นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 805

คนในห้องพิจารณาคดีหายไปกว่าครึ่ง หัวหน้าหน่วยทั้งสองคนขององครักษ์เสื้อโลหิตเห็นเช่นนั้นก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ให้ขายหน้าอีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงเสนอตัวเดินจากไป

“ใต้เท้า ผู้ต้องสงสัยซุนซือสิงหายตัวไปเป็นความรับผิดชอบขององครักษ์เสื้อโลหิต องครักษ์เสื้อโลหิตของข้าจะพยายามตามหาอย่างสุดความสามารถ ขอใต้เท้าโปรดให้เวลาพวกเราอีกสักนิด องครักษ์เสื้อโลหิตของพวกข้าจะต้องนำตัวเขากลับมาให้เร็วที่สุด นอกจากนี้เรื่องทหารยามเฝ้าประตูเมือง ข้าจะส่งกลับมาให้ใต้เท้าทันที เพื่อให้ใต้เท้าได้ตัดสินโทษต่อไป”

หัวหน้าหวังเป็นคนแข็งแกร่ง เขาสามารถยืดหดได้ด้วยตัวเอง เอาชนะไม่ได้ก็แค่ยอมแพ้และรับโทษ คิดว่าคนอยากเฟิ่งชิงเฉินจะทำอะไรพวกเขาได้อย่างนั้นหรือ เต็มที่ก็แค่เสียสละคนส่วนน้อยออกไปรับโทษ เท่านั้นก็สิ้นเรื่อง

“อนุญาต” หัวหน้าศาลต้าหลี่ตอบเห็นด้วยโดยไม่คิด องครักษ์เสื้อโลหิตนำตัวคนออกมาไม่ได้ จะฟ้องร้องเฟิ่งชิงเฉินต่อไปก็ไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้แค่ยอมรับความโชคร้ายและกลับไปตามหาคนอีกครั้ง

“ขอบคุณใต้เท้า พวกข้าขอตัวก่อน” พูดจบองครักษ์เสื้อโลหิตก็จากไปอย่างหยิ่งผยอง

เฟิ่งชิงเฉินเห็นการจากไปขององครักษ์เสื้อโลหิต หัวใจของนางมีความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างแน่นอน

ผลประโยชน์ตกสู่คนด้านบน ความโชคร้ายตกเป็นของผู้ซึ่งอยู่ด้านล่าง เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจเหตุผลนี้มาโดยตลอด แต่ถึงจะเข้าใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ

ต่อให้เอาชนะองครักษ์เสื้อโลหิตได้แล้วมันยังไง ทุ่มเทถึงขนาดนี้เพื่อเอาผิดองครักษ์เสื้อโลหิต ผลลัพธ์ที่ได้ก็แค่องครักษ์เสื้อโลหิตขายหน้า จากนั้นก็ปล่อยตัวผู้ใต้บังคับบัญชาระดับต่ำออกมาสองคนเพื่อรับโทษ ทำให้ความรับผิดชอบมันไม่ได้ตกไปอยู่ในคนที่ควรได้รับ

ในตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ซุนซือสิงอยู่ในมือของนาง หากซุนซือสิงหายตัวไปจริง ด้วยทัศนคติขององครักษ์เสื้อโลหิต นางเกรงว่าคงจะทำอะไรกับองครักษ์เสื้อโลหิตไม่ได้

คำพูดที่ว่าประชาชนธรรมดาไม่ควรมีเรื่องกับขุนนางนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่สามารถทำอะไรองครักษ์เสื้อโลหิตได้ แต่อย่างนั้นก็สามารถล้างความบริสุทธิ์ให้ตนเอง แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

ฮู้ว......เฟิ่งชิงเฉินหลับตาลง สูดลมหายใจเข้า เก็บความรู้สึกปวดใจนี้ไว้ เป้าหมายของนางคือทำให้คนขององครักษ์เสื้อโลหิตออกไปจากที่นี่ ให้องครักษ์เสื้อโลหิตไปตามหาคนที่หายตัวไป ไม่มีเวลาว่างมายุ่งกับนาง แบบนั้นถึงทำให้นางมีสมาธิที่จะจัดการกับจวนซุ่นหนิงโหว

เนื่องจากด้วยพลังและความสามารถของนางแล้ว นางไม่สามารถรับมือกับทั้งสองฝ่ายไปพร้อมกันได้

เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจดี ควบคุมอารมณ์และความรู้สึกบนใบหน้า บ่งบอกให้ทนายซ่งก้าวออกมา จากนั้นยื่นกระดาษคำฟ้องของจวนซุ่นหนิงโหวออกไปอีกครั้ง “ใต้เท้า นี่คือคำร้องที่จวนเฟิ่งฟ้องต่อจวนซุ่นหนิงโหวเรื่องการใส่ร้ายผู้อื่น จนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เนื้อหาถูกเขียนไว้ในกระดาษแผ่นี้ ใต้เท้าโปรดพิจารณา”

เฟิ่งชิงเฉินมีนิสัยชอบเตรียมอะไรไว้สองอย่าง กระดาษคำฟ้องเองก็ถูกเตรียมไว้สองฉบับเช่นกัน ฉบับแรกมีไว้ฟ้ององครักษ์เสื้อโลหิตร่วมกับจวนซุ่นหนิงโหว และอีกฉบับหนึ่งมีไว้เพื่อฟ้องเดี่ยวองครักษ์เสื้อโลหิตและจวนซุ่นหนิงโหว

ในที่สุดก็ถึงคราวของเขา ทนายของจวนซุ่นหนิงโหวมีเหงื่อไหลออกมาราวกับเม็ดฝน เข้าเช็ดเหงื่อพร้อมกับเผชิญหน้ากับชะตากรรม ตอนแรกมีองครักษ์เสื้อโลหิตคอยเป็นทัพหน้าให้ แม้บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีจะไม่สมดุล แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว แต่ตอนนี้เล่า?

ไม่ว่าคนหรืออำนาจ จวนซุ่นหนิงโหวล้วนไม่สามารถเทียบกับจวนเฟิ่งได้ ต้องรู้ก่อนว่าทางฝั่งของจวนเฟิ่งมีตี๋ตงหมิงยืนอยู่ด้วย เขาซึ่งต่อสู้เพียงลำพัง แค่ด้านอำนาจและแรงกดดันก็แพ้ให้กับเฟิ่งชิงเฉินอยู่แล้ว ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

ที่จริงทนายของจวนซุ่นหนิงโหวคิดมากเกินไป เนื่องจากตอนนี้ตี๋ตงหมิงยังไม่หายตกใจจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เลย

รายละเอียดของเรื่องเขาอาจจะไม่รู้ แต่จากการวิเคราะห์ของปู่และคำอธิบายของหวังจิ่นหลิง เขามั่นใจเป็นอย่างมากว่าซุนซือสิงถูกเฟิ่งชิงเฉินลักพาตัวไปอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ว่าคนที่อยู่บนเปลนั้นไม่ใช่ซุนซือสิง ทำไมถึงได้ดูคล้ายกันถึงขนาดนั้น......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ