สรุปเนื้อหา บทที่ 906 เน่าเปื่อย สักวันเจ้าจะอยู่ในกำมือข้า – นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บท บทที่ 906 เน่าเปื่อย สักวันเจ้าจะอยู่ในกำมือข้า ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาช้าย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เย่เย่ไม่ใช่คนที่ใช้สถานการณ์โดยรวมในการตัดสินใจ ทันใดที่สงสัยว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นคนสั่งฆ่าบิดาของเขา เขาก็พาคนมาบุกจวนเฟิ่งในทันที ไม่รู้จักใช้ความได้เปรียบของตนเองให้เกิดประโยชน์เลยแม้แต่น้อย และสูญเสียโอกาสในการโจมตีเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไปโดยเปล่าประโยชน์
เวลานี้เมื่อรู้ว่าฆาตกรเป็นซีหลิง เย่เย่ตัดสินใจยอมจำนนต่อตงหลิงโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ นอกจากคิดว่าจะใช้อำนาจของตงหลิงเพื่อทำให้เมืองเย่เฉิงมั่นคงและเพื่อแก้แค้นให้เจ้าเมืองเย่เฉิงแล้ว เขาก็ไม่คิดสิ่งใดเลย
แน่นอน หลังจากจักรพรรดิพยุงเย่เย่ขึ้นมา เย่เย่ก็กล่าวออกมาว่าต้องการยืมมือของตงหลิงเพื่อการแก้แค้น จักรพรรดิพูดถึงเรื่องการปราบซีหลิง แต่เขาไม่ได้รับปาก และไม่ได้บอกว่าจะลงมืออย่างไร
“ซีหลิงสังหารเจ้าเมืองเย่เฉิงเพื่อต้องการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเมืองเย่เฉิงและตงหลิง เป็นการที่ต่ำช้า มิว่าอย่างไรก็ต้องถูกลงโทษ เย่เย่ เจ้าวางใจเถิด ข้าไม่มีทางยอมปล่อยซีหลิงไปเป็นแน่” จักรพรรดิใช้คำพูดดังกล่าวเพื่อส่งเย่เย่ออกไป
หลังเย่เย่จากไปแล้ว ขันทีก็เดินเข้ามาอย่างประจบสอพลอ “ยินดีกับฝ่าบาท ขอแสดงความยินดีกับองค์พระจักรพรรดิ”
“แสดงความยินดีออกมาเวลานี้มันยังเร็วเกินไป” จักรพรรดิพูดอย่างสำรวม แต่เขาไม่สามารถปกปิดความยินดีในดวงตาของเขาได้
แค่กระตุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถทำให้เมืองเย่เฉิงยอมจำนนต่อตงหลิง สำหรับจักรพรรดิแล้วมันเป็นความสำเร็จที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ เมื่อเย่เย่กลับไปถึงเมืองเย่เฉิงและฝังศพของเจ้าเมืองเย่เฉิงเป็นอันเรียบร้อย เย่เย่ก็จะกลายเป็นบริพารของตงหลิง และจิ่วโจวจะไม่ใช่สี่ประเทศเก้าเมือง แต่จะกลายเป็นสี่ประเทศแปดเมืองตามที่จักรพรรดิต้องการ
และเขาจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงแผ่นดินจิ่วโจวโดยไม่ต้องสงสัย......
“ฝ่าบาททรงทรงพระปรีชาสามารถในเรื่องของวางแผนกลยุทธ์ มีความคิดกว้างไกลและยากจะหยั่งถึงราวกับมหาสมุทร และยังมีใต้เท้าฝู่คอยนำทาง ฝ่าบาท ท่านอย่าว่าแต่ทำให้เมืองเย่เฉิงยอมศิโรราบเลย ต่อให้เป็นแคว้นฉู่ เมืองหยุนและเมืองเหลียนเฉิง การที่เมืองเหล่านี้จะยอมศิโรราบมันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา” ขันทีกล่าวชื่นชมความคิดของจักรพรรดิ และมุ่งเป้าไปอย่างตรงประเด็น
ใบหน้าของจักรพรรดิเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ฝู่หลินเป็นแม่ทัพคนโปรดของข้า เจ้าไปยังคลังของข้า เลือกยาบำรุงที่ดีที่สุดและทรัพย์สินส่งไปให้ใต้เท้าฝู่”
จักรพรรดิมอบรางวัลตามผลของที่แสดงออกมา!
คืนนั้น ฝู่หลินได้รับรางวัลก้อนโตจากพระราชวัง เมื่อเห็นรางวัลเหล่านั้นฝู่หลินก็รู้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามประสงค์ของจักรพรรดิ การเสียสละของเขาจึงถือว่าคุ้มค่า
“เย่เย่ ข้าประเมินเจ้าสูงเกินไป ที่แท้เจ้าก็ถูกชักจูงได้อย่างง่ายดาย แต่เป็นเช่นนี้ก็ดี เป็นเช่นนี้อย่างน้อยเจ้าก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกสองปี การที่ฉลาดเกินไปมันก็มิใช่เรื่องที่ดีสำหรับเจ้า”
ฝู่หลินเดินออกมาส่งขันที กำลังจะให้คนรับใช้ขนของเข้าไปในจวน แต่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บตรงบาดแผลที่เท้า ฝู่หลินเสียการทรงตัวและเซไปด้านข้าง โชคดีที่คนรับใช้พยุงไว้ทัน ไม่เช่นนั้นฝู่หลินคงล้มลงไปอยู่บนพื้น
“ใต้เท้า ท่านเป็นอะไรอย่างนั้นหรือ?”
“ขาของข้า เร็ว หมอ รีบเรียกหมอมาเร็ว” ขาที่โดยกระสุน หลังจากรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด มันไร้ซึ่งความรู้สึก ดวงตาของฝู่หลินเบิกกว้าง ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา และรีบยกกางเกงขึ้นทันใด
บาดแผลที่หมอหลวงเย็บให้เปิดออกอีกครั้ง เลือดไหลลงมาตามน่อง แค่ระยะเวลาเพียงหนึ่งวัน บาดแผลกลับส่งกลิ่นเหม็น แม้แต่คนที่ไม่เข้าใจวิธีการรักษา แค่เห็นบาดแผลก็รู้ว่าอาการของฝู่หลินนั้นไม่ค่อยดี
จักรพรรดิให้ความสำคัญกับฝู่หลินมา เขาส่งหมอหลวงประจำพระราชวังให้ไปประจำการที่จวนเพื่อดูแลฝู่หลิน ทันใดทีฝู่หลินเรียกหมอหลวง หมอหลวงก็ปรากฏตัวออกมาทันที
ในคืนนั้น คนในจวนฝู่ไม่สามารถนอนหลับได้ หลังจากพันผ้าพันแผลเสร็จได้ไม่นาน บาดแผลก็ฉีกออกอีกครั้ง เลือดไหลไม่ยอมหยุด และที่สำคัญที่สุด ฝู่หลินนั้นมีไข้สูง
หมอหลวงยืนเฝ้าตลอดทั้งคืน แต่มันก็ไม่เกิดผลแต่อย่างใด จนกระทั่งใกล้รุ่งสาง ฝู่หลินเสียสติ หมอหลวงไม่กล้ารอช้า รีบรายงานให้ทางพระราชวังทราบในทันที เพื่อรายงานแก่จักรพรรดิให้รับส่งหมอหลวงมาช่วยกันทำการรักษา......
จักรพรรดิส่งราชองครักษ์ไปตรวจสอบที่จวนเฟิ่งแต่ก็ไร้ผล ราชองครักษ์ที่เฝ้ามองอยู่ด้านนอกของจวนเฟิ่งถอนตัวกลับด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งของจักรพรรดิ คนของจวนเฟิ่งจึงไม่กล้าออกมาด้านนอก คนธรรมดาจากด้านนอกก็ไม่กล้าเข้าไปในจวนเฟิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการหาเรื่องใส่ตัว
แต่ภายใต้การฝึกฝนจากเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างชัดเจน ภายใต้แรงกดดันของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินสามารถระงับความเร่าร้อนในหัวใจเอาไว้ได้ นั่งนิ่งตามประเพณี เฝ้ารอเสด็จอาเก้าเอ่ยปาก
เสด็จอาเก้าเป็นสิ่งประดิษฐ์แห่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
เฟิ่งชิงเฉินพูดกับตัวเองในหัวใจ แม้เสด็จอาเก้าจะไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา แต่เฟิ่งชิงเฉินก็สังเกตเห็นได้จากนิ้วที่จับถ้วยอย่างผิดปกติของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าเสด็จอาเก้ากำลังไม่พอใจ
เฟิ่งชิงเฉินไม่กล้าเมินเฉยอีกต่อไป เงยหน้าขึ้นมองเสด็จอาเก้า กะพริบตาให้เสด็จอาเก้าด้วยใบหน้าที่คาดหวัง หวังว่าเสด็จอาเก้าจะเอ่ยปากออกมาก่อน
“พะ......” เสด็จอาเก้าวางถ้วยลงบนโต๊ะ กล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้าหรือไม่?”
“กราบทูลท่านอ๋อง ข้ามิมีอะไรจะพูด” เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นยืนและทำความเคารพให้เสด็จอาเก้าเหมือนกับที่เขาทำกับจักรพรรดิ
“แน่ใจงั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าเคาะโต๊ะและกล่าวออกมาด้วยอารมณ์โกรธ
เฟิ่งชิงเฉินก้มหน้าเงียบ หลีกเลี่ยงสายตาที่เต็มไปด้วยการครอบงำของเสด็จอาเก้า
เรื่องเมืองเย่เฉิง นางทำได้อย่างงดงาม ต่อให้จักรพรรดิกับฝู่หลินรู้ว่านางเป็นคนลงมือแล้วอย่างไร มีปัญญาก็หาหลักฐานมาพิสูจน์
นางถูกคนของจักรพรรดิจับตาอยู่ตลอดเวลา การบาดเจ็บของฝู่หลินมันเกี่ยวอะไรกับนาง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...