นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 922

สรุปบท บทที่ 922 ปาฏิหาริย์ เรื่องนี้มันผิดหลักวิทยาศาสตร์เกินไป: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอน บทที่ 922 ปาฏิหาริย์ เรื่องนี้มันผิดหลักวิทยาศาสตร์เกินไป จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 922 ปาฏิหาริย์ เรื่องนี้มันผิดหลักวิทยาศาสตร์เกินไป คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย อาช้าย เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

มีสองสาวใช้สายลับหญิงและจั่วอั้นคอยถ่วงเวลาอีกฝ่ายเอาไว้ให้ เฟิ่งชิงเฉินกลับมาถึงจวนเฟิ่งอย่างปลอดภัย ทันทีที่เข้ามาในจวน เรื่องแรกที่นางทำก็คือสั่งให้สายลับและองครักษ์รีบออกไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อช่วยสาวใช้สายลับและคนขับรถม้า

ส่วนจั่วอั้น? เฟิ่งชิงเฉินมั่นใจในตัวเขามาก หลายปีที่ผ่านมาเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสังหารจั่วอั้นได้ จั่วอั้นไม่เหมือนสาวใช้สายลับทั้งสอง เขาไม่มีทางเอาชีวิตของตนเองมาแลกกับการปกป้องนาง

ไม่ผิดที่จะกล่าวว่าหน่วยกู้ภัยมักจะมาถึงเมื่อสถานการณ์สิ้นสุดลง คำกล่าวนี้เป็นความจริง

สายลับต้องอยู่ในจวนเฟิ่งเพื่อปกป้องเฟิ่งชิงเฉิน เมื่อองครักษ์ไปถึง ชายชุดดำทั้งเจ็ดก็จากไปแล้ว สาวใช้สายลับทั้งสองและคนขับรถม้านอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น โชคดีที่พวกเขายังมีดวง ส่วนจั่วอั้น? องครักษ์ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา

องครักษ์นำสาวใช้สายลับทั้งสองและคนขับรถม้ากลับมายังจวนเฟิ่ง เฟิ่งชิงเฉินได้ทำการเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่แรก รอพวกเขาอยู่ในกระท่อมไม้ ร่างกายของทั้งสามคนเต็มไปด้วยบาดแผล ดูโหดร้ายทารุณอย่างมาก สาวใช้สายลับทั้งสองกระดูกหัก แม้ว่าจะช่วยชีวิตกลับมาได้ แต่ในอนาคตก็คงไม่สามารถกลับมาเป็นสายลับได้อีก

เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้พูดอะไรมาก นางเอาแต่ก้มหน้าก้มตา พยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตทั้งสามคน ต่อให้สาวใช้สายลับจะไม่สามารถปกป้องนางได้อีกในอนาคต แต่นางก็จะเลี้ยงดูทั้งสอง เนื่องจากทั้งสองต้องเป็นเช่นนี้เพราะปกป้องนาง

หลังจากจัดการบาดแผลเรียบร้อย ภายใต้การช่วยเหลือของทงจือและทงเหยา เฟิ่งชิงเฉินสามารถพันผ้าพันแผลให้สาวใช้สายลับทั้งสองและคนขับรถม้าจนเสร็จก่อนที่คนของจักรพรรดิจะมารับนางไปยังจวนฝู่

“ดูแลพวกเขาให้ดี ป้อนยาให้พวกเขาทุกสองชั่วโมง หากมีอะไรผิดปกติให้รีบไปตามหมอทันที” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวพร้อมถอดชุดที่เปื้อนเลือด จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอก

นางไม่สามารถดูแลทั้งสามคนได้ตลอดเวลา งานที่เหลือคงทำได้เพียงปล่อยให้เป็นความรับผิดชอบของทงจือและทงเหยา

“คุณหนูโปรดวางใจ” ทงเยาอยู่เฝ้าอาการของทั้งสามคน ทงจือเดินตามเฟิ่งชิงเฉินออกไปด้านนอก ชุนฮุ่ยและชิวฮว่าได้เตรียมน้ำร้อนเอาไว้ให้เฟิ่งชิงเฉินแล้ว ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินก้าวเข้าไปในเรือนก็สามารถอาบน้ำและเปลี่ยนชุดได้เลย

สาวใช้ทั้งห้าได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ภายในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที เฟิ่งชิงเฉินจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยสมบูรณ์ ปราศจากความเหนื่อยล้าและความอาดูรเหมือนก่อนหน้านี้

“คุณหนู ใบหน้าของคุณหนูดูมิค่อยดี มิต้องการแต่งหน้าสักหน่อยหรือ?” เมื่อปักปิ่นชิ้นสุดท้ายลงไป ตงชิงก็ถามออกมา

“มิเป็นไร ในจวนฝู่มิมีใครสนใจว่าใบหน้าของข้าจะงดงามหรือไม่” ไม่ใช่ว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ชอบความงดงาม แต่ในฐานะหมอคนหนึ่ง นางไม่สามารถรักษาความงามในขณะทำงานได้ ระหว่างที่ทำงาน เมื่อมีอะไรติดอยู่บนผิวหนังกลับทำให้รู้สึกรำคาญเสียมากกว่า

“คุณหนู มิมีใครคอยปกป้องท่าน ท่านออกไปด้านนอกจะเป็นอันตรายหรือไม่?” จากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำให้สาวใช้หลายคนตกใจ

“ข้ารู้ว่าชุนฮุ่ยกับชิวฮว่าพอเป็นมือเป็นเท้าให้ข้าได้ เช่นนั้นพวกเจ้าสองคนตามข้าไปแล้วกัน” เฟิ่งชิงเฉินลุกขึ้นเตรียมตัวออกเดินทาง

นางไม่สามารถเอาแต่หมกตัวอยู่ในจวนเฟิ่งไปทั้งชีวิตเพียงเพราะมีอันตรายรออยู่ด้านนอกได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง เช่นนั้นนางยอมตายเลยเสียดีกว่า

“ได้เจ้าค่ะ คุณหนู” ชุนฮุ่ยกับชิวฮว่าไม่เพียงแค่ไม่กลัวเท่านั้น แต่จิตวิญญาณในการต่อสู้ของพวกนางยังเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

หน้าที่ของลูกน้องก็คือการปกป้องเจ้านาย

เฟิ่งชิงเฉินเปลี่ยนคนขับรถม้าและสาวใช้คนใหม่ ภายใต้แรงกระตุ้นของขันทีน้อย นางเดินทางมาถึงจวนฝู่อีกครั้ง เหมือนกับที่เฟิ่งชิงเฉินคิดไว้ ในจวนฝู่ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับสีหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน และไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่านางเปลี่ยนสาวใช้และคนขับรถม้าคนใหม่ รวมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

สำหรับเจ้านายของเหล่าคนที่ต้องการมาลักพาตัวเมื่อวาน เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก แปลกใจว่าเขาเป็นผู้ใดกันแน่ เหตุใดถึงมีอำนาจอันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ สามารถปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองจักรพรรดิได้ แม้สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก แต่มีผู้คนมากมายที่กำลังจับตามองนางอยู่ เหตุใดถึงไม่มีใครส่งเสียงเลยแม้แต่น้อย?

น่าเสียดาย ไม่มีเวลาให้เฟิ่งชิงเฉินได้ครุ่นคิดนานขนาดนั้น หมอหลวงสามคนที่เปลี่ยนผลัดมาในวันนี้ ได้ยินเรื่องราวจากหมอหลวงสามคนเมื่อวาน ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามา พวกเขาก็รีบกล่าวทักทาย

เฟิ่งชิงเฉินรีบเก็บความคิดของนาง ยิ้มตอบรับคำทักทายของทั้งสามอย่างมีมารยาท ภายใต้คำถามและความตื่นเต้นของหมอหลวงทั้งสามคน เฟิ่งชิงเฉินหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาและตรวจสอบร่างกายของฝู่หลินพร้อมกับอธิบายให้พวกเขาฟัง

นี่มันผิดหลักทางวิทยาศาสตร์เกินไป

เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตนเองได้เห็น นางรีบขยี้ตาตัวเอง นางเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ทางการแพทย์ เนื่องจากนางเห็นคนมากมายที่คาดหวังกับปาฏิหาริย์ทางการแพทย์จนต้องตายจากไป

“เหตุใดข้าจะฟื้นขึ้นมามิได้ มีอะไรงั้นหรือ หรือเจ้าอยากให้ข้าตาย?” ฝู่หลินนอนอยู่บนเตียงไม่เคลื่อนไหว ท่าทางตกใจของเฟิ่งชิงเฉินทำให้เขารู้สึกมีความสุข

นี่ยิ่งทำให้เฟิ่งชิงเฉินอยากให้เขาตายขึ้นไปอีก แต่เขาก็ยิ่งไม่อยากตาย การที่ได้เห็นท่าทางตกใจเช่นนี้ของเฟิ่งชิงเฉินก็ถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาก่อนหน้านี้นั้นคุ้มค่า

“ไม่ เจ้าจะเป็นหรือตายก็มิเกี่ยวอะไรกับข้า ข้าแค่มิอยากจะเชื่อว่าเจ้าจะสามารถคว้าโอกาสเพียงหนึ่งส่วนนั้นเอาไว้ได้ มันช่างน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก” เฟิ่งชิงเฉินส่ายหน้าอย่างงุนงง

“เดี๋ยวก่อน ข้าขอตรวจร่างกายเจ้าสักเล็กน้อย” เฟิ่งชิงเฉินรีบหันกลับมาพร้อมกับเปิดกล่องยาพร้อมกับใช้กระเป๋าเครื่องมือแพทย์

ยังคงมีไข้และอ่อนแอ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าฝู่หลินฟื้นขึ้นมาแล้ว เฟิ่งชิงเฉินตรวจสอบให้แน่ใจอยู่หลายครั้งพบว่าการวินิจฉัยนั้นถูกต้อง นางจึงยื่นมือขวาไปด้านหน้าของฝู่หลิน

ฝู่หลินรู้สึกประหลาดใจโดยไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินต้องการทำอะไร เห็นมือซึ่งอยู่ด้านหน้า ฝู่หลินทำตามเฟิ่งชิงเฉินโดยการยื่นมือขวาออกไป

เท่านั้นจริง ๆ มันเป็นการเคลื่อนไหวอันง่ายดาย แต่สำหรับฝู่หลินมันเป็นการสูญเสียพลังงานจำนวนมาก และในตอนที่เขากำลังจะลดมือลง เฟิ่งชิงเฉินก็จับมือของเขาไว้......

ได้สัมผัสกับฝ่ามืออันเยือกเย็นของเฟิ่งชิงเฉิน ฝู่หลินรู้สึกว่ามันคุ้มค่าแม้ว่าจะต้องใช้พลังทั้งหมดที่มีก็ตาม!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ