทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่สามารถทนต่อไปได้อีก ปืนในมือของนางหล่นลงพื้น

“ปัง......” เสด็จอาเก้าและชาโดว์เคลื่อนไหวในพร้อมกัน เสด็จอาเก้าเร็วกว่าชาโดว์อยู่หนึ่งก้าว ยื่นมือออกไปคว้าปืน แต่ชาโดว์กลับใช้วินาทีนั้นในการออกแรงเพิ่ม ทำให้เฟิ่งชิงเฉินทนไม่ไหวและร้องพึมพำออกมาอีกครั้ง

บัดซบ!

เสด็จอาเก้ารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังขู่ หากเขาสามารถหยิบปืนบนพื้นขึ้นมา วินาทีนั้นก็คงเป็นวินาทีแห่งความตายของเฟิ่งชิงเฉิน

เขารู้ว่าอีกฝ่ายจะทำจริง เขาจึงต้องถอย!

เสด็จอาเก้าปล่อยปืนที่อยู่ในมือ จากนั้นถอยกลับมา ชาโดว์หยิบปืนจากบนพื้นขึ้นมา ถือไว้ในมือต่อหน้าเสด็จอาเก้า พลิกดูกลับไปกลับมาอย่างเย่อหยิ่ง แต่หลังจากมองดูมันเป็นเวลานาน เขาก็ไม่รู้ว่าของสิ่งนี้มันใช้งานอย่างไร

ตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินกลอกตา ตาของนางแทบจะปลิ้นออกมา นางไม่มีแรงที่จะไปคิดว่าเมื่อชาโดว์ได้ปืนไปแล้วจะเป็นเช่นไรต่อไป

ชาโดว์เล่นกับมันอยู่พักหนึ่ง เล็งกระบอกปืนมาที่ตนเองอยู่หลายครั้ง สายตาของเสด็จอาเก้าเยือกเย็น แม้รู้ว่าอีกฝ่ายสามารถยิงใส่เขาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้ แต่เสด็จอาเก้าก็ไม่คิดว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น เพราะในสถานการณ์เช่นนี้มันเป็นไปได้ยากมาก

เสด็จอาเก้ายังคงเฝ้ารอต่อไป เฝ้ารอโอกาสที่จะช่วยเหลือเฟิ่งชิงเฉิน ส่วนสถานการณ์ของเฟิ่งชิงเฉินในตอนนี้ ดูแล้วน่าจะทนต่อไปได้อีกไม่ถึงหนึ่งก้านธูป หากไม่ใช่ว่าเขาใช่ซีหลิงในการข่มขู่อีกฝ่าย ชาโดว์คงไม่มีทางยั้งมือกับเฟิ่งชิงเฉิน

แม้ชาโดว์ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการใช้กลไก แต่เขาก็เป็นผู้ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการสังหารมาหลายปี เมื่ออยู่กับปืนมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ยิงมันออกมาจนได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ