เฟิ่งชิงเฉินไม่สนว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร นางแค่ทำให้สิ่งที่ตนเองต้องการ ทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกต้อง เพื่อจัดการกับจวนซุ่นหนิงโหว ก่อนหน้านี้นางได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
หลังจากสมองได้ไตร่ตรองและเรียงลำดับของคำถามซึ่งจะถามออกมาเป็นอันเรียบร้อย เฟิ่งชิงเฉินจึงเริ่มถามออกมา “ทนายฉิง ขอถามว่าคดีนี้เกิดขึ้นตอนกี่โมง?”
“ประมาณเก้าโมงกว่า” ทนายฉิงตอบกลับไป
“เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน ?”
“ในห้องส่วนตัวของคุณหนูลิ่ว”
“ปีนี้คุณหนูลิ่วอายุเท่าไหร่?”
“16 ปี”
“จวนของพวกเจ้า มีตำหนักของคุณหนูอยู่ทั้งหมดกี่หลัง พวกนางได้อยู่ด้วยกันหรือไม่?” เฟิ่งชิงเฉินถามออกไปทั้งที่รู้ โดยพื้นฐานแล้วคุณหนูของตระกูลที่ร่ำรวยจะไม่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่พวกเขาจะอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
“ในจวนมีคุณหนูอยู่ทั้งหมดห้าท่าน พวกนางแยกกันอยู่ แต่ว่าอาศัยอยู่ใกล้กันมาก” ทนายฉิงตอบกลับมามากกว่าสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินถาม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เฟิ่งชิงเฉินถามเพิ่ม แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือสิ่งไม่จำเป็น
“คุณหนูในจวนของพวกเจ้า คนรับใช้จัดลำดับการปรนนิบัติอย่างไร?”
“คุณหนูทุกท่านล้วนมีแม่นมอยู่ด้วยหนึ่งคน และหัวหน้าสาวใช้สองคน สาวใช้ธรรมดาแปดคน และสาวใช้ที่ทำงานทั่วไปอีกสิบคน” นี่เป็นข้อมูลทั่วไป ทนายฉิงรับรู้มันเป็นอย่างดี ดูเหมือนว่าเขาเองก็เตรียมตัวมาไม่น้อย
แต่ทนายฉิงกลับลืมไปว่าเขามาที่นี่เพื่อฟ้องร้องเฟิ่งชิงเฉิน ไม่ใช่ถูกเฟิ่งชิงเฉินฟ้องร้อง
“นี่ก็แสดงว่ารอบตัวคุณหนูลิ่วของพวกเจ้ามีคนรับใช้คอยดูแลถึงยี่สิบเอ็ดคนเลยใช่ไหม?” เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าตนเองก็ไม่ธรรมดา แต่ทั้งจวนเฟิ่งของนางก็มีคนรับใช้อยู่เพียงยี่สิบคนเท่านั้น
“ใช่” ทนายฉิงยังสังเกตไม่เห็นถึงความผิดปกติ เขาแค่รู้สึกรำคาญ คำถามง่าย ๆ แบบนี้เห็นได้ชัดว่ามันไม่เพียงพอต่อความสามารถของเขา
คำถามที่เฟิ่งชิงเฉินถามออกมาเหล่านี้มันไม่เกี่ยวข้องกับคดี แต่ผู้พิพากษาทั้งสามไม่ได้พูดอะไร แล้วเขาจะไปทำอะไรได้ เขาก็ทำได้เพียงตอบคำถามถามอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น
“คุณหนูลิ่วของพวกเจ้าเป็นที่รักใคร่ในจวนหรือไม่?” ความอยากรู้อยากเห็นของเฟิ่งชิงเฉินในตอนนี้เหมือนกับผู้พิพากษาทั้งสามในเมื่อสักครู่มาก แม้แต่ผู้พิพากษาทั้งสามเองก็ยังสงสัยว่าเฟิ่งชิงเฉินต้องการทำอะไร แต่หลังจากได้รับสายตาแจ้งเตือนของตี๋ตงหมิง พวกเขาก็เพิกเฉยและปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินทำตามความต้องการของนางอย่างเต็มที่
“การชื่นชมความสนุกก็ต้องใช้จิตวิญญาณในการชื่นชม จะเข้าไปรบกวนผู้แสดงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเสด็จอาเก้าคงไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่” ตี๋ตงหมิงพูดในใจ
ไม่มีใครคอยให้การสนับสนุน ทนายฉิงจึงทำได้เพียงตอบคำถามออกมาแต่โดยดี “คุณหนูลิ่วเป็นคนมีพรสวรรค์มาก ฮูหยินชื่นชอบนางเป็นอย่างมาก”
ในความเป็นจริงเขาไม่เคยเห็นคุณหนูลิ่วมาก่อน แต่ก่อนหน้านี้เขาได้พูดคุยกับทางจวนโหวไว้เป็นอย่างดี บอกว่าคุณหนูลิ่วเป็นคนดี แบบนั้นถึงสามารถทำให้คนเชื่อได้ว่าซุนซือสิงเป็นคนข่มขืนนาง
เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้า บ่งบอกว่าตนเองเข้าใจ เลิกถามเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนูลิ่ว แต่หันไปถามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ สลับกับถามเกี่ยวกับว่าซุนซือสิงเข้าไปในจวนเมื่อไหร่ เข้าไปรักษาผู้ป่วยในจวนตอนไหน และออกมาจากตำหนักของผู้ป่วยตอนไหน รวมถึงออกมาจากจวนซุ่นหนิงโหวตอนไหนด้วย ถูกส่งไปให้กับองครักษ์เสื้อโลหิตเมื่อไหร่ ให้อีกฝ่ายบอกเวลามาอย่างชัดเจน
ชุดคำถามนี้ของเฟิ่งชิงเฉินถูกยิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงด้านที่ดุร้ายและแหลมคมของนาง และในตอนนี้ทนายฉิงถึงตระหนักได้ว่าที่ผ่านมาตนเองประมาทเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...