นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 861

คนจากตระกูลวัง จะพบหรือไม่?

หากไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมเพียงพอ จวนเฟิ่งคงไม่อาจปล่อยให้คนจากตระกูลหวังยืนอยู่ข้างนอกได้ เพราะจะทำให้ตระกูลหวังมีเหตุผลพอที่จะบุกเข้าไปข้างใน แต่ใครเป็นคนไป ไปเมื่อไหร่ ล้วนมีหลักการ

ซูเหวินชิงนั่งอยู่ในห้องโถงด้านข้าง เขาวางท่าเป็นคุณชายใหญ่ เคาะนิ้วลงไปบนโต๊ะโดยไม่รู้ตัว เขากำลังคิดว่าจะจัดการกับตระกูลหวังอย่างไร ตระกูลหวังเดินทางมาที่นี่เร็วเกินไป ดังนั้นพวกเขาอาจเตรียมตัวมาก่อน

แม้ว่าซูเหวินชิงจะไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินใช้วิธีใดในการรักษาหวังจิ่นหาน แต่เขารู้ว่าไม่ควรมีใครเข้าไปรบกวนการรักษาของเฟิ่งชิงเฉิน และเขาไม่สามารถแบกรับได้หากมีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้น

พ่อบ้านยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่ได้กล่าวสิ่งใดสักคำ ส่วนซูเหวินชิงก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด พ่อบ้านไม่ได้เร่งเขา ปฏิบัติต่อเขาเช่นนายคนหนึ่ง

จะทำอย่างไรได้เล่า จวนเฟิ่งมีเจ้านายเพียงคนเดียว เฟิ่งชิงเฉินไม่ออกมาข้างนอก ไม่มีใครในจวนเฟิ่งอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพึ่งพาซูเหวินชิงในการตัดสินใจได้เท่านั้น

โชคดีที่ซูเหวินชิงไม่ทำให้พ่อบ้านผิดหวัง หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งเล่มธูป ในที่สุดซูเหวินชิงก็กล่าวว่า "ในเมื่อพวกเขามาแล้วก็จงให้การต้อนรับ ตระกูลหวังไม่ใช่ตระกูลนักเลง พวกเขาเป็นแบบอย่างของชนชั้นสูง เราจะละเลยตระกูลหวังไม่ได้ เชิญนายของพวกเขาไปที่ห้องโถงใหญ่ และจัดคนรับใช้เอาไว้นอกลานบ้าน นอกจากนี้ไปเชิญองค์ชายอวี่มา อธิบายสถานการณ์นี้ต่อองค์ชายอวี่ให้ชัดเจน เชิญองค์ชายอวี่มายืดเวลา ข้าจะส่งคนไปหาเสด็จอาเก้า”

ตระกูลหวังกดขี่ผู้คนด้วยสถานัของชนชั้นสูง ดังนั้นซูเหวินชิงจึงจะใช้อำนาจของจักรพรรดิมาเพื่อกดขี่พวกเขา ด้วยซีหลิงเทียนอวี่องค์ชายแห่งซีหลิง ไม่ต้องพูดถึงลุงคนที่ 17 ของหวังจิ่นหลิง ต่อให้เป็นปู่ที่ 17 ของหวังจิ่นหลิงก็ต้องต้อนรับให้ดี การยืดเวลาไม่ใช่ปัญหา

อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา คาดว่าเสด็จอาเก้าจะเข้ามาจัดการได้ ตอนนี้ตระกูลหวังกำลังเผชิญกับปัญหาทั้งภายในและภายนอกตระกูลหวังอยู่ไม่สุข พวกเขาต้องการทำตามตระกูลเซี่ยโดยกอดขาของราชวงศ์ไว้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจะกล้ารุกรานราชวงศ์อย่างเปิดเผยในเวลานี้ได้อย่างไร

เมื่อได้ยินแผนนี้ พ่อบ้านก็หรี่ตา ผ่อนคลายร่างกายที่ตึงเครียดของเขา เขาชอบติดต่อกับคนที่มีความสุภาพ เขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะมากไปด้วยเหตุผล แต่เขากลัวว่าอีกฝ่ายเป็นดั่งโจรมากกว่าซึ่งอาจตะโกนด่าทอลงมือฆ่าโดยไม่กล่าวสิ่งใดสักคำ เขาเกลียดคนไม่มีเหตุผลที่สุด

คุณชายซูพูดถูก คนจากตระกูลหวังเดินทางมา เราเพียงต้อนรับพวกเขาก็พอ หากตระกูลหวังกล้าทำอะไรในจวนเฟิ่ง พวกเขาคงเสียชื่อเสียง

เฟิ่งชิงเฉินกำลังต่อสู้กับยมทูตเพื่อช่วยชีวิตหวังจิ่นหานอยู่ ซีหลิงเทียนอวี่ได้นั่งบนรถม้าออกมาต้อนรับลุง17ของหวังจิ่นหลิงอย่างลำบากใจ

ซูเหวินชิงเตรียมตัวมาอย่างดี แต่ตระกูลหวังก็ไม่ใช่จะจัดการง่ายๆ ตระกูลหวังรู้ว่าซีหลิงเทียนอวี่อยู่ในจวนเฟิ่ง ดังนั้นตระกูลหวังจึงได้เตรียมตัวมา เมื่อเทียบกับการเข้าสังคม ลุง 17 ของหวังจิ่นหลิงก็ไม่ได้แย่ไปกว่าซีหลิงเทียนอวี่ เพียงไม่กี่คำที่การสนทนากันไปมา ลุง 17 ของหวังจิ่นหลิงก็ได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปที่หวังจิ่นหลิงอย่างรวดเร็วเป็นธรรมชาติ เขาเสนอให้พาตัวหวังจิ่นหลิงออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อที่จะพาหวังจิ่นหลิงกลับไปที่จวนของตน

ทันทีที่ซีหลิงเทียนอวี่บอกว่าหวังจิ่นหลิงไม่ได้อยู่ในจวนเฟิ่ง ลุง 17 ของหวังจิ่นหลิงก็เริ่มร่ำไห้บ่นว่าคืนพรุ่งนี้จะเป็นวันส่งท้ายปีเก่า อาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่าของตระกูลหวังยังคงรอให้นายใหญ่ไปจัดการ หากปราศจากผู้นำ หน้าตาของตระกูลหวังก็จะสูญสิ้นไป

ลุง 17 ของหวังจิ่นหลิงยังคงวางตัวต่ำ แสร้งทำเป็นว่าถูกรังแก เขาทำการขอร้องซีหลิงเทียนอวี่ซ้ำ ๆ ให้ปล่อยตระกูลหวังไป อย่าให้ตระกูลหวังต้องน่าสมเพชในวันส่งท้ายปีเก่าเช่นนี้

ซีหลิงเทียนอวี่รู้สึกรำคาญเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนร้าย แต่เขากลัวมากว่าคนร้านนั้นได้รับการอบรมมาอย่างดี คำขอช่างสมเหตุสมผล แต่ก็ช่างไร้ยางอาย

เขาบอกว่าหวังจิ่นหลิงไม่ได้อยู่ในจวนเฟิ่ง นั่นคือเขาไม่อาจให้ตระกูลหวังได้พบหวังจิ่นหลิง เท่ากับเขาทำให้ตระกูลหวัง ลำบากใจ จงใจทำให้ตระกูลหวังไร้ศักดิศรี หากไม่ใช่เพราะติดหนี้บุญคุณเฟิ่งชิงเฉินละก็ เขาคงจะสะบีดแขนเสื้อจากไปนานแล้ว นี่มันช่างอึดอัดใจนัก......

เหตุผลที่เขาผลักเก้าอี้และจากไป แทนที่จะลงโทษตระกูลหวัง นั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยคำที่รุนแรง ประการที่สอง พวกเขาแค่แสดงความอ่อนแอร้องไห้อกมา แม้ว่าเขาต้องการที่จะลงโทษลุง 17 ของหวังจิ่นหลิงเขาก็ไม่สามารถทำได้ เขาไม่อาจหาเหตุผลได้เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ