นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 907

สรุปบท 907 ความจริงเปิดเผย ความชังทวีคูณ: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน 907 ความจริงเปิดเผย ความชังทวีคูณ – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย

ตอน 907 ความจริงเปิดเผย ความชังทวีคูณ ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ณ แคว้นเย่เฉิงนี้ เฟิ่งชิงเฉินทำได้ดีมาก ด้วยความช่วยเหลือของหลานจิ่วชิงอีกแรง สามารถตามหาคนลงมือได้พบและด้วยความช่วงเหลือของตี๋ตงหมิงและ หวังจิ่นหลิงก็ค้นพบคนที่ทหารช่วยพวกนั้น

ติดตามเบาะแสสืบสวนทีละขั้นตอนในที่สุดก็ค้นหาตัวใต้เท้าฝู่และฮ่องเต้ผู้อยู่เบื้องหลัง ล้างความสงสัยให้ตนและถือโอกาสล้างแค้นเล็กๆน้อยกับใต้เท้าฝู่

แต่ทว่าเพราะทำได้ดีเกินไป ถึงทำให้เสด็จอาเก้าไม่พอใจ เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่มาหาเขาเลย

เสด็จอาเก้ามองไปที่เฟิ่งชิงเฉินเขาไม่เห็นคอสีขาวราวกับหิมะของนางเลย เห็นเพียงหลังดำๆ เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉืนไม่พูดอะไรสักที เสด็จอาเก้าจึงกล่าว

"เฟิ่งชิงเฉิน ข้าถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าไม่มีอะไรจะพูดกับข้าจริงๆใช่มั้ย"

"ตอบท่านอ๋อง เฟิ่งชิงเฉินไม่มีอะไรจะพูดเจ้าค่ะ"เฟิ่งชิงเฉินลอบถอนหายใจแล้วพูดซ้ำ

เสด็จอาเก้าเพียงหวังว่าหากนางมีเรื่องอะไรก็ให้บอกกล่าวกับเขา แต่นางกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เวลานางมีเรื่องอะไรก็จะแก้ไขด้วยตนเอง หากนางแก้ไขไม่ได้จริงๆ ก็จะไปหาผู้อื่น

ชีวิตเราพึ่งพาตนเองดีที่สุด เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าพวกเขาจะเข้าใจหลักเกณฑ์นี้ดีเสียอีก แต่ดูจากสภาพท่านอาเก้าแล้ว นางคิดน้อยไปจริงๆ

เฟิ่งชิงเฉินแอบลอบถอนหายใจ เสด็จอาเก้าปิดเปลือกตาลงเบาๆ พลางพูดอย่างปล่อยวาง

"ในเมื่อไม่มีอะไรจะพูด งั้นข้าพูดเอง คืนเมื่อวานซืนเจ้าอยู่ที่ไหน"

"ที่บ้าน"เฟิ่งชิงเฉินรู้ดีว่าเสด็จอาเก้าถูกฮ่องเต้ส่งมาเพื่อถามเรื่องใต้เท้าฝู่ อย่างที่คาดไว้จริงๆ

"งั้นเรื่องที่ใต้เท้าฝู่บาดเจ็บเจ้ารู้เรื่องด้วยมั้ย"แทนที่จะบอกว่าถาม เรียกว่าสืบความคงจะดีกว่า

"ไม่ทราบ"

เฟิ่งชิงเฉินตอบอย่างเรียบๆ เสด็จอาเก้าก็ไม่บีบบังคับ แต่เพียงพูดต่อว่า

"ใต้เท้าฝู่บาดเจ็บเพราะอาวุธลับของเจ้า อาการของเขาแย่ลง ฮ่องเต้ทรงโกรธเรื่องนี้เป็นอย่างมาก"

"มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?"เฟิ่งชิงเฉินตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง

ในปีนั้นการฝึกอบรมการต่อต้านการสืบสวนคดีอาชญากรรมสร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้กับเฟิ่งชิงเฉินเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินสามารถจัดการกับมันได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสด็จอาเก้า แม้ว่าจะมีคนเก่งกาจมาอยู่ต่อหน้า นางก็ทำได้ โดยไม่เปิดเผยพิรุจใดๆ

การไม่แสดงข้อบกพร่องเป็นเรื่องหนึ่ง เสด็จอาเก้าจะเชื่อมั้ยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เห็นดวงตาเบิกกว้างยิ่งกว่าไข่มุกนั่นทำให้เสด็จอาเก้ายิ้มอย่างเย็นชา

"ใต้เท้าฝู่ถึงกับโดนอาวุธลับของเจ้า ไม่รู้ของเจ้าประโยคเดียวจะให้ข้าเชื่อได้อย่างไร"

เรื่องในเมืองเย่เฉิงเฟิ่งชิงเฉินทำได้ดีมาก ด้วยแรงของหลานจิ่วชิวสามารถสืบหาคนร้ายและด้วยความช่วยเหลือของตี๋ห่าวหมิงและหวังจิ่นหลิง สามารถลากทหรรที่ช่วยเหลือเหล่านั้นออกมา

ติดตามเบาะแสสืบสวนทีละขั้นตอนในที่สุดก็ค้นหาตัวใต้เท้าฝู่และฮ่องเต้ผู้อยู่เบื้องหลัง ล้างความสงสัยให้ตนและถือโอกาสล้างแค้นเล็กๆน้อยกับใต้เท้าฝู่

แต่ทว่าเพราะทำได้ดีเกินไป ถึงทำให้เสด็จอาเก้าไม่พอใจ เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่มาหาเขาเลย

เสด็จอาเก้ามองไปที่เฟิ่งชิงเฉินเขาไม่เห็นคอสีขาวราวกับหิมะของนางเลย เห็นเพียงหลังดำๆ เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉืนไม่พูดอะไรสักที เสด็จอาเก้าจึงกล่าว

"เฟิ่งชิงเฉิน ข้าถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าไม่มีอะไรจะพูดกับข้าจริงๆใช่มั้ย"

"ตอบท่านอ๋อง เฟิ่งชิงเฉินไม่มีอะไรจะพูดเจ้าค่ะ"เฟิ่งชิงเฉินลอบถอนหายใจแล้วพูดซ้ำ

เสด็จอาเก้าเพียงหวังว่าหากนางมีเรื่องอะไรก็ให้บอกกล่าวกับเขา แต่นางกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เวลานางมีเรื่องอะไรก็จะแก้ไขด้วยตนเอง หากนางแก้ไขไม่ได้จริงๆ ก็จะไปหาผู้อื่น

ชีวิตเราพึ่งพาตนเองดีที่สุด เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าพวกเขาจะเข้าใจหลักเกณฑ์นี้ดีเสียอีก แต่ดูจากสภาพท่านอาเก้าแล้ว นางคิดน้อยไปจริงๆ

เฟิ่งชิงเฉินแอบลอบถอนหายใจ เสด็จอาเก้าปิดเปลือกตาลงเบาๆ พลางพูดอย่างปล่อยวาง

"ในเมื่อไม่มีอะไรจะพูด งั้นข้าพูดเอง คืนเมื่อวานซืนเจ้าอยู่ที่ไหน"

แต่คนที่เจ้าเลือกนั้นไม่เหมาะสม"เขาไม่เห็นด้วยที่นางหักหน้าของฝ่าบาท

"ใต้เท้าฝู่เป็นเพียงขุนนางที่มาจากที่อื่น แต่คนอื่นล้วนเป็นโอรสของฝ่าบาท เขานับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ข้าเองก็ไม่คิดจะเอาชีวิตตนเองไปโยนทิ้งเช่นกัน"

เรื่องเมืองเย่เฉิงหากเรื่องเป็นดั่งที่หลานจิ่งเชิงสืบมา นั่นหมายความว่าฮ่องเต้ทรงต้องนำนางไปเป็นแพะรับบาปแน่

ไม่ว่านางจะระวังแค่ไหน ตราบใดที่นางและเสด็จอาเก้าอยู่ฝั่งเดียวกัน ฮ่องเต้ก็คงไม่ปล่อยนางไปจริงๆและยิ่งไม่มีทางเชื่อนาง ดังนั้นนางจึงไม่จำเป็นต้องสนใจความของคิดของฮ่องเต้

"ใครกล้าฆ่าเจ้าในตงหลิง"เสด็จอาเก้าโกรธเมื่อพูดถึงความเป็นความตายอีกครั้ง

เฟิ่งชิงเฉินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

"แต่เรื่องเมืองเย่เฉิง ฝ่าบาทไม่เพียงแต่จะเอาชีวิตข้า แต่ก็จะเอาชีวิตท่านด้วย ท่านมีตำแหน่งสูงและสถานะที่ไม่เหมือนใคร แต่ท่านไม่เหมาะกับทหารม้าเหล็กของเมืองเย่เฉิง ท่านเย่นั่นเป็นอย่างไร เสด็จอาเก้า ท่านไม่รู้หรอกว่าถ้าเรื่องนี้ไม่จัดการโดยเร็ว มันจะเป็นอันตรายสำหรับท่านและข้า"

"หึ เฟิ่งชิงเฉินเจ้าไม่เชื่อในตัวข้าเลยนะ เพราะจะแก้แค้นเรื่องเล็กๆ กลับจะเอาชีวิตข้าเลยหรือ เจ้าเห็นอีกฝั่งสูงเกินไปหรือว่าเจ้าไม่แท้แต่จะเห็นข้าในสายตากัน"เสด็จอาเก้ากรอกตาอย่างโกรธจนเหลือทน

"เสด็จอาเก้า ทำท่านเช่นนี้ไม่ใช่ว่าท่านยอมเองหรอกหรือ ข้าเป็นคนทำเรื่องนี้ ท่านก็สามารถสืบอย่างลับๆ ข้าหลอกล่อพวกเขา สิ่งที่ท่านทำถึงไม่ถูกจับได้ เสด็จอาเก้าท่านอย่าบอกนะว่า ไม่กี่วันที่ผ่านมาท่านไม่ได้ทำอะไรเลย"

เฟิ่งชิงเฉิงทำหน้าไม่เชื่อ โอกาสที่ดีขนาดนี้ หากเสด็จอาเก้ายังไม่ใช้มันอีกก็โง่เต็มทีแล้ว นางไม่เชื่อหรอกว่าเสด็จอาเก้าจะใจดีเช่นนั้น

เย่เย่สวามิภักดิ์ต่อฝ่าบาทมากเพียงใดหากเรื่องจริงปรากฏ เขาจะเกลียดฝ่าบาทเท่าใดกัน

ในมือเสด็จอาเก้ามีหลักฐานมากพอที่จะพิสูจน์ว่าใครเป็นคนฆ่าเจ้าเมืองเย่ ตัวการก็คือฝ่าบาท เพียงแต่เสด็จอาเก้ายังไม่เปิดเผยตอนนี้เท่านั้น

เสด็จอาเก้ากำลังรอ รอให้ตายใจกับฝ่าบาท รอให้เมืองเย่เฉิงตกอยู่ในมือของฮ่องเต้ ทำให้เย่เย่โกรธถึงที่สุด และหักหลังฮ่องเต้

เสด็จอาเก้ากำลังเลี้ยงศัตรูของฮ่องเต้ ถึงแม้จะไม่อะไรมาก แต่ก็สามารถเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งพออย่างแน่นอน หากมิใช่ว่าใต้เท้าฝู่กับเสด็จอาเก้าไม่ถูกัน นางก็คงสงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเสด็จอาเก้าและใต้เท้าฝู่ร่วมมือกันเพื่อขุดหลุมให้ฮ่องเต้กับแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ