นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 790

หลังจากทงจือจากไปแล้ว เฟิ่งชิงเฉินปิดประตูห้องผ่าตัด จุดตะเกียงทั้งหมดในห้องผ่าตัด ดึงตู้ที่ฝังอยู่ในผนังออกมา นำยาและเครื่องมือแพทย์ออกมาใช้

อย่ามองว่าจั่วอั้นเป็นคนเย็นชา หยิ่งยโส เห็นแก่เงิน หรือโหดร้าย ในความเป็นจริงเขาเป็นคนที่ห่วงใยมากที่สุด สำหรับเรื่องซึ่งเฟิ่งชิงเฉินเตรียมไว้เพื่อต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ จั่วอั้นได้หาเหตุผลเอาไว้ให้ซือสิงเรียบร้อยแล้ว

จั่วอั้นรู้ว่าการที่เฟิ่งชิงเฉินซึ่งเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว จะให้มาดูแลผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บคงไม่สะดวกเท่าไหร่นัก เขาไม่เพียงแค่ช่วยตรวจสอบอาการบาดเจ็บของซุนซือสิง แต่ยังถอดชุดนักโทษอันหยาบกร้านบนร่างของซุนซือสิงออกให้ด้วย และเปลี่ยนเป็นผ้าสะอาด เพื่อสะดวกต่อการรักษาของเฟิ่งชิงเฉิน และทำให้ซุนซือสิงสบายตัวขึ้นด้วย......

เสื้อผ้าไหมเนื้อนุ่มจะไม่ติดกับบาดแผล ซึ่งมันสามารถช่วยเสียดสีระหว่างเสื้อผ้ากับบาดแผลได้ ด้วยเหตุนี้หากเฟิ่งชิงเฉินมั่นใจว่าจั่วอั้นสามารถเก็บความลับได้ นางยินดีที่จะบอกถึงวิธีสร้างระเบิดเทียนเหล่ยให้จั่วอั้นได้รับรู้

แม้เรื่องที่จั่วอั้นทำให้ซุนซือสิงจะไม่ได้มากมายอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็ยังรู้สึกเป็นห่วงซุนซือสิง หากไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง เฟิ่งชิงเฉินคงไม่เชื่อว่าจั่วอั้นจะมีด้านนี้อยู่ในใจด้วย

ยกเสื้อผ้าของซุนซือสิงขึ้น เฟิ่งชิงเฉินเห็นว่าบาดแผลบนร่างกายของซุนซือสิงซือสิงทั้งหมดถูกทำความสะอาดเป็นอันเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำยา จากร่องรอยที่เหลือไว้บนบาดแผล เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจว่าคนจัดการบาดแผลเหล่านี้ไม่ใช่ทงจืออย่างแน่นอน แม้ว่าทงจือจะสามารถทำความสะอาดบาดแผลได้ แน่นางก็ไม่มีทางทำได้รวดเร็วและพิถีพิถันเช่นนี้

จั่วอั้นไม่เพียงแค่ใส่ยาลงบาดแผลของซุนซือสิงเท่านั้น แต่เขายังทำความสะอาดบาดแผลบนร่างกายของซุนซือสิงอย่างพิถีพิถัน เศษผิวหนังซึ่งติดอยู่กับบาดแผล ทั้งหมดถูกจัดการอย่างเรียบร้อย ดูจากคมมีด เห็นได้ว่าเป็นการลงมือที่รวดเร็วและแม่นยำ นอกจากจั่วอั้นแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็นึกถึงใครไม่ออกอีกเลย

เลือดและสิ่งสกปรกบนบาดแผลถูกเช็ดออกอย่างระมัดระวัง หลักฐานคือเศษซากสำลีที่วางอยู่บนโต๊ะ คนที่ทำเรื่องพวกนี้ได้ในตอนนี้มีแค่จั่วอั้นคนเดียวเท่านั้น เนื่องจากจิตใจของทงจือยังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย นางไม่น่าจะคิดถึงเรื่องพวกนี้ได้

เมื่อเห็นบาดแผลซึ่งถูกทำความสะอาดเป็นอย่างดี เฟิ่งชิงเฉินต้องบอกเลยว่านอกจากจั่วอั้นจะเป็นสุดยอดมือสังหาร เขายังเป็นผู้ทำความสะอาดบาดแผลที่ดีที่สุด แม้จะเป็นเฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่พบข้อบกพร่องแต่อย่างใด

“เจ้าเป็นเด็กที่โชคดีอย่างที่คิด แม้แต่จั่วอั้นที่เป็นมือสังหารผู้เยือกเย็น ยังให้ความสนใจและเป็นห่วงเจ้า” เฟิ่งชิงเฉินลูบศีรษะของซุนซือสิงอย่างอ่อนโยน แววตาซึ่งไม่เข้ากับวัยของนาง มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความเจ็บปวด

ร่างกายที่อายุ 16 ปีของนางไม่สามารถปกปิดจิตวิญญาณแห่งความเป็นผู้ใหญ่วัย 27 ปีของนางได้ ในสายตาของนาง ซือสิงคือน้องชายที่คู่ควรกับความพยายามทั้งหมดของนางที่จะปกป้อง

จัดการบาดแผลภายนอกเป็นอันเรียบร้อย เฟิ่งชิงเฉินเชื่อในการตัดสินของจั่วอั้น ร่างกายของซือสิงไม่ได้ถูกล่วงละเมิด ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำการตรวจซ้ำ

ซือสิงเริ่มมีไข้ ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บภายนอกหรือผลกระทบจากอาการบาดเจ็บในสมอง เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกกังวล ท่าทางของซือสิงในตอนนี้ดูแย่มาก อาการบาดเจ็บที่สมองได้ส่งผลกระทบต่อส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเขาแล้ว

รูม่านตาของซุนซือสิงแคบลง ปฏิกิริยาต่อแสงของเขาช้าลง ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น และอัตราการเต้นของหัวใจช้าลง อาการเหล่านี้เป็นอาการของโรคเลือดคลั่งในสมอง แม้อาการที่แสดงออกมายังไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจในทางเวชศาสตร์ แต่มันก็เพียงพอที่จะบอกว่าสมองของซุนซือสิงได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง

เฟิ่งชิงเฉินตัดสินใจรักษาอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของซุนซือสิงก่อน ส่วนเรื่องเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน ตอนนี้ยังมีเวลาไม่มากพอ อีกอย่างนางไม่ชำนาญในเรื่องของอายุรศาสตร์ หากเป็นไปได้นางต้องการให้ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีมารักษาอาการบาดเจ็บของซุนซือสิง เนื่องจากนางต้องการทำให้ซุนซือสิงกลับมาอยู่ในสภาพซึ่งสมบูรณ์ที่สุด

อาการบาดเจ็บในสมองของซุนซือสิงรุนแรงมาก เลือดคั่งในสมอง นางเหลือบมองเวลาบนกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืน ก่อนถึงรุ่งสางก็พอมีเวลาอีกประมาณเจ็ดชั่วโมง นางต้องการทำ CT scan ให้ซุนซือสิงโดยเร็วที่สุด เพื่อยืนยันแหล่งที่มา และตำแหน่งของเม็ดเลือด เนื่องจากมันมีผลต่อการผ่าตัดเพื่อเปิดกะโหลก

เจ็ดชั่วโมง มีเพียงแค่ตัวคนเดียว แถมยังต้องตรวจร่างกายก่อนการผ่าตัด เห็นได้ชัดว่าเวลาไม่เพียงพอ แต่จากอาการของซุนซือสิง จะให้รอต่อไปก็ไม่ได้ หากรอต่อไปซุนซือสิงอาจมีอันตรายถึงชีวิต

ชีวิตของซือสิงสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น เรื่องการฟ้องร้องกับศาลต้าหลี่ในวันพรุ่งนี้ คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทงเหยาและทนายของตระกูลหวัง

เฟิ่งชิงเฉินตัดผมทั้งหมดของซุนซือสิงออก เริ่มการทำงานของกระเป๋าเครื่องมือแพทย์เพื่อตรวจสอบสมองของซุนซือสิง ระบุตำแหน่งที่มีเลือดคั่งในสมอง ขณะรอผลการตรวจ เฟิ่งชิงเฉินได้จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับผ่าตัดให้ซุนซือสิง และจากกระบวนการดังกล่าว ซุนซือสิงไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นขึ้นมา และสัญญาณชีพของเขาก็ดูผิดปกติ

“ซือสิง เจ้าจะต้องอดทนต่อไป หากทิ้งอาจารย์ไว้คนเดียว อาจารย์คงรู้สึกเจ็บปวดและเดียวดาย” ก่อนฉีดยาชา เฟิ่งชิงเฉินพูดออกมาข้างหูของซุนซือสิง

นางเป็นหมอ นางต้องมีเหตุผลและใจเย็น แต่คนซึ่งนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดคือญาติของนาง ก่อนลงมือผ่าตัด จะให้นางรู้สึกเหมือนกับผ่าตัดคนทั่วป่วยทั่วไปได้อย่างไร

“ซือสิง อาจารย์จะช่วยอย่างเต็มที่เพื่อให้เจ้ามีชีวิตอยู่ เจ้าเองก็ต้องอดทน ไม่ว่าเจ้าจะเจออะไรในเรือนจำองครักษ์เสื้อโลหิต ตอนนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัว อาจารย์กลับมาแล้ว อาจารย์กลับมาแล้ว ซือสิงเจ้าไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัว เมื่อเจ้าฟื้นขึ้นมา มาดูกันว่าอาจารย์ทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าด้วยวิธีใด” ก่อนฉีดยาชา เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าซุนซือสิงไม่ได้ยินในสิ่งที่นางพูด แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงพูดออกไปข้างหูของซุนซือสิง

ในตอนนี้รู้สึกโชคดีที่ตนเองได้เป็นคนผ่าตัดให้กับซุนซือสิง เนื่องจากนางจะรู้เป็นคนแรกหากซุนซือสิงไม่เป็นอะไร แต่นางก็อดกลัวไม่ได้ที่นางจะต้องเป็นคนลงมือผ่าตัดด้วยตนเอง

เวลาถือมีดผ่าตัด นางคือเครื่องจักรไร้อารมณ์ นางใช้ทักษะอันแม่นยำในการผ่าตัดเพื่อเปิดกะโหลก แต่ก่อนจับมีด นางรู้สึกกังวลและหวาดกลัว

ในจวนเฟิ่งมีแค่นางและศิษย์ของนางเพียงสองคนเท่านั้น จะมากหรือน้อยกว่านี้ไม่ได้เป็นอันขาด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ